ผอ.ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย หนุนคลังเตรียมชง ครม.กู้เงินภายในประเทศอีกกว่า 9 หมื่นล้าน ชี้ เป็นทางเลือกเดียวที่ทำได้ในตอนนี้ เพื่อนำมาชดเชยรายได้ที่หดตัว ย้ำประเด็นสำคัญ ไม่ใช้เรื่องกู้หรือไม่กู้ แต่ต้องดูการใช้เงินให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศสูงสุด และความโปร่งใส พร้อมแนะ กนง.ควรลด ดบ.นโยบาย 0.25-0.50% เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชน
นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการคลังเตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบกู้เงินภายในประเทศอีก 9.4 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาชดเชยรายได้ในปี 2552 โดยระบุว่า เป็นเรื่องที่มีความเหมาะสมในตอนนี้ เพราะสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่ำกว่าเป้า ทำให้รัฐบาลไม่มีทางเลือกในการใช้เครื่องมือเพื่อบริหารเศรษฐกิจได้มากนัก
“การกู้เงินจึงเป็นทางเลือกเดียวที่รัฐบาลสามารถทำได้ในตอนนี้ ส่วนการที่รัฐบาลเตรียมออกพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ก่อหนี้สาธารณะเพื่อรองรับการกู้เงินมาใช้ในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 อีก 1.56 ล้านล้านบาทนั้น ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะไม่ว่ารัฐบาลจะใช้แนวทางใด ก็ถือเป็นหนทางที่นำไปสู่การกู้เงิน ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นในขณะนี้”
นายอัทธ์ กล่าวเสริมว่า ประเด็นสำคัญไม่ใช่เรื่องของการกู้หรือไม่กู้ แต่อยู่ที่การใช้เงินของรัฐบาลมากกว่า และต้องดูว่า รัฐบาลจะใช้จ่ายอย่างไร เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อประเทศ และมีความโปร่งใส
ผอ.ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ยังกล่าวอีกว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 8 เมษายน 2552 นี้ ควรมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอย่างน้อยร้อยละ 0.25-0.5 ถึงแม้จะไม่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจมากนัก แต่ก็เป็นการลดภาระหนี้ให้กับประชาชน