แอลจีเดินหน้าโฟกัสสินค้าเพื่อสุขภาพ ลอนช์ แคมเปญ “เฮลท์พลัส คอลเลคชั่น” ทั่วเอเชีย ไทยเปิดตัวเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากมาเลเซีย เซอร์ไพรส์ภาพหมวดเอชเอโต 10% ทั่วเอเชีย หลังทำใจน่าจะติดลบ ส่วนไทยโต 15% ชูแอร์หัวหอกดันยอดขาย ซุ่มพัฒนานวัตกรรมต่อต้านเชื้อไวรัสในอากาศ เตรียมหาสถาบันรองรับในอนาคต สิ้นปีมั่นใจหมวดเอชเอโตไม่ต่ำกว่า 20% แน่
นายเฮียน (วู) ฮาเวิร์ด ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ จะไม่ค่อยดี แต่กระแสการรักสุขภาพยังเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่าเดิม ซึ่งสอดคล้องกับทางแอลจีเอง ที่ได้เดินหน้าพัฒนาสินค้าที่มีเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดจึงได้เปิดตัวแคมเปญ “เฮลท์พลัส คอลเลคชั่น” ขึ้นมาทั่วเอเชีย ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 2 ที่ได้เปิดตัวแคมเปญนี้ในเซาส์อีสเอเชีย ต่อจากมาเลเซีย โดยหลังจากนี้จะทยอยเปิดตัวใน เวียดนาม, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และอินเดีย ตามลำดับ ขณะที่ในประเทศเกาหลีได้มีการเปิดตัวแคมเปญดังกล่าวมานานแล้ว และได้รับการตอบเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค
ทั้งนี้ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ภาพรวมยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือเอชเอ ในเอเชียมีการเติบโตกว่า 10% เป็นตัวเลขการเติบโตที่สูงเกินความคาดหมาย จากที่มองว่าอาจจะติดลบ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตในกลุ่มเอชเอสูงสุดที่ 14% และรองลงมาคือ อินเดียมีการเติบโตของกลุ่มเอชเอที่ประมาณ 10%
นายอลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า สำหรับแคมเปญ“เฮลท์พลัส คอลเลคชั่น” ทั่วเอเชียใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านเหรียญ ขณะที่ไทยใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่อยู่ในแคมเปญนี้ จะเป็นสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 27 รุ่น ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศ 4 รุ่น, ตู้เย็น 8 รุ่น, เครื่องซักผ้า 12 รุ่น, เครื่องอบไมโครเวฟ 1 รุ่น, เครื่องดูดฝุ่น 1 รุ่น, และเครื่องล้างจาน 1 รุ่น โดยราคาที่วางจำหน่ายนั้น จะสูงกว่าสินค้าในฟังก์ชั่นปกติตั้งแต่ 10-30% สิ้นปีนี้มองว่าสินค้าในกลุ่มเอชเอจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยสัดส่วนยอดขายกว่า 40% จะมาจากสินค้าในกลุ่มเฮลท์พลัส
สำหรับตัวเลขการเติบโตโดยรวมของแอลจี ประเทศไทย ในช่วง 3-4 เดือนนี้ เติบโตขึ้นกว่า 15% ขณะที่สินค้าในกลุ่มเอชเอ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศมีอัตราการเติบโตสูงสุดถึง 33% รองลงมา คือ เครื่องซักผ้า 19% และแอลซีดี ทีวี โต 17% โดยทั้งปีเชื่อมั่นว่ากลุ่มเอชเอจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 20% โดยมีเครื่องปรับอากาศเป็นหัวหอกสำคัญในการดันยอดขาย
**ชูเครื่องปรับอากาศ ต้านเชื้อไวรัส**
อย่างไรก็ตาม จากการพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในส่วนของเครื่องปรับอากาศนั้น ได้มีการพัฒนาในส่วนของฟิวเตอร์ในการดักจับเชื้อไวรัสในอากาศ ได้เป็นอย่างดี โดยในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาในห้องทดลอง แต่ในระยะอันใกล้นี้มีความเป็นไปได้ที่จะร่วมกับสถาบันต่างๆให้การรองรับถึงประสิทธิภาพการทำงานในการต้านเชื้อไวรัสต่อไป
ดังนั้นการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศในกลุ่มเฮลท์พลัส ที่เบื้องต้นได้รับการรับรองจากสถาบันภูมิแพ้อังกฤษ ที่สามารถกรองสารก่อภูมิแพ้ และฝุ่นละอองในอากาศ จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี
นายเฮียน (วู) ฮาเวิร์ด ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า แม้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ จะไม่ค่อยดี แต่กระแสการรักสุขภาพยังเป็นเรื่องที่ผู้บริโภคให้ความสนใจไม่น้อยไปกว่าเดิม ซึ่งสอดคล้องกับทางแอลจีเอง ที่ได้เดินหน้าพัฒนาสินค้าที่มีเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดจึงได้เปิดตัวแคมเปญ “เฮลท์พลัส คอลเลคชั่น” ขึ้นมาทั่วเอเชีย ซึ่งไทยเป็นประเทศที่ 2 ที่ได้เปิดตัวแคมเปญนี้ในเซาส์อีสเอเชีย ต่อจากมาเลเซีย โดยหลังจากนี้จะทยอยเปิดตัวใน เวียดนาม, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และอินเดีย ตามลำดับ ขณะที่ในประเทศเกาหลีได้มีการเปิดตัวแคมเปญดังกล่าวมานานแล้ว และได้รับการตอบเป็นอย่างดีจากผู้บริโภค
ทั้งนี้ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ภาพรวมยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หรือเอชเอ ในเอเชียมีการเติบโตกว่า 10% เป็นตัวเลขการเติบโตที่สูงเกินความคาดหมาย จากที่มองว่าอาจจะติดลบ ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้นถือเป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตในกลุ่มเอชเอสูงสุดที่ 14% และรองลงมาคือ อินเดียมีการเติบโตของกลุ่มเอชเอที่ประมาณ 10%
นายอลงกรณ์ ชูจิตร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวต่อว่า สำหรับแคมเปญ“เฮลท์พลัส คอลเลคชั่น” ทั่วเอเชียใช้งบประมาณกว่า 10 ล้านเหรียญ ขณะที่ไทยใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่อยู่ในแคมเปญนี้ จะเป็นสินค้าในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน 27 รุ่น ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศ 4 รุ่น, ตู้เย็น 8 รุ่น, เครื่องซักผ้า 12 รุ่น, เครื่องอบไมโครเวฟ 1 รุ่น, เครื่องดูดฝุ่น 1 รุ่น, และเครื่องล้างจาน 1 รุ่น โดยราคาที่วางจำหน่ายนั้น จะสูงกว่าสินค้าในฟังก์ชั่นปกติตั้งแต่ 10-30% สิ้นปีนี้มองว่าสินค้าในกลุ่มเอชเอจะมีการเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยสัดส่วนยอดขายกว่า 40% จะมาจากสินค้าในกลุ่มเฮลท์พลัส
สำหรับตัวเลขการเติบโตโดยรวมของแอลจี ประเทศไทย ในช่วง 3-4 เดือนนี้ เติบโตขึ้นกว่า 15% ขณะที่สินค้าในกลุ่มเอชเอ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศมีอัตราการเติบโตสูงสุดถึง 33% รองลงมา คือ เครื่องซักผ้า 19% และแอลซีดี ทีวี โต 17% โดยทั้งปีเชื่อมั่นว่ากลุ่มเอชเอจะมีอัตราการเติบโตอย่างน้อย 20% โดยมีเครื่องปรับอากาศเป็นหัวหอกสำคัญในการดันยอดขาย
**ชูเครื่องปรับอากาศ ต้านเชื้อไวรัส**
อย่างไรก็ตาม จากการพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในส่วนของเครื่องปรับอากาศนั้น ได้มีการพัฒนาในส่วนของฟิวเตอร์ในการดักจับเชื้อไวรัสในอากาศ ได้เป็นอย่างดี โดยในขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาในห้องทดลอง แต่ในระยะอันใกล้นี้มีความเป็นไปได้ที่จะร่วมกับสถาบันต่างๆให้การรองรับถึงประสิทธิภาพการทำงานในการต้านเชื้อไวรัสต่อไป
ดังนั้นการเปิดตัวเครื่องปรับอากาศในกลุ่มเฮลท์พลัส ที่เบื้องต้นได้รับการรับรองจากสถาบันภูมิแพ้อังกฤษ ที่สามารถกรองสารก่อภูมิแพ้ และฝุ่นละอองในอากาศ จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี