xs
xsm
sm
md
lg

ผ่าแผนฟื้นฟู “บินไทย” หากขาดเงินอุ้ม 6 หมื่นล. ล้มแน่!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ชำแหละแผนฟื้นฟู “บินไทย” ฉบับปรับปรุงล่าสุด เน้นแก้ปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน โดยให้คมนาคม-คลัง อนุมัติวงเงิน 6 หมื่นล้าน ก่อนเดือน เม.ย.นี้ พร้อมเตรียมหลายแนวทางให้พิจารณา ทั้งการเพิ่มทุน กู้ยืมสถาบันกองทุน ออกพันธบัตร และการขายเครื่องบิน โดยต้องการเงินฉุกเฉินทันที 5-6 พันล้าน ส่วนแผนขั้นต่อไป คาดหวังตัวเลข EBIDA โชว์กำไรก่อนหักภาษีปี 52 โตกว่า 3 หมื่นล้าน หวังสร้างความอุ่นใจสถาบันการเงิน มีเงินใช้หนี้ค่างวดเครื่องบิน และรับมอบเครื่องใหม่ 8 ลำ

แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยรายละเอียดแผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ฉบับแก้ไขใหม่ ซึ่งได้ส่งไปให้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลังพิจารณา โดยเบื้องต้น พบว่าได้ยึดแนวทางแผนวิสาหกิจ 10 ปี พ.ศ.2552-2560 พร้อมกับปรับเนื้อหาของแผนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

สำหรับสาระสำคัญของแผนดังกล่าว การบินไทยต้องการให้กระทรวงคมนาคม และกระทรวงการคลัง เร่งพิจารณาอนุมัติการเตรียมเงินสำรอง หรือการเพิ่มทุน 60,000 ล้านบาท โดยเร่งด่วน เพื่อใช้บริหารธุรกิจตลอดแผนวิสาหกิจระยะยาว

ทั้งนี้ การประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มีรายงานว่า นายอารีพงศ์ วงศ์ชอุ่ม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิสาหกิจ (ศคร.) ซึ่งร่วมประชุมอยู่ด้วยนั้น เห็นชอบกับแผนฟื้นฟูที่นายศรีสุข จันทรางศุ ประธานคณะกรรมการฟื้นฟูและพัฒนาการดำเนินธุรกิจขนส่งทางอากาศ ได้นำเสนอต่อที่ประชุม โดยขั้นแรก เป็นแผนเร่งด่วนที่ต้องจัดหาเงินทุนให้การบินไทยทันที 60,000 ล้านบาท ส่วนจะใช้วิธีการใด เช่น เพิ่มทุน กู้ยืมสถาบันกองทุน ออกพันธบัตร แปลงมูลค่าสินทรัพย์ฝูงบิน (book value) บางส่วนเป็นเงิน หรืออาจเป็นวิธีอื่นๆ จะเป็นหน้าที่ของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินซึ่งมีความเชี่ยวชาญกว่า ให้เป็นผู้จัดการรายละเอียดทั้งหมด

ส่วนขั้นตอนที่ 2 คณะทำงานฟื้นฟูได้เสนอคลังและกระทรวงคมนาคมจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน (financial advisor) วิเคราะห์ตัวเลขประมาณการตามแผนฉบับปรับปรุงทั้งตัวเลขรายได้ ค่าใช้จ่าย กำไรก่อนและหลังหักภาษี ให้แล้วเสร็จภายในกลางเดือนเมษายน 2552 นี้ เพราะจะต้องนำแผนเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปี 2552 พิจารณาอนุมัติ ในวันที่ 22 เมษายน 2552 เพื่อนำไปปฏิบัติอย่างช้าที่สุดไม่เกินเดือนมิถุนายน 2552 นี้

โดยในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2552 ถึงเดือนเมษายน 2552 นี้ การบินไทยกำลังประสบปัญหาสภาพคล่องหนักที่สุด และมีความจำเป็นเร่งด่วนต้องได้เงินมาหมุนเวียนในระบบตลอด 2 เดือนนี้อย่างน้อยที่สุด 5,000-6,000 ล้านบาท

สำหรับขั้นตอนที่ 3 หลังจากฝ่ายที่เกี่ยวข้องอนุมัติจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อจัดทำโครงสร้างและวิธีเตรียมเงินสำรอง 60,000 ล้านบาท เพื่อบรรลุ 2 เป้าหมายใหญ่ คือ เพิ่มกำไรก่อนหักภาษี (EBIDA) จาก 20,000 ล้านบาท ในปี 2551 เป็น 30,000 ล้านบาท ในปี 2553 และ 40,000 ล้านบาท ในปี 2560 เทียบกับ EBIDA ของสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ที่มีตัวเลขสูงกว่า 3 เท่า มีกำไรก่อนหักภาษีถึง 60,000 ล้านบาทต่อปี

ดังนั้น การบินไทยจำเป็นต้องหาเงินสำรอง 60,000 ล้านบาทเข้ามาไว้ในบัญชีตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือทางบัญชีก่อนจะไปเจรจากับสถาบันการเงินต่างๆ ขอสนับสนุนเงินกู้สำรองที่จะต้องนำมาเป็นค่าใช้จ่ายรายงวด มีทั้งค่าเช่าและซื้อฝูงบินเก่า เงินค่างวดการรับฝูงบินใหม่

โดยในปีนี้จะมีแอร์บัส A330-300 อีก 8 ลำเข้าประจำฝูง ส่วนปี 2554 กำลังถกเถียงกันว่าแอร์บัสจะส่งมอบฝูงบิน A380 จำนวน 6 ลำให้การบินไทยได้หรือไม่ หรือต้องเลื่อนออกไปอีก เพราะวิกฤตการเงินโลกส่งผลให้การผลิตเครื่องบินล่าช้ายิ่งขึ้น

นอกจากนี้ การอัดเม็ดเงิน 60,000 ล้านบาท ยังเป็นการสำรองเป็นสภาพคล่องระยะกลางและระยะยาว เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากวิกฤตการเงินโลกที่จะส่งผลกระทบระลอกใหม่กับอุตสาหกรรมการบินนานาประเทศ และเป็นการเตรียมความพร้อมไว้รองรับการปรับโครงสร้างที่ต้องสอดคล้องกันระหว่างรายได้กับค่าใช้จ่าย รวมถึงการลงทุนจัดซื้อต่างๆ ในอนาคต โดยเฉพาะการเปลี่ยนฝูงบินเก่า 53 ลำ และนำเข้าฝูงบินใหม่ 58 ลำ เพื่อเพิ่มรายได้และขีดความสามารถทางการแข่งขัน ในจังหวะที่การเดินทางท่องเที่ยวฟื้นกลับคืนเร็วกว่าคาดการณ์ไว้คือ ภายในไตรมาส 2 ปีนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น