นายกฯ ห่วงเศรษฐกิจทรุดหนักกว่าที่คาดไว้ เตรีมประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดที่ 2 เร็วๆ นี้ โดยกำชับทุกหน่วยงานให้ไปทำแผนย่อยให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ดัน “จีดีพี” ไตรมาส 4 เป็นบวก พร้อมสั่งทุกหน่วยงานเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณ เพื่ออัดสู่ระบบตามแผนในเดือน มี.ค.นี้ เตรียมประชุมทูตย์พาณิชย์ กู้วิกฤตส่งออกติดลบ 6% วันนี้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้ามาตรการแก้ปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจปี 2552 ที่หลายหน่วยงานกังวล ว่า อาจปรับตัวทรุดลงหนักกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ โดยระบุว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) มีโอกาสเป็นบวกได้ช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2552 เนื่องจากรัฐบาลได้อัดฉีดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านต่างๆ ทั้งเร่งรัดงบประมาณ และเตรียมประกาศมาตรการเพิ่มเติมในรอบ 2 เร็วๆ นี้
สำหรับมาตรการชุดที่ 2 รัฐบาลจะพิจารณาลงไปในรายละเอียด เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจต่างประเทศที่กำลังผันผวน ซึ่งได้ย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ เพื่อให้แต่ละกระทรวงไปวางยุทธศาสตร์ให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล ให้จีดีพีสามารถกลับมาเป็นบวกได้
นายบัณฑูร สุภัควณิช ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2553 ที่ 1.9 ล้านล้านบาท ขณะนี้ส่วนราชการต่างๆ กำลังจัดทำคำของบประมาณ เพื่อใช้ในโครงการต่างๆ ภายในวันที่ 16 มีนาคม 2552 นี้ ซึ่งคาดว่า คำขอจะสูงถึง 3 ล้านล้านบาท
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปพิจารณาคำขอให้สอดคล้องและเป็นธรรมในส่วนที่จำเป็น โดยกำชับว่าต้องเป็นโครงการที่ใช้งบประมาณที่ต้องการใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล”
นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลก 58 แห่ง เพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกปี 2552 โดยให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ทั่วโลก รายงานตัวเลขการส่งออกรายตลาดให้รับทราบ เพื่อกำหนดเป้าหมายการส่งออกปีนี้ใหม่
ทั้งนี้ มีแนวโน้มว่า อาจมีการปรับลดเป้าหมายการส่งออกต่ำกว่า 0 ถึงติดลบ 3% เนื่องจากในแต่ละตลาด ได้มีการปรับลดเป้าส่งออกลงเกือบทุกภูมิภาค ทั้งตลาดใหม่ เช่น ตะวันออกกลาง อินเดีย แอฟริกา และตลาดหลัก เช่น ยุโรป เป็นต้น
