นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเอแบคนวัตกรรมทางสังคม การจัดการและธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลสำรวจ "เอแบคเรียลไทม์โพลล์ (ABAC Real-Time Survey)" สำรวจเรื่อง ประชาชนกลัวอะไรหวัดหมูหรือหมูแพง กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนใน 17 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย เพชรบูรณ์ ปทุมธานี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา กาญจนบุรี เพชรบุรี หนองบัวลำภู สกลนคร ศรีสะเกษ ขอนแก่น พัทลุง ระนอง และสุราษฎร์ธานี จำนวนทั้งสิ้น 1,361 ครัวเรือน ในวันที่ 28 เมษายน 2552 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่คือร้อยละ 94.1 ระบุรับทราบข่าวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศเม็กซิโกแล้ว มีเพียงร้อยละ 5.9 เท่านั้นที่ยังไม่ทราบข่าวการแพร่ระบาดดังกล่าว
ส่วนความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทยนั้น พบว่าร้อยละ 14 ระบุมีความกังวลมาก-มากที่สุด ร้อยละ 17.2 ระบุค่อนข้างมาก ร้อยละ 31.6 ระบุค่อนข้างน้อย และร้อยละ 37.2 ระบุน้อย-ไม่กังวลในเรื่องนี้เลย ร้อยละ 37.7 ระบุเชื่อมั่นต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวในประเทศไทยมาก ร้อยละ 36 ระบุค่อนข้างมาก ในขณะที่ร้อยละ 16.3 ระบุค่อนข้างน้อย และร้อยละ 10 ระบุน้อย-ไม่เชื่อมั่นเลย
เมื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กับการที่สุกรมีราคาแพงพบว่าร้อยละ 55.8 กลัวว่าเนื้อสุกรจะมีราคาแพงมากกว่า ในขณะที่ร้อยละ 44.2 ระบุกลัวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มากกว่า
นายนพดล กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนมีความกังวลค่อนข้างน้อยถึงไม่กังวลเลยต่อการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุใหม่ที่แพร่ระบาดในเม็กซิโก และส่วนใหญ่ค่อนข้างเชื่อมั่นถึงเชื่อมั่นมากที่สุดต่อการป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศไทย และคนเกินครึ่งกลัวเนื้อสุกรราคาแพงมากกว่า กลัวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม คนที่กลัวการแพร่ระบาดของไข้หวัดในคนยังมีจำนวนมากพอสมควร คือกว่าร้อยละ 40 นั่นหมายความว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องแสดงมาตรการต่าง ๆ ออกมาให้ชัดเจนและต่อเนื่องต่อไปว่า สามารถป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไข้หวัดได้จนความกลัวของประชาชนคลี่คลายหมดไป
ส่วนความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทยนั้น พบว่าร้อยละ 14 ระบุมีความกังวลมาก-มากที่สุด ร้อยละ 17.2 ระบุค่อนข้างมาก ร้อยละ 31.6 ระบุค่อนข้างน้อย และร้อยละ 37.2 ระบุน้อย-ไม่กังวลในเรื่องนี้เลย ร้อยละ 37.7 ระบุเชื่อมั่นต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ดังกล่าวในประเทศไทยมาก ร้อยละ 36 ระบุค่อนข้างมาก ในขณะที่ร้อยละ 16.3 ระบุค่อนข้างน้อย และร้อยละ 10 ระบุน้อย-ไม่เชื่อมั่นเลย
เมื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่กับการที่สุกรมีราคาแพงพบว่าร้อยละ 55.8 กลัวว่าเนื้อสุกรจะมีราคาแพงมากกว่า ในขณะที่ร้อยละ 44.2 ระบุกลัวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่มากกว่า
นายนพดล กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ประชาชนมีความกังวลค่อนข้างน้อยถึงไม่กังวลเลยต่อการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุใหม่ที่แพร่ระบาดในเม็กซิโก และส่วนใหญ่ค่อนข้างเชื่อมั่นถึงเชื่อมั่นมากที่สุดต่อการป้องกันการแพร่ระบาดในประเทศไทย และคนเกินครึ่งกลัวเนื้อสุกรราคาแพงมากกว่า กลัวการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม คนที่กลัวการแพร่ระบาดของไข้หวัดในคนยังมีจำนวนมากพอสมควร คือกว่าร้อยละ 40 นั่นหมายความว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังต้องแสดงมาตรการต่าง ๆ ออกมาให้ชัดเจนและต่อเนื่องต่อไปว่า สามารถป้องกันและเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไข้หวัดได้จนความกลัวของประชาชนคลี่คลายหมดไป