แบงก์กสิกรฯ คาดมาตรการกระตุ้น ศก.ชุดแรก 8 แสนล้าน ดันยอดสินเชื่อ SME Q2/52 โตได้แน่ หลังตัวเลข Q1/52 ติดลบ เพราะปัจจัยลบท่วม
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กล่าวว่า ธนาคารคาดการณ์สินเชื่อเอสเอ็มอี ในไตรมาส 2 ปี 2552 เติบโตอยู่ที่ 3% จากไตรมาส 1 ปี 2552 ที่ติดลบ 4% เนื่องจากเริ่มเห็นผลจากมาตรการ 8 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลมีการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีได้รับประโยชน์ อาทิเช่น ผู้ประกอบการธุรกิจสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม
“คาดว่า ไตรมาสแรก สินเชื่อเอสเอ็มอีจะติดลบ เพราะอุตสาหกรรมส่งออกยังไม่มีความชัดเจน และได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อีกทั้งได้รับผลจากปัญหาการเมือง ในเรื่องการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่าน ทำให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายในการในการท่องเที่ยวทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ”
อย่างไรก็ตาม ธนาคารมั่นใจว่า ธุรกิจท่องเที่ยวจะสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2552 และไตรมาส 4 ปี 2552 เนื่องจากรัฐบาลได้มีการเร่งฟื้นฟูความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้มีความมั่นใจในการป้องกันปัญหาที่ดีขึ้น รวมทั้งในช่วงไตรมาส 3 ปี 2552 และไตรมาส 4 ปี 2552 จะป็นช่วง High Season ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงช่วงพฤษภาคมที่ผ่านมา ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อเอสเอ็มอีไปแล้ว 8-9 พันล้านบาท
นายปกรณ์ กล่าวอีกว่า ธนาคารยังไม่มีนโยบายปลดพนักงานออกในโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด หรือ เออร์ลี รีไทร์ แม้ว่าก่อนหน้านี้มีธนาคารพาณิชย์อื่นเริ่มมีนโยบายดังกล่าวแก่พนักงานที่เต็มใจ หลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 (วันนี้) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)ออกมาประกาศว่าธนาคารมีนโยบายให้พนักงานออก ในโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (เออร์ลี รีไทร์) แบบสมัครใจ
ทั้งนี้ ธ.ทหารไทย ได้เปิดโครงการไตรมาส 3 ใช้งบกว่า 800 ล้านบาท ธ.ไทยพาณิชย์ ระบุว่าไม่ได้ต้องการลดต้นทุนแต่เพิ่มทางเลือกให้พนักงานที่ไม่ไหว ยื่นข้อเสนอ สูงสุด 28 เดือน ขณะที่ ธ.กรุงศรีฯ จะเลือกพนักงาน อายุ 45 ปีขึ้นไปจ่ายสูงสุด 16 เดือน
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK กล่าวว่า ธนาคารคาดการณ์สินเชื่อเอสเอ็มอี ในไตรมาส 2 ปี 2552 เติบโตอยู่ที่ 3% จากไตรมาส 1 ปี 2552 ที่ติดลบ 4% เนื่องจากเริ่มเห็นผลจากมาตรการ 8 แสนล้านบาท ที่รัฐบาลมีการออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีได้รับประโยชน์ อาทิเช่น ผู้ประกอบการธุรกิจสินค้าอาหาร เครื่องดื่ม
“คาดว่า ไตรมาสแรก สินเชื่อเอสเอ็มอีจะติดลบ เพราะอุตสาหกรรมส่งออกยังไม่มีความชัดเจน และได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว อีกทั้งได้รับผลจากปัญหาการเมือง ในเรื่องการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่าน ทำให้ประชาชนลดค่าใช้จ่ายในการในการท่องเที่ยวทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ”
อย่างไรก็ตาม ธนาคารมั่นใจว่า ธุรกิจท่องเที่ยวจะสามารถฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2552 และไตรมาส 4 ปี 2552 เนื่องจากรัฐบาลได้มีการเร่งฟื้นฟูความมั่นใจแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติให้มีความมั่นใจในการป้องกันปัญหาที่ดีขึ้น รวมทั้งในช่วงไตรมาส 3 ปี 2552 และไตรมาส 4 ปี 2552 จะป็นช่วง High Season ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีถึงช่วงพฤษภาคมที่ผ่านมา ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อเอสเอ็มอีไปแล้ว 8-9 พันล้านบาท
นายปกรณ์ กล่าวอีกว่า ธนาคารยังไม่มีนโยบายปลดพนักงานออกในโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด หรือ เออร์ลี รีไทร์ แม้ว่าก่อนหน้านี้มีธนาคารพาณิชย์อื่นเริ่มมีนโยบายดังกล่าวแก่พนักงานที่เต็มใจ หลังได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย
มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 26 พฤษภาคม 2552 (วันนี้) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)ออกมาประกาศว่าธนาคารมีนโยบายให้พนักงานออก ในโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (เออร์ลี รีไทร์) แบบสมัครใจ
ทั้งนี้ ธ.ทหารไทย ได้เปิดโครงการไตรมาส 3 ใช้งบกว่า 800 ล้านบาท ธ.ไทยพาณิชย์ ระบุว่าไม่ได้ต้องการลดต้นทุนแต่เพิ่มทางเลือกให้พนักงานที่ไม่ไหว ยื่นข้อเสนอ สูงสุด 28 เดือน ขณะที่ ธ.กรุงศรีฯ จะเลือกพนักงาน อายุ 45 ปีขึ้นไปจ่ายสูงสุด 16 เดือน