ปธ.เฟด ส่งสัญญาณเตือน 19 แบงก์พาณิชย์ของสหรัฐฯ หากประสบปัญหาอีกรอบ ศก.โลกเจอศึกหนักแน่ ตลาดเงินจับตา 3 แบงก์ยักษ์ ลุ้นผลประเมิน stress tests วันที่ 7 พ.ค.นี้
รายงานข่าวบนเว็บไซต์บลูมเบิร์กดอทคอม ระบุว่า นายเบน เบอร์นันกีผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้กล่าววาทะทางการเงินในการตอบกระทู้คณะกรรมาธิการเศรษฐกิจร่วมสองสภาในสภาคองเกรส วานนี้ โดยกล่าวเตือนว่า หากภาคสถาบันการเงินสหรัฐฯ ประสบปัญหาอีกรอบ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
เบอร์นันกี ระบุว่า หากภาคสถาบันการเงินอยู่ในภาวะขาดเสถียรภาพอีกครั้งกิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯอาจหยุดชะงัก และย่อมส่งผลให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงักเช่นกัน
การแสดงความเห็นดังกล่าวของนายเบอร์นันกี เกิดขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ว่า แบงก์ออฟอเมริกามีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนจำนวนมาก หลังเสร็จสิ้นการตรวจสอบสถานะทางการเงินอย่างเคร่งครัด (stress tests) ซึ่งจะมีการแถลงในวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 นี้
ขณะที่ก่อนหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจต้องเผชิญภาวะถดถอยในปีนี้ ก่อนที่จะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีหน้า อย่างไรก็ตาม นายเบอร์นันกีกล่าวว่า การหดตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นในอัตราที่ชะลอลง เนื่องจากตลาดที่อยู่อาศัยสหรัฐฯผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว หลังเผชิญภาวะซบเซายาวนานกว่า 3 ปี
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ธนาคารยักษ์ใหญ่ 19 แห่งทั่วสหรัฐที่ถูกตรวจสอบสถานะความแข็งแกร่งทางการเงินนั้น มีธนาคารถึง 10 แห่งที่รัฐบาลต้องสั่งให้ดำเนินมาตรการเพิ่มทุน ทว่าตลาดหุ้นยุโรปกลับดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือนทันที เนื่องจากคาดกันว่าการเพิ่มทุนครั้งนี้ยังอยู่ในวงจำกัด และธนาคารไม่จำเป็นต้องขอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลครั้งใหม่
รายงานยังระบุว่า เฟด และกระทรวงการคลัง จะแถลงผลประเมินให้ธนาคารทั้ง 19 แห่ง รับทราบภายในวันนี้ ก่อนประกาศต่อสาธารณชนวันที่ 7 พฤษภาคม 2552 ซึ่งคาดว่าธนาคารที่อยู่ในกลุ่มเพิ่มทุน จะเตรียมแผนทุนได้ในสัปดาห์นี้ เพื่อไม่ให้นักลงทุนตื่นตระหนก
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ธนาคารที่คาดว่าต้องดำเนินมาตรการเพิ่มทุนนั้น จะรวมถึง ซิตี้กรุ๊ป อิงก์ แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลส์ ฟาร์โก ซึ่งเป็นกลุ่มธนาคารรายใหญ่ที่สุดในประเทศ ขณะที่หนังสือพิมพ์ วอลสตรีต เจอร์นัล คาดว่าอาจมีธนาคารที่เข้าข่ายมากถึง 14 แห่ง
ทั้งนี้ ดัชนีเอฟทีเอสอี 100 ของอังกฤษ พุ่งขึ้นถึง 3.4% หรือพุ่งสูงสุดรอบ 4 เดือน เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าการเพิ่มทุนยังอยู่ในวงที่จำกัด ทว่าดัชนีล่วงหน้าตลาดสหรัฐกลับร่วงลงเล็กน้อยกับความกังวลต่อภาคการเงินโดยรวมในสหรัฐฯ โดยเอสแอนด์พี 500 ลดลง 0.4% อยู่ที่ 898.8 จุด