นายกฯ ห่วง ศก.ไทยไตรมาส 1 ปีนี้ ยังติดลบต่อเนื่อง แจงความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินนอก เพื่อใช้หนุนมาตรการกระน ศก.ชุดที่ 2 คาด ไตรมาส 3 ฟื้นตัวแน่ พร้อมยืนยันว่า จะรักษาวินัยการใช้เงินกู้อย่างเคร่งครัด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ เชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ โดยกล่าวถึงภาวะเศรษฐกิจไทยช่วงต้นปี 2552 ที่กำลังเผชิญผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยระบุว่า รัฐบาลอาจต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมชุดที่ 2 ซึ่งอาจต้องหาแหล่งเงินจากต่างประเทศ
“คาดว่า จีดีพี ไตรมาสที่ 1 ปีนี้ อาจติดลบมากว่าหรือเท่ากับไตรมาส 4 ปีที่แล้วแน่ แต่เชื่อว่าไตรมาส 4 จะกลับมาในแดนบวกได้ รัฐบาลกำลังเตรียมกู้เงินต่างประเทศ เพื่อเร่งช่วยเหลือภาคส่งออก และภาคท่องเที่ยว”
นายกรัฐมนตรี ยังคาดว่า รัฐบาลจะสามารถนำเงินกู้จากต่างประเทศ มาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ประมาณ ไตรมาสที่ 3 ซึ่งเชื่อว่า เงินจำนวนนี้จะสามารถช่วยบรรเทาผลกระทบจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกได้ โดยรัฐบาล ยืนยันว่า จะรักษาวินัยการใช้เงินกู้อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังถือโอกาสขอบคุณ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ที่ยอมสลายการชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล และบรรดาเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ทหาร ที่เข้ามาช่วยดูแลความสงบ โดยยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้เพิกเฉย 4 ข้อเรียกร้อง ของ นปช. โดยทุกคดีอย่างยังเดินไปต่อเนื่อง ตรงไปตรงมา เชื่อว่าอีก 1 เดือน ก่อนนัดชุมนุมใหญ่ จะเห็นความคืบหน้าของคดีหลายคดี ส่วนข้อเรียกร้องที่เกี่ยวกับตน และคณะรัฐมนตรี (ครม.) คงต้องไปว่ากันในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมที่จะรับการตรวจสอบ
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุมอาเซียนซัมมิตนั้น ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะการได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา และปัญหาชนกลุ่มน้อยโรฮิงยาในพม่า