ผู้ว่าการ ธปท.หนุนรัฐบาลขยายเพดานเงินกู้ รองรับแผนกระตุ้น ศก.รอบ 2 วงเงิน 1.4 แสนล้านบาท เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ยันเป็นมาตรการยืดหยุ่นระยะสั้น เพราะการจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้า
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณ๊ที่รัฐบาลออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 วงเงิน 1.4 ล้านล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ว่า หากเป็นแพกเกจขนาดใหญ่จะมีผลต่อเศรษฐกิจมาก แต่ยังคงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงแหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาใช้ ประกอบกับมาตรการต่างๆ ที่จะออกมาควร ทำให้เกิดความสมดุลทั้งมาตรการที่เกิดผลในระยะสั้น และมาตรการที่พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่จะมีผลในระยะยาว และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือควรมีการเร่งรัดการเบิกจ่าย ต้องใช้เงินเร็วให้เกิดผล และต้องตรวจสอบอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เม็ดเงินออกไปตามเป้าหมายที่วางไว้
“หลังจากที่เม็ดเงินจากแผนกระตุ้นเศรษฐกิจออกสู่ระบบแล้วต้องรอดูว่าจะมีผลอย่างไร แต่คิดว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นในระยะต่อไปแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจในปีงบประมาณต่อไปก็ยังมีต่อ”
สำหรับการขยายกรอบเพดานเงินกู้ของรัฐบาลนั้น นางธาริษา กล่าวว่า รัฐบาลสามารถดำเนินการได้เป็นการชั่วคราว เพราะประเทศยังต้องการเม็ดเงินมาใช้กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เนื่องจากการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลต่ำกว่าที่คาดการณ์ และอัตราดอกเบี้ยก็อยู่ในระดับต่ำ แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจและรายได้ของรัฐบาลกลับมาสู่ภาวะปกติแล้ว รัฐบาลก็ควรกลับมาดำเนินการตามกรอบเดิม ซึ่งที่ผ่านมาภาครัฐได้ระมัดระวังการใช้นโยบายการคลังพอสมควร จนทำให้ฐานะการคลังของรัฐบาลมีความแข็งแกร่ง และมีพื้นที่จะใช้กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มขึ้นได้