xs
xsm
sm
md
lg

โพลชี้คนไทยใช้ชีวิตพอเพียงมากขึ้น อึ้ง! 74% มองคอรัปชั่นเป็นเรื่องปรกติ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“เอแบคโพลล์” เผย คนไทย 67.6% เคร่งครัดใช้ชีวิตพอเพียงมากขึ้น หลังเผชิญมรสุมเศรษฐกิจ ทั้งการเลือกซื้อสินค้า และการใช้จ่าย เน้นซื้อสินค้าคุณภาพดี-ราคาถูก รวมถึงการเก็บรักษาข้าวของเครื่องใช้มากขึ้น พร้อมแสดงความเป็นห่วงการทุจริตคอรับชั่น โดยมีประชาชนส่วนใหญ่ถึง 74.7% เห็นว่า เป็นเรื่องธรรมดาในการทำธุรกิจ อาจกระทบต่อภาพลักษณ์ความซื่อสัตย์ และการบริหารงานของรัฐบาล ในอนาคต

ศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบคโพลล์) เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ไลฟ์สไตล์ของประชาชนในการเลือกซื้อและใช้สินค้าในช่วงสภาวะเศรษฐกิจถดถอย” โดยพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ระบุว่าค่อนข้างเคร่งครัดในการใช้ชีวิตแบบพอเพียงในเดือนพฤษภาคม 2552 มากขึ้นกว่าในการสำรวจเดือนมีนาคม 2552 ถึง 67.6% ขณะที่ประชาชนอีก 32.4% บอกว่า ไม่ค่อยเคร่งครัดเลย

สำหรับปัจจัย 3 อันดับแรกที่มีผลต่อการเลือกซื้อสินค้าและบริการในปัจจุบัน อันดับแรก 89% คือ คุณภาพของสินค้า รองลงมา 82.4% คือ ราคา และ 64.8% เป็นความสะดวกในการซื้อหรือใช้บริการ

นอกจากนี้ การสำรวจสภาพความเป็นจริงของชีวิตในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ต่างรักษาข้าวของเครื่องใช้ให้คงสภาพการใช้งานได้ยาวนาน การมุ่งทำงานเพื่อให้พออยู่พอกินและมีเงินเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น การวางแผนการใช้จ่ายและหารายได้อย่างเป็นขั้นตอนรัดกุม ตลอดจนการทำงานหารายได้พิเศษเพิ่มเติม และจากการสำรวจยังพบว่า ประชาชนลดการซื้อหวยรัฐบาลและหวยใต้ดินลงจากการสำรวจครั้งก่อนในเดือนมีนาคม 2552 อีกด้วย

ทั้งนี้ มีประเด็นน่าสนใจสำหรับการสำรวจครั้งนี้เกี่ยวกับความคิดเห็นเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นในการทำธุรกิจ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ถึง 74.7% ค่อนข้างเห็นด้วยว่า การทุจริตคอร์รัปชันเป็นเรื่องธรรมดาในการทำธุรกิจ โดยประชาชนที่เห็นด้วยส่วนใหญ่มาจากทุกกลุ่มอาชีพ เช่น ข้าราชการ รัฐวิสาหกิจ พนักงานเอกชน ธุรกิจส่วนตัว เกษตรกร แม่บ้าน รวมไปถึงนักเรียนนักศึกษา โดยมีประชาชนเพียง 25.3% ที่ไม่เห็นด้วยกับเรื่องดังกล่าว

นายนพดล กรรณิกา ผอ.ศูนย์วิจัยเอแบค กล่าวว่า ในสภาวะเศรษฐกิจถดถอย การเมืองและสังคมกำลังอยู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อขณะนี้ ประชาชนส่วนใหญ่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตในการจับจ่ายใช้สอย โดยคำนึงถึงคุณภาพสินค้า ราคา และการใช้งานได้อย่างคงทนยาวนาน มีการประยุกต์ใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงมากขึ้น แต่ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของการใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง

“ผลวิจัยครั้งนี้กลับพบว่า ยังคงมีทัศนคติต่อการทุจริตคอร์รัปชันที่รุนแรงมากขึ้นในกลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน กลุ่มพ่อค้าผู้ประกอบการธุรกิจ และกลุ่มข้าราชการ หากรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่มี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และมีภาพลักษณ์ด้านความซื่อสัตย์สุจริต ถูกทำลายความน่าเชื่อถือในจุดแข็งหลักสำคัญด้านนี้ไป ก็นับเป็นสัญญาณอันตรายที่จะเริ่มนับถอยหลังของการบริหารราชการแผ่นดิน”

ผลสำรวจดังกล่าวมาจากความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ 17 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 1,362 ครัวเรือน ในวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 ที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น