xs
xsm
sm
md
lg

“มาร์ค” หวั่นร่างงบปี 53 สะดุด คาดหนี้สาธารณะพุ่ง 60% ของจีดีพี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“มาร์ค” ยอมรับสภาพ พิษเศรษฐกิจทำงบปี 53 ส่อเค้าร่อแร่ พร้อมคาด “หนี้สาธารณะ” อาจพุ่งถึง 60% ของจีดีพี รัฐบาลจำเป็นต้องกู้เงินนอกโป๊ะ แม้แหล่งเงินกู้ในประเทศจะมีสูงถึง 8 แสนล้าน

ที่สำนักงานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ อาคารพญาไท พลาซ่า เมื่อเวลา 09.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในการบรรยายเรื่อง “แนวนโยบายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และสังคม” โดยใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจจะวางหลักใหญ่ๆ สำคัญ คือ จุดแข็งของประเทศอยู่ที่การวางแผนด้านการเกษตร การผลิตอาหาร และพลังงานทดแทนเป็นทิศทางสำคัญ อีกทั้งเพิ่มผลผลิต และประสิทธิภาพทางการเกษตร รวมไปถึงการกระจายแหล่งน้ำ

อันดับสองคือ ภาคอุตสาหกรรมด้านยานยนต์ให้สนับสนุนพลังงานทดแทน และอิเล็กทรอนิคในบางส่วน สิ่งสำคัญสนับสนุนเศรษฐกิจอิงความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นอีกทั้งการสร้างมูลค่าเพิ่มผสานต้นทุนทางวัฒนธรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้า โดยสนับสนุนด้านการศึกษาวิจัยและมีระบบคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ในด้านการภาคบริการมีศักยภาพเติบโตมากรวมไปถึงการท่องเที่ยวอีกด้วย จะต้องมีการปรับโครงสร้างการลงทุน

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า สภาพปัญหาที่เกิดขึ้นรัฐบาลได้รวบรวมแผนการลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 จำนวน 1.5 ล้านล้านบาท ในปลายปีข้างหน้าซึ่งเริ่มต้นได้ในปีนี้ทั้งแหล่งน้ำ ระบบโลจิสติก ระบบรถไฟรางคู่ สาธารณูปโภคพื้นฐาน ในด้านการศึกษารัฐบาลต้องปรับปรุงคุณภาพ ในด้านสาธารณสุขจะยกระดับคุณภาพของสถานีอนามัยตำบลให้เป็นโรงพยาบาล สร้างเสริมสุขภาพระดับตำบล

ขณะเดียวกัน โรคที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง เป็นเหตุสำคัญที่คนไทยเสียชีวิต เช่นโรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคไต และเบาหวาน เป็นเรื่องที่จะต้องมีการลงทุน รวมไปถึงการทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งหลายประเทศกำลังรณรงค์อยู่ในการกระตุ้นและปรับโครงสร้างพร้อมๆกัน ในด้านการพัฒนา 3 และ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องมีการยกระดับรายได้ขึ้นมาอย่างชัดเจนเพื่อช่วยเหลือเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบด้วย

นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ประเด็นปัญหาคือ เรื่องตัวเลขในการจัดเก็บภาษีปีงบประมาณปัจจุบันจัดเก็บต่ำกว่าเป้าไม่ต่ำกว่า 2 แสนล้านแน่นอน สำหรับงบประมาณปี 53 ต้องมีงบน้อยกว่าปี 52 งบประมาณต้องลดลง ถ้าเราจะต้องขาดดุลอยู่ในระดับที่กำหนดในกฎหมาย งบต้องลดลง อย่าว่างบประมาณที่ใครหวังว่าจะได้งบประมาณมากกว่าเดิม จะมากกว่าปีที่แล้วก็ไม่ได้ หรือได้เท่าปีปัจจุบันก็ไม่ได้ หมายความว่า ถ้าหักงบประจำหรืองบผูกผัน ก็แทบจะไม่มีโครงการใหม่เลยในงบปี 53 นี่คือข้อจำกัด ในแง่ของการบริหารงบ 1.5 ล้านล้าน ต้องแบ่งเบาโดยให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินการ โดย พีพีพี ในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และการกู้เงิน

ในต่างประเทศขณะนี้ต้องยอมรับว่าจำเป็นต้องกู้เงิน ทั้งไอเอ็มเอฟ และเวิลด์แบงก์ในขณะนี้เปิดรูปแบบเงินกู้ใหม่ทั้งสิ้น เพื่อช่วยแก้ปัญหากระตุ้นเศรษฐกิจ ทุกประเทศเห็นพ้องต้องกันมากว่าต้องกู้เงิน เพื่อลงทุนและรักษาฐานทางเศรษฐกิจของตัวเอง ส่วนหนี้สาธารณะอยู่ที่ร้อยละ 40 ของจีดีพี และเชื่อว่า จะพุ่งสูงถึงร้อยละ 60 กว่าๆ ของจีดีพี ใกล้เคียงกับวิกฤตเศรษฐกิจรอบที่แล้วที่พุ่งสูงถึงร้อยละ 65 เป็นตัวเลขที่ทั่วโลกยอมรับได้ ไม่น่าตกใจว่าจะกระทบต่อเสถียรภาพ

ส่วนการกู้เงินตนเชื่อว่า จะสามารถกู้เงินภายในประเทศได้โดยไม่กระทบ เพราะในระบบสถาบันการเงินมีเงินเยอะ แต่ไม่ปล่อยกู้ ซึ่งรัฐบาลพยายามอย่างมากทั้งนโยบายดอกเบี้ยชัดเจน ตามหลักเกณฑ์ปัจจุบันสถาบันทางการเงินไม่ปล่อย เพราะไม่มั่นใจกลัวความเสี่ยง ซึ่งข้อเท็จจริงนั้นมีการประเมินว่ามีถึง 8 แสนล้าน ฉะนั้นกาที่รัฐบาลจะกู้เงินในประเทศดึงสภาพคล่องออกมาถือว่าทำได้

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ด้านสังคมปัญหาต่างๆ พัวพันกับเศรษฐกิจและค่านิยม เช่น ปัญหายาเสพติด มาจากความเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมอย่างแน่นอน อีกทั้งปัญหาเรื่องเอดส์ ทั้งหมดนี้จะต้องปรับเรื่องทัศนคติ ค่านิยมโดยหัวใจสำคัญอยู่ที่สื่อสารมวลชน เพราะมีอิทธิพลต่อคนรุ่นใหม่มากที่สุด ขณะเดียวกันโลกของสื่อก็เปลี่ยนไป อย่างปัญหาการเมืองที่แก้ปัญหายากขึ้น เพราะคนในประเทศรับข้อมูลคนละชุด สามารถเลือกรับข้อมูลในสิ่งที่ตนเองอยากจะเชื่อ ถือเป็นเรื่องยาก เรื่องเดียวกันข้อมูลคนละชุด เป็นเรื่องยากมาก รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจและมองว่าจะทำอย่างไรให้มีจุดร่วมมากกว่าขยายจุดต่าง และนโยบายสำคัญ คือ การรุกสร้างพื้นที่ดีไล่พื้นที่ไม่ดี ทางกายภาพคือ มีพื้นที่ให้เยาวชนสร้างสรรค์มากขึ้น ในด้านสื่อหมายความว่า โลกไซเบอร์ทำอย่างไรให้มีสิ่งดีมากขึ้นเพื่อเบียดของเสียให้น้อยลง เพื่อแก้ปัญหาสังคม
กำลังโหลดความคิดเห็น