xs
xsm
sm
md
lg

ดุสิตฯศรีนครินทร์ทุ่ม 200 ล.ปรับโฉมสู้ธุรกิจโรงแรมแข่งดุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ดุสิตฯศรีนครินทร์ โชว์ความเก๋า ทุ่ม 200 ล้านบาท ปรับโฉมโรงแรมครั้งใหญ่ เตรียมรับมือตลาดโรงแรมย่านศรีนครินทร์-บางนา แข่งดุ เหตุโรงแรมโลคัลเชน และอินเตอร์เชน ชักแถวทยอยเปิดตัวดักทางรับนโยบายซิงเกิ้ลแอร์พอร์ต พร้อมปรับแผนมุ่งขยายฐานลูกค้า จับชั้นระดับผู้บริหาร ลดความเสี่ยง สร้างความต่าง ชูโลเกชัน โปรดักส์ และบริการสู้สุดตัว ยอมรับพิษเศรษฐกิจต้องยอมผันตัวเล่นสงครามราคาลด 20%

นายพรเทพ หาญตระการพงษ์ ผู้จัดการทั่วไปโรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ เปิดเผยว่า เตรียมใช้งบประมาณ 200 ล้านบาท ทยอยรีโนเวตโรงแรมทั้งหมด ได้แก่ ห้องพัก 198 ห้อง ห้องจัดเลี้ยง และห้องอาหาร เป็นต้น โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จะแล้วเสร็จทั้งหมดในปี 2554 การรีโนเวตนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่โรงแรมได้เปิดให้บริการมา 12 ปี ถือเป็นการปรับโฉมครั้งใหญ่ เพื่อรองรับการแข่งขันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ทั้งนี้ เพราะจากการย้ายฐานปฎิบัติการของสายการบินไทยจากสนามบินดอนเมืองมาอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จะทำให้ย่านถนนศรีนครินทร์เป็นแหล่งธุรกิจ หรือเป็นดาวน์ทาวน์แห่งใหม่ใน 2-3 ปีจากนี้ และเชื่อว่าในอีกไม่นานรัฐบาลคงมีนโยบายประกาศให้ทุกสายการบินย้ายฐานมาอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมด เพื่อตอกย้ำนโยบาย ซิงเกิ้ลแอร์พอร์ต ทำให้กลุ่มทุนหันมาลงทุนเปิดกิจการโรงแรมในย่านนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งมีทั้งอินเตอร์แบรนด์ และโลคัลแบรนด์ ระดับตั้งแต่ 3-5 ดาว โดยจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการในอีก 3-4 ปีนับจากนี้

สำหรับการปรับโฉมของดุสิต ปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ ครั้งนี้ ได้ตอกย้ำความเป็นบิสซิเนสโฮเทลให้เด่นชัดมากขึ้นจากที่ผ่านมา โดยมีห้องประชุมและจัดเลี้ยงเพิ่มเป็น 7 ห้อง รองรับผู้ร่วมประชุมได้กว่า 600 คน จากเดิมมี 5 ห้อง พร้อมปรับห้องพักให้เป็นระดับ “เอ็กเซกคิวทีฟ พลัส” จับกลุ่มระดับผู้บริหารระดับสูง รูปแบบจะเป็นห้องพักตกแต่งทันสมัย มีฟังก์ชันแบ่งส่วนที่จะสามารถใช้นั่งทำงานหรือจัดประชุมกลุ่มย่อยได้

“ปัจจุบันในย่านนี้จะมีเพียงโรงแรมดุสิตปริ๊นเซส และโนโวเทล บางนา ยอมรับว่า เมื่อมีโรงแรมเกิดใหม่ ทำให้เกิดการแข่งขันเพิ่มขึ้น โดยอาจใช้กลยุทธ์ราคาเป็นแรงจูงใจ แต่เชื่อว่าเมื่อธุรกิจในย่านนี้ขยายตัวดีมานด์ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย นโยบายของกลุ่มดุสิต จะไม่แข่งขันเรื่องราคามากเกินไป แต่จะเน้นเรื่องบริการ คุณภาพสินค้า และทำเล”

ขยายฐานลูกค้าลดเสี่ยงตลาดแข่งดุ

นายพรเทพ กล่าวอีกว่า การปรับโฉมโรงแรมครั้งนี้จะช่วยขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ รองรับได้ทุกเซกเมนต์ ตั้งแต่ระดับนักท่องเที่ยวทั่วไป จนถึงนักธุรกิจระดับผู้บริหาร ฉีกหนีคู่แข่งขันซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 3 และ 4 ดาว นอกจากนั้น จากภาวะเศรษฐกิจทำให้ฐานลูกค้าหลักของโรงแรมคือกลุ่มคอปอเรท ซึ่งมีสัดส่วน 75% โดยส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ มีจำนวนลดลงบ้าง เนื่องจากบริษัทปรับลดงบประมาณการเดินทาง แต่โรงแรมเรายังได้อานิสงส์ของกลุ่มคอปอเรทที่ปรับลดงบทำให้เปลี่ยนจากการใช้บริการของโรงแรม 5 ดาว หันมาเลือกใช้โรงแรมเราได้อีกเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากธุรกิจโรงแรม กล่าวว่า โรงแรมใหม่ๆ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและเตรียมทยอยเปิดให้บริการ ได้แก่ โรงแรมเบส เวส เทิร์น โรงแรมมิราเคิลแกนด์ และเลอเมอริเดีย เป็นต้น โดยจะยึดโลเกชั่นบางนา เป็นหลัก

ดัมป์ราคาเฉือนกำไรดึงลูกค้า

ทางด้าน นายชาตรี รัตนรังษี ผู้อำนวยการฝ่ายขาย โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ กล่าวว่า แขกที่เข้าพักในโรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส ศรีนครินทร์ กว่า 90% เป็นต่างชาติและกลุ่มคอร์ปอเรตที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยมีธุรกิจสาขาที่ประเทศไทย เพราะทำเลที่ตั้งใกล้กับนิคมอุตสาหกรรม เช่น เวลโกลล์ บางนา นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง เป็นต้น ส่วนที่เหลืออีกเกือบ 10% เป็นกลุ่มแอร์ไลน์ หน่วยงานรัฐ และ นักท่องเที่ยวทั่วไป

โดยจากผลกระทบวิกฤตเศรษฐกิจ ทำให้ไตรมาสแรกปีนี้ อัตราเข้าพักของโรงแรมอยู่ที่ประมาณ 62-36% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ราว 20% โดยภาพรวมปีนี้ตั้งเป้าอัตราเข้าพักของโรงแรมไว้ที่ 73% เท่ากับปีก่อน หรือไม่เติบโต ขณะที่รายได้จากเดิมที่คาดว่าจะทั้งปีจะได้ประมาณ 132 ล้านบาท แต่ได้ปรับลดมาเหลือที่ 100 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนที่มีรายได้ 108 ล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะได้ 120 ล้านบาท

ทั้งนี้ เพราะจากตลาดที่ซบเซา ทำให้ต้องจัดโปรโมชันลดราคาห้องพักลง 20% ส่วนจัดเลี้ยงปรับลดราคาลงเฉลี่ยหัวละ 100 บาทเพื่อแข่งขันกับโรงแรมอื่นๆ ในย่านเดียวกัน เช่น โนโวเทลบางนา, โนโวเทล สุวรรณภูมิ และ อมารี เอเทรียม

“ราคาห้องพักที่เราปรับลด จะใช้แบบการเจรจาต่อลอง และออฟเฟอร์ให้แก่ลูกค้า ห้องพักจะเริ่มต้นที่คืนละประมาณ 2,000 บาท ค่าจัดเลี้ยง หัวละ 750 บาท เป็นต้น ทำให้ทางโรงแรมต้องทำงานหนักขึ้นเน้นเรื่องของปริมาณเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ได้รายได้ตามเป้าหมาย หรือลดลงจากปีก่อนไม่มากนัก”

อย่างไรก็ตาม ลูกค้าเป้าหมายกลุ่มใหม่ๆ ที่จะเจาะ ได้แก่ กลุ่มตัวแทนขายห้องพกั หรือโฮลเซล จากที่ผ่านมาลูกค้าที่มาจากการขายกลุ่มนี้จะอยู่ที่ 5% ปีนี้จะเพิ่มเป็น 10% ส่วนลูกค้าคอปอเรท จาก 75% ปีนี้ปรับลดเหลือ 70% ตามภาวะเศรษฐกิจ ส่วนลูกค้ากลุ่มอื่นๆ เช่น แอร์ไลน์ หน่วยงานภาครัฐ และนักธุรกิจระดับสูง
กำลังโหลดความคิดเห็น