แบงก์ทหารไทยชี้โจทย์ใหญ่ปีนี้เน้นดูแลสภาพคล่องและบริหารจัดการความเสี่ยงให้ลูกค้ารายใหญ่ ระบุต้นปีสินเชื่อระยะยาวยังพอไปได้แต่สินเชื่อหมุนเวียนเริ่มชะลอตัวตามความต้องการที่ลดลง พร้อมลุยขยายฐานลูกค้าสถาบันการเงินเพิ่ม ด้านบสก.เตรียมซื้อหนี้ทหารไทย 27 ก.พ.นี้
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า โจทย์ใหญ่ของส่วนงานธุรกิจขนาดใหญ่ในปีนี้ไม่ใช่มุ่งที่การขยายสินเชื่อเป็นหลัก เนื่องจากสินเชื่อคงไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการในภาวะเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว แต่โจทย์ที่สำคัญคือเรื่องของการบริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการเงิน (Cash Management) ให้ลูกค้าสามารถที่จะเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้
ทั้งนี้ ปัญหาของลูกค้ารายใหญ่ที่จะต้องประสบในปีนี้ คือ ปัญหาเรื่องสภาพคล่องที่มีแนวโน้มจะลดน้อยลงจากการขายสินค้าได้น้อยลง ซึ่งทางธนาคารมีหน้าที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องของลูกค้าให้อยู่ในระดับที่พอเพียง รวมถึงการบริหารความเสี่ยงที่มาจากอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ในช่วงเดือนมกราคมจนถึงปัจจุบันนั้น ในส่วนของสินเชื่อระยะยาวมีการเติบโตขึ้นเล็กน้อย แต่สินเชื่อหมุนเวียนนั้นมีการชะลอตัวลง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเทียบกับฐานลูกค้าปีที่ผ่านมาที่มีความต้องการสินเชื่อหมุนเวียนค่อนข้างสูง จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้มีความต้องการเงินทุนสูง แต่ในปีนี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงและราคาวัตถุดิบต่าง ๆ ก็ต่ำลงจึงทำให้ความต้องการสินเชื่อหมุนเวียนลดลงไปด้วย ซึ่งภาวะความต้องการสินเชื่อระยะสั้นลดลงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยปัจจุบันธนาคารฐานลูกค้าดังกล่าวมีอยู่เพียง 2,000 ราย ขณะที่ในตลาดยังมีลูกค้าอีกกว่า 10,000 รายให้ธนาคารเข้าไปขยายธุรกิจได้ ซึ่งกลุ่มที่ธนาคารจะรุกเข้าไปคือกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร เช่น กลุ่มธุรกิจประกันเป็นต้น
ขณะเดียวกัน นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 27ก.พ.นี้ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB จะเปิดให้เข้ายื่นประมูลซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มูลค่า 20,000 ล้านบาท และสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) มูลค่า 15,000ล้านบาท รวมเป็น 35,000 ล้านบาท โดยหลังจากยื่นประมูลแล้วจะได้ข้อสรุปประมาณช่วงกลางเดือนมี.ค.นี้ว่าจะประมูลได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม บสก.มีความมั่นใจว่าจะเข้าประมูลครั้งนี้ได้สำเร็จ เพราะก่อนหน้านี้ บสก.เคยเข้ามาเจรจาเพื่อประมูลหนี้ก้อนหนี้แล้วแต่ติดเงื่อนไขในเรื่องของการชำระเงินแต่ล่าสุดได้เข้ามาเจรจากับผู้บริหารของธนาคารทหารไทยอีกรอบ ซึ่งมีความยืดหยุ่นขึ้นจึงมั่นใจว่าการเจรจาครั้งนี้จะเรียบร้อย
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB เปิดเผยว่า โจทย์ใหญ่ของส่วนงานธุรกิจขนาดใหญ่ในปีนี้ไม่ใช่มุ่งที่การขยายสินเชื่อเป็นหลัก เนื่องจากสินเชื่อคงไม่ใช่สิ่งที่ลูกค้าต้องการในภาวะเศรษฐกิจที่มีการชะลอตัว แต่โจทย์ที่สำคัญคือเรื่องของการบริหารความเสี่ยงและการบริหารจัดการเงิน (Cash Management) ให้ลูกค้าสามารถที่จะเดินหน้าธุรกิจต่อไปได้
ทั้งนี้ ปัญหาของลูกค้ารายใหญ่ที่จะต้องประสบในปีนี้ คือ ปัญหาเรื่องสภาพคล่องที่มีแนวโน้มจะลดน้อยลงจากการขายสินค้าได้น้อยลง ซึ่งทางธนาคารมีหน้าที่เข้าไปช่วยแก้ปัญหาสภาพคล่องของลูกค้าให้อยู่ในระดับที่พอเพียง รวมถึงการบริหารความเสี่ยงที่มาจากอัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับการปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ในช่วงเดือนมกราคมจนถึงปัจจุบันนั้น ในส่วนของสินเชื่อระยะยาวมีการเติบโตขึ้นเล็กน้อย แต่สินเชื่อหมุนเวียนนั้นมีการชะลอตัวลง ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกเมื่อเทียบกับฐานลูกค้าปีที่ผ่านมาที่มีความต้องการสินเชื่อหมุนเวียนค่อนข้างสูง จากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้มีความต้องการเงินทุนสูง แต่ในปีนี้ราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงและราคาวัตถุดิบต่าง ๆ ก็ต่ำลงจึงทำให้ความต้องการสินเชื่อหมุนเวียนลดลงไปด้วย ซึ่งภาวะความต้องการสินเชื่อระยะสั้นลดลงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยปัจจุบันธนาคารฐานลูกค้าดังกล่าวมีอยู่เพียง 2,000 ราย ขณะที่ในตลาดยังมีลูกค้าอีกกว่า 10,000 รายให้ธนาคารเข้าไปขยายธุรกิจได้ ซึ่งกลุ่มที่ธนาคารจะรุกเข้าไปคือกลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร เช่น กลุ่มธุรกิจประกันเป็นต้น
ขณะเดียวกัน นายบรรยง วิเศษมงคลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 27ก.พ.นี้ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB จะเปิดให้เข้ายื่นประมูลซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มูลค่า 20,000 ล้านบาท และสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) มูลค่า 15,000ล้านบาท รวมเป็น 35,000 ล้านบาท โดยหลังจากยื่นประมูลแล้วจะได้ข้อสรุปประมาณช่วงกลางเดือนมี.ค.นี้ว่าจะประมูลได้หรือไม่ แต่อย่างไรก็ตาม บสก.มีความมั่นใจว่าจะเข้าประมูลครั้งนี้ได้สำเร็จ เพราะก่อนหน้านี้ บสก.เคยเข้ามาเจรจาเพื่อประมูลหนี้ก้อนหนี้แล้วแต่ติดเงื่อนไขในเรื่องของการชำระเงินแต่ล่าสุดได้เข้ามาเจรจากับผู้บริหารของธนาคารทหารไทยอีกรอบ ซึ่งมีความยืดหยุ่นขึ้นจึงมั่นใจว่าการเจรจาครั้งนี้จะเรียบร้อย