xs
xsm
sm
md
lg

ครม.เศรษฐกิจ ผ่านแผนกระตุ้น ศก.รอบ 2 ระยะ 3 ปี 1.56 ล้าน ล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ครม.เศรษฐกิจ ผ่านแผนกระตุ้นรอบ 2 ปีงบประมาณ 53-54 ใช้เม็ดเงิน 1.56 ล้าน ลบ.หวังดัน GDP โตได้ปีละ 5% เกิดการจ้างงานใหม่ 1.6 ล้านคน ภายใน 3 ปี “มาร์ค” ปัดกู้เพิ่ม 400 ล้านดอลลาร์ จากจีน ยันแผนกู้เดิมจาก 3 แหล่ง 70,000 ล้านบาท

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ รองนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) โดยระบุว่า ที่ประชุมวันนี้ เห็นชอบกรอบของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ภายใต้วงเงิน 1.56 ล้านล้านบาท ที่จะใช้ในช่วงปีงบประมาณ 2553 ถึงปี 2555 ซึ่งคาดว่าจะมีส่วนช่วยผลักดันให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ในระยะเวลาดังกล่าวเติบโตได้อย่างน้อยปีละ 5% และทำให้เกิดการจ้างงานใหม่กว่า 1.6 ล้านคน ภายใน 3 ปี

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ถึงกระแสข่าวว่า รัฐบาลเตรียมขอกู้เงิน จำนวน 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อนำมาแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจนั้น ตนเองยืนยันว่า ไม่มีการคุยกันในวันนี้ เพียงแต่ที่รัฐบาลจะเสนอต่อที่ประชุมสภา มีเพียงธนาคารโลก ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น วงเงิน 70,000 ล้านบาท เท่านั้น

ส่วนที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน จะเข้าเยี่ยมคารวะช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากจะต้องมีการพบปะกับผู้นำจีน ในช่วงการประชุมอาเซียน +3 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมที่เมืองพัทยา

สำหรับรายละเอียดของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ ระยะกลาง 3 ปี โดยเริ่มต้นในปี 2553 คาดว่า จะต้องใช้งบประมาณ 486,142 ล้านบาท ส่วนปี 2554 ใช้งบลงทุน 510,562 ล้านบาท ส่วนปี 2555 ใช้งบ 570,163 ล้านบาท โดยวงเงินลงทุนดังกล่าวคาดว่าจะเป็นแหล่งเงินที่มาจากงบประมาณ งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนแหล่งเงินกู้จากในและต่างประเทศ

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจรอบ 2 มีเป้าหมายสำคัญ 3 ประการ คือ เป็นการเพิ่มแรงกระตุ้นให้กับเศรษฐกิจจากการที่รัฐเพิ่มการลงทุนประมาณ 5% ของ GDP สร้างตำแหน่งงานใหม่ อีก 1.6 ล้านคน ภายใน 3 ปี และกระจายการลงทุนทางด้านการบริการสาธารณะขั้นพื้นฐานไปสู่ชนบท

ภายใต้แผนฟื้นฟูระยะที่ 2 มีโครงการที่สำคัญทั้งหมด 7 แผนงาน ประกอบด้วย 1.แผนงานปรับปรุงและพัฒนาบริหารสาธารณะขั้นพื้นฐานที่ทันสมัยและจำเป็นของการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน วงเงิน 1.14 ล้านบาท 2.แผนงานปรับปรุงประสิทธิภาพระบบการกระจายน้ำ การพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อการเกษตร น้ำเพื่ออุตสาหกรรม และประสิทธิภาพการผลิตภาคเกษตร วงเงิน 2.3 แสน ลบ.

3.แผนงานลงทุนเพือการยกะดับรายได้และคุณภาพชีวิตในระดับชุมชนและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงิน 1 แสนล้านบาท 4.แผนงานยกระดับการศึกษาและการเรียนรู้ ทั้งระบบให้ทันสมัย วงเงิน 6 หมื่นล้านบาท 5.แผนงานพัฒนาศักยภาพของเศรษฐกิจในเชิงสร้างสรรค์ วงเงิน 2 หมื่นล้านบาท 6.แผนงานปฏิรูปคุณภาพระบบสาธารณสุข วงเงิน 9.2 พันล้านบาท และ 7.แผนงานเพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว วงเงิน 6.6 พันล้านบาท

รองนายกฯ กล่าวว่า สำหรับแหล่งเงินกู้ที่จะนำมาใช้ในแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 ที่ประชุมครม.เศรษฐกิจ วันนี้ ยังมีมติตั้งคณะกรรมการขึ้นมา โดยมี นายศุภรัตน์ ควัฒน์กุล ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน มีหน้าที่พิจารณาแหล่งที่มาของเงินทุน ว่า จะมาจากส่วนใดบ้าง เช่น งบประมาณ หรือ การกู้จากในหรือต่างประเทศ หรือการทำโครงการในรูปแบบการเพิ่มบทบาทภาคเอกชน (Public Private Partnership:PPP)

คณะกรรมการชุดนี้มีหน้าที่พิจารณารายละเอียดโครงการทั้งหมด และคัดเลือกโครงการ จัดลำดับความสำคัญ รวมทั้งพิจารณาวงเงินที่เหมาะสมของแต่ละโครงการ โดยให้กรอบระยะเวลาของคณะกรรมการชุดนี้ไว้ 30 วัน และนำกลับมารายงานต่อที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ก่อนที่จะนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

อย่างไรดี ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ได้ตั้งข้อสังเกตจำนวนเม็ดเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการที่อยู่ในแผนฟื้นฟูรอบ 2 ว่า อาจจะมีข้อจำกัด 2 ประการ คือ กรอบวินัยการคลัง และควรจะต้องมั่นใจว่า แต่ละโครงการหากอนุมัติแล้วจะสามารถดำเนินการได้จริง ไม่ใช่เป็นโครงการขายฝัน

นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจ ยังได้มีการทบทวนภาวะเศรษฐกิจโลก รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจไทย ซึ่งเห็นว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ขณะที่เศรษฐกิจไทยในช่วงต้นปี ยังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการส่งออก การใช้กำลังการผลิตในภาคอุตสาหกรรม การบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน รวมถึงได้รับทราบยอดผู้ว่างงานในเดือนมกราคม 2552 มีทั้งสิ้น 878,900 คน หรือเพิ่มขึ้น 247,700 คน จากเดือนมกราคม 2551

กำลังโหลดความคิดเห็น