xs
xsm
sm
md
lg

เล็งเพิ่มวงเงินบริหารหนี้ภาครัฐปี 52 อีก 1.17 แสน ล.ชง ครม.สัปดาห์หน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


สบน.ปรับเพิ่มวงเงินแผนบริหารหนี้ภาครัฐ ปี 52 อีก 1.17 แสน ล.เตรียมเสนอเข้า ครม.สัปดาห์หน้า หวั่นภาระหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ 7 หมื่น ล.สกัดมาตรการคลังในการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กล่าวว่า คณะกรรมการมีมติเห็นชอบการปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2552 ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2552 ที่ผ่านมา โดยมีการปรับเพิ่มวงเงินรวม 117,691 ล้านบาท

ส่วนใหญ่เป็นการปรับเพิ่มวงเงินกู้ของรัฐบาลในส่วนของวงเงินกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ และวงเงินกู้เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นการกู้เงินจากต่างประเทศ ทั้งนี้ เพื่อจัดหาเงินทุนสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นเศรษฐกิจและฟื้นฟูเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังมีการปรับเพิ่มวงเงินกู้ในส่วนของรัฐวิสาหกิจเพื่อดำเนินโครงการลงทุนและเพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินงาน ทำให้วงเงินแผนการบริหารหนี้สาธารณะภายหลังการปรับปรุงเพิ่มขึ้นจาก 1,195,192 ล้านบาท เป็น 1,312,883 ล้านบาท

ทั้งนี้ แยกเป็นการบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐบาล เพิ่มจาก 513,576 ล้านบาท เป็น 603,619 ล้านบาท การบริหารและจัดการเงินกู้เพื่อชดใช้ความเสียหายให้ FIDF จำนวน 218,191 ล้านบาทเท่าเดิม, การบริหารและจัดการเงินกู้ในประเทศของรัฐวิสาหกิจ เพิ่มจาก 284,839 ล้านบาท เป็น 325,719 ล้านบาท, การก่อหนี้จากต่างประเทศ เพิ่มจาก 81,563 ล้านบาท เป็น 114,563 ล้านบาท และการบริหารหนี้ต่างประเทศ ลดจาก 97,023 ล้านบาท เป็น 50,791 ล้านบาท

สบน.ระบุว่า ผลจากการดำเนินการตามแผน จะทำให้ระดับหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นปีงบประมาณเพิ่มขึ้นเป็น 42.73% และภาระหนี้ต่องบประมาณอยู่ที่ระดับ 10.20% ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้กรอบความยั่งยืนทางการคลังที่กำหนด คือ หนี้สาธารณะต่อ GDP ไม่เกิน 50% และภาระหนี้ต่องบประมาณไม่เกิน 15%

อย่างไรก็ตาม ในการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า เพื่ออนุมัติแผนการบริหารหนี้สาธารณะปีงบประมาณ 2552 วงเงิน 1,312,883 ล้านบาทนั้น จะมีวงเงินสำรองเพื่อใช้ในการบริหารหนี้อีก 80,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้วงเงินที่นำเสนอ ครม.เป็นวงเงินรวมที่ 1.4 ล้านล้านบาท

ผู้อำนวยการ สบน.ยังกล่าวถึงการชำระคืนหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ว่า จากการที่ปัจจุบันรัฐบาลมีภาระที่ต้องชำระดอกเบี้ย จากหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ ปีละ 70,000 ล้านบาท โดยจัดสรรจากเงินงบประมาณ หากรัฐบาล และ ธปท.สามารถมีข้อตกลงร่วมกันได้ในการช่วยลดภาระดังกล่าวจะเป็นผลดีที่ทำให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณส่วนนี้ นำมาใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น และจะทำให้หนี้สาธารณะต่อจีดีพี ลดลงถึง 1 ใน 3 ของหนี้ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้กระทรวงการคลังบริหารหนี้สาธารณะได้คล่องตัวมากขึ้นด้วย

“เรื่องดังกล่าว คงเป็นการตัดสินใจในระดับนโยบาย ซึ่งหากรัฐบาล และแบงก์ชาติ ตกลงกันเรื่องนี้ได้ก็เป็นสิ่งที่ดี” ผู้อำนวยการ สบน.กล่าวสรุปทิ้งท้าย
กำลังโหลดความคิดเห็น