ครม.ตั้ง คกก.แห่งชาติ เกาะติด-รับมือไข้หวัดเม็กซิโก พร้อมงัดมาตรการดูแลการท่องเที่ยว-สายการบิน “มาร์ค” ยันรัฐบาลยังไม่สั่งห้ามคนไทยไปนอก แต่เฝ้าระวังการเดินทางเข้า เตรียมแผนดึงนักท่องเที่ยวเข้าไทย โดยสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยจากเชื้อโรค พร้อมไฟเขียวจัดงบ 200 ล้านบาท เพื่อประกันความเสี่ยงนักท่องเที่ยวหัวละ 1 หมื่นดอลลาร์
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ ที่ประชุมมีมติตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อติดตามและดูแลการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากประเทศเม็กซิโก โดยมี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งมีรูปแบบการดำเนินงานคล้ายกับการกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาไข้หวัดนก
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับรายงานความคืบหน้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินผลกระทบ และวางแนวทางเพื่อกำหนดมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด พร้อมเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเบื้องต้นได้ประเมินว่า การแพร่ระบาดของไข้หวัดได้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสายการบิน และธุรกิจด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างประเทศ และการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.โดยระบุว่า ที่ประชุม ครม.วันนี้ เห็นว่า ระบบการเฝ้าระวังจะต้องทำในลักษณะที่เชื่อมโยงได้ทุกหน่วยงานอย่างมีเอกภาพ จึงได้มอบหมายให้ พล.ต.สนั่น เป็นประธานคณะกรรมการที่จะดูแลมาตรการการเฝ้าระวัง โดยทำงานประสานกับองค์การอนามัยโลก (WHO) และต่างประเทศ
นอกจากนี้ รัฐบาลจะพยายามทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เชื่อมั่นว่า การเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจะได้รับความปลอดภัยจากเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จากประเทศเม็กซิโก เนื่องจากยังไม่พบเชื้อดังกล่าวในประเทศไทยไม่ว่าจะในคนหรือในสุกร
“มาตรการของเราอยากให้คนที่เข้ามาเที่ยวมีความเชื่อมั่น ซึ่งจากการตรวจสอบในขณะนี้ยังไม่มีผู้ติดเชื่อ และอยากให้คนมาที่นี่รู้สึกปลอดภัย”
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้รัฐบาลยังไม่คำสั่งห้ามคนไทยเดินทางออกไปยังประเทศที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่จากเม็กซิโก แต่จะมีมาตรการเฝ้าระวังสำหรับผู้ที่เดินทางกลับเข้าประเทศ
“วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อควรจะต้องมีมาตรการดูแลป้องกันตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งจะทำให้เกิดความมั่นใจในเรื่องการดูแลและเฝ้าระวังได้ง่ายขึ้น”
โดยขณะนี้ได้มีการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย ( Thermo Scan) และกระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ไว้แล้ว และลักษณะการเฝ้าระวังจะใช้รูปแบบคล้ายกับช่วงที่เกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก โดยจะมีคณะกรรมการเป็นผู้ดูแลและมีกระทรวงวิทยาศาสตร์และกระทรวงที่เกี่ยวข้องร่วมดำเนินงานด้วย นอกจากนั้นยังจะประสานกับองค์การอนามัยโลกเพื่อให้มาตราการต่างๆ สามารถดูแลตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งจะทำให้การทำงานง่ายกว่า
นอกจากนี้ ยังไม่มีความจำเป็นที่รัฐบาลต้องประกาศห้ามประชาชนเดินทางไปประเทศเม็กซิโก แต่จะให้ข้อมูลต่างอย่างเต็มที่ว่าการระบาดขณะนี้มีที่ไหนอย่างไรบ้าง แต่ผู้โดยสารที่เดินทางกลับมาจากประเทศที่พบว่ามีการติดเชื้อ และมีการระบาดของโรคนั้นต้องมีการเฝ้าระวัง และเข้าสู่กระบวนการที่เข้มข้นมากขึ้น
ด้าน นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เสนอให้หลักประกันแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยคนละ 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยจากการจลาจล โดยระบุว่า ครม.เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว โดยขั้นตอนต่อไป คือ คัดเลือกบริษัทประกันภัยเข้ามารับประกันความเสี่ยง โดยรัฐบาลจะเป็นผู้ชดเชยความเสียหาย วงเงินประมาณ 200 ล้านบาท
สำหรับแนวทางการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว ครม.ได้อนุมัติให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) นำเงินจากโครงการเอสเอ็มอีทาวเวอร์ มาช่วยเหลือผู้ประกอบการท่องเที่ยว คิดเป็นวงเงิน 5,000 ล้านบาท
โดยปล่อยสินเชื่อให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่มีขนาดธุรกิจไม่เกิน 200 ล้านบาท รายละไม่เกิน 5 ล้านบาท ระยะเวลาการปล่อยกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี มีช่วงการปลอดชำระหนี้เงินต้น 1 ปีแรก อัตราดอกเบี้ย MLR-3 ระยะเวลา 2 ปี และปีที่ 3 จะเป็นไปตามที่เอสเอ็มอีแบงก์กำหนด โดยสามารถใช้บุคคลค้ำประกันไขว้กันได้ หรือการใช้เครื่องจักร อสังหาริมทรัพย์มาค้ำประกันก็ได้
ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการายใดขาดหลักทรัพย์ค้ำประกัน สามารถให้บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกันได้ โดยมีอัตราดอกเบี้ย 0.25% ทั้งนี้ให้ผู้ประกอบการยื่นขอกู้ภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2552 นี้ และให้เอสเอ็มอีแบงก์พิจารณาคำขอกู้ให้เสร็จภายใน 15 วัน
