กรรมาธิการคมนาคม ชี้แอร์พอร์ตลิงก์เสี่ยงเปิดไม่ทันกำหนด 12 ส.ค. เหตุระบบยังไม่พร้อมหลายส่วน โดยเฉพาะระบบความปลอดภัยที่ไม่มีเครื่องตรวจจับระเบิด ขณะที่ระบบควบคุมการเดินรถก็ยังไม่พร้อม ร.ฟ.ท.สบช่องใช้วิธีพิเศษจัดหาติดตั้งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยโดยไม่เปิดประมูล “ยุทธนา”เผยเตรียมจ้างซีเมนส์คุมเดินรถบางส่วนควบงานซ่อมบำรุง ตัดบีทีเอส บีเอ็มซีแอล เพราะเป็นเอกชน
ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า กมธ.คมนาคมได้ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง ( แอร์พอร์ตลิงก์) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ายังมีหลายส่วนที่ไม่พร้อมและอาจจะไม่เสร็จทันกำหนดที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 12 ส.ค.2552 ทั้งเรื่องการเดินรถและระบบความปลอดภัย
“น่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้ระบบต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย ยังไม่มี เครื่องตรวจจับระเบิด ซึ่งจากมักกะสันสามารถเข้าไปที่อุโมงค์ใต้อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิได้ หากหิ้วกระเป๋าเข้ามา ก็ผ่านได้ เพราะไม่มีการตรวจจับระเบิดเลย ซึ่งได้เรียกร.ฟ.ท.มาชี้แจงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ก็ยอมรับว่าไม่มีจริง “นายพงศ์พันธ์กล่าว
ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า อีกประเด็นที่น่าเป็นห่วง คือ การเดินรถ ซึ่งจะต้องมีการอบรมพนักงานที่เกี่ยวข้องทั้งงานระบบ การควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ใช้เวลาอย่างน้อย 5 เดือน แต่ขณะนี้ยังไม่มี ในขณะที่การจ้างเอกชนเข้ามาเดินรถแทนร.ฟ.ท.ทั้งกลุ่มซีเมนส์ บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) ขณะนี้ยังเจรจากันไม่เรียบร้อย ดังนั้น เชื่อว่าโครงการจะพร้อมและเปิดให้บริการได้อย่างสมบูรณ์ ในต้นปี 2553
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า โครงการแอร์พอร์ตลิงก์จะเปิดให้บริการในวันที่ 12 ส.ค.2552 แน่นอน โดยขณะนี้งานก่อสร้างโดยรวมแล้วเสร็จไปแล้ว 98% เหลืออีก 2% เป็นเพียงการเก็บรายละเอียดเท่านั้น ส่วนระบบความปลอดภัยที่กมธ.คมนาคมเป็นห่วงนั้น ขณะนี้ร.ฟ.ท.ได้ขอคุณสมบัติของระบบจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. มาเพื่อจะนำมาประกอบการจัดหาโดยใช้วิธีพิเศษสั่งซื้อโดยตรง ไม่ต้องทำการประมูล โดยอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยจะมีลักษณะเดียวกับที่ทอท.ใช้ ราคาตัวละ 4 ล้านบาท ซึ่งร.ฟ.ท.จะใช้ทั้งหมด 4 ตัว โดยติดตั้งไว้ที่สถานีมักกะสัน
“ขณะนี้ครม.ได้อนุมัติวงเงินจัดจ้างที่ปรึกษามาตรวจสอบระบบความปลอดภัย การเดินรถและระบบต่างภายในโครงการแอร์พอร์ลลิงก์ มูลค่า 195 ล้านบาทแล้ว คาดว่าสามารถเซ็นสัญญาว่าจ้างได้ในอีก 2 สัปดาห์ ซึ่งหลังจากเซ็นสัญญาจะใช้เวลาในการตรวจสอบ 90 วันและอาจจะดำเนินการได้เร็วเพียง 30 วันเท่านั้น เนื่องจากกลุ่มบุคคลที่เข้ามาดำเนินการตรวจสอบจากต่างประเทศนั้นมีความเชี่ยวชาญมากๆ”นายยุทธนากล่าว
สำหรับการเดินรถนั้นคงไม่สามารถว่าจ้าง บีเอ็มซีแอลหรือบีทีเอสเข้ามาได้ เพราะเป็นเอกชน โดยจะพิจารณาให้บริษัท ซีเมนส์ เข้ามาดำเนินการให้ในบางส่วน ไม่สามารถเดินรถได้ทั้งหมด เพราะซีเมนส์ มีความเชียวชาญในด้านการบำรุงรักษามากกว่า ส่วนการเตรียมบุคลากรด้านการเดินรถนั้น ได้ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ดูแลในเรื่องการจัดหาบุคลากร และบริหารจัดการแผนการเดินรถทั้งหมด ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้ จะสามารถประกาศรับสมัครคัดเลือกบุคคลได้ และจากนั้นอีก 2-3 เดือนก็จะได้ตัวคนมาดำเนินการเดินรถ
ร.ต.พงศ์พันธ์ สุนทรชัย ประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า กมธ.คมนาคมได้ตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างโครงการระบบขนส่งทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง ( แอร์พอร์ตลิงก์) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่ายังมีหลายส่วนที่ไม่พร้อมและอาจจะไม่เสร็จทันกำหนดที่จะเปิดให้บริการในวันที่ 12 ส.ค.2552 ทั้งเรื่องการเดินรถและระบบความปลอดภัย
“น่าเป็นห่วง เพราะขณะนี้ระบบต่างๆ ยังไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเรื่องของความปลอดภัย ยังไม่มี เครื่องตรวจจับระเบิด ซึ่งจากมักกะสันสามารถเข้าไปที่อุโมงค์ใต้อาคารผู้โดยสารสนามบินสุวรรณภูมิได้ หากหิ้วกระเป๋าเข้ามา ก็ผ่านได้ เพราะไม่มีการตรวจจับระเบิดเลย ซึ่งได้เรียกร.ฟ.ท.มาชี้แจงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งผู้ว่าฯร.ฟ.ท.ก็ยอมรับว่าไม่มีจริง “นายพงศ์พันธ์กล่าว
ร.ต.พงศ์พันธ์ กล่าวว่า อีกประเด็นที่น่าเป็นห่วง คือ การเดินรถ ซึ่งจะต้องมีการอบรมพนักงานที่เกี่ยวข้องทั้งงานระบบ การควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ใช้เวลาอย่างน้อย 5 เดือน แต่ขณะนี้ยังไม่มี ในขณะที่การจ้างเอกชนเข้ามาเดินรถแทนร.ฟ.ท.ทั้งกลุ่มซีเมนส์ บริษัทรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล และบริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (บีทีเอส) ขณะนี้ยังเจรจากันไม่เรียบร้อย ดังนั้น เชื่อว่าโครงการจะพร้อมและเปิดให้บริการได้อย่างสมบูรณ์ ในต้นปี 2553
นายยุทธนา ทัพเจริญ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) กล่าวว่า โครงการแอร์พอร์ตลิงก์จะเปิดให้บริการในวันที่ 12 ส.ค.2552 แน่นอน โดยขณะนี้งานก่อสร้างโดยรวมแล้วเสร็จไปแล้ว 98% เหลืออีก 2% เป็นเพียงการเก็บรายละเอียดเท่านั้น ส่วนระบบความปลอดภัยที่กมธ.คมนาคมเป็นห่วงนั้น ขณะนี้ร.ฟ.ท.ได้ขอคุณสมบัติของระบบจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. มาเพื่อจะนำมาประกอบการจัดหาโดยใช้วิธีพิเศษสั่งซื้อโดยตรง ไม่ต้องทำการประมูล โดยอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยจะมีลักษณะเดียวกับที่ทอท.ใช้ ราคาตัวละ 4 ล้านบาท ซึ่งร.ฟ.ท.จะใช้ทั้งหมด 4 ตัว โดยติดตั้งไว้ที่สถานีมักกะสัน
“ขณะนี้ครม.ได้อนุมัติวงเงินจัดจ้างที่ปรึกษามาตรวจสอบระบบความปลอดภัย การเดินรถและระบบต่างภายในโครงการแอร์พอร์ลลิงก์ มูลค่า 195 ล้านบาทแล้ว คาดว่าสามารถเซ็นสัญญาว่าจ้างได้ในอีก 2 สัปดาห์ ซึ่งหลังจากเซ็นสัญญาจะใช้เวลาในการตรวจสอบ 90 วันและอาจจะดำเนินการได้เร็วเพียง 30 วันเท่านั้น เนื่องจากกลุ่มบุคคลที่เข้ามาดำเนินการตรวจสอบจากต่างประเทศนั้นมีความเชี่ยวชาญมากๆ”นายยุทธนากล่าว
สำหรับการเดินรถนั้นคงไม่สามารถว่าจ้าง บีเอ็มซีแอลหรือบีทีเอสเข้ามาได้ เพราะเป็นเอกชน โดยจะพิจารณาให้บริษัท ซีเมนส์ เข้ามาดำเนินการให้ในบางส่วน ไม่สามารถเดินรถได้ทั้งหมด เพราะซีเมนส์ มีความเชียวชาญในด้านการบำรุงรักษามากกว่า ส่วนการเตรียมบุคลากรด้านการเดินรถนั้น ได้ให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นผู้ดูแลในเรื่องการจัดหาบุคลากร และบริหารจัดการแผนการเดินรถทั้งหมด ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้ จะสามารถประกาศรับสมัครคัดเลือกบุคคลได้ และจากนั้นอีก 2-3 เดือนก็จะได้ตัวคนมาดำเนินการเดินรถ