ฝ่ายบริหาร ทีจี สบช่องการเมืองวุ่นบีบคอ "บอร์ด" เร่งเคาะอนุมัติ "โบนัส" ทิ้งทวนก่อนถูกโละยกเข่ง อ้างกำลังใจ พนง. เพราะช่วยกันทำงานงานเต็มที่ พร้อมขึ้นเงินเดือน 6.5% ตามเงื่อนไข รสก. แม้จะขาดทุนบักโกรก "กรณ์" ยกขวดยาแก้ปวดซด ก่อนขอเวลา 2 สัปดาห์ คิดแผนช่วยอุ้ม
นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาวิกฤตสภาพคล่องของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังจะทราบและรู้ข้อสรุปของแผนปฏิรูป การบินไทย ซึ่งคงจะทราบว่าการบินไทยจะให้กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่เข้าไปช่วยในแง่ใด
"ผมมองว่าไม่น่าจะเกิน 1-2 สัปดาห์นี้เราจะทราบข้อสรุปและแผนการปฏิรูปการบินไทย รวมถึงความช่วยเหลือจากรัฐบาลว่าจะเข้าไปช่วยได้อย่างไร"
นายรัช ตันตนันตา ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ การบินไทย กล่าวถึงกรณีสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การบินไทย ได้เรียกร้องให้มีการจ่ายโบนัสประจำปี 2551 และขึ้นเงินเดือนให้กับพนักงาน จนถูกมองเรื่องความเหมาะสม เพราะตัวบริษัทเองยังไม่มีทางออกในการแก้ไขวิกฤตด้านสภาพคล่องจนต้องเรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาอุ้มนั้น ตนเองคิดว่า องค์กรน่าจะให้ผลตอบแทนกำลังใจในการทำงาน เพราะหากพิจารณาในแง่กระแสเงินสดที่เกิดจากรายได้ในปัจจุบัน รวมทั้งการให้ความร่วมมือช่วงระหว่างที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ถูกผู้อำนวยการท่าอากาศยานสั่งปิด พนักงานมีการทำงานล่วงเวลา และร่วมมือในการแก้ไขปัญหาจากการที่รัฐบาลในสมัยนั้น ประกาศปิดสนามบินโดยอ้างเหตุการชุมนุม
"องค์กรควรจ่ายโบนัสให้กับพนักงาน เพราะระหว่างเกิดเหตุดังกล่าว พนักงานได้ร่วมแรงร่วมใจแก้ปัญหา เช่น การจัดหาที่พักให้กับผู้โดยสารที่ตกค้าง หรือพนักงานบางคนให้พักที่บ้านของตนเอง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย"
ดังนั้น การจ่ายโบนัส เสมือนเป็นการตอบแทนน้ำใจพนักงาน ส่วนการขึ้นเงินเดือนก็เป็น ไปได้เช่นกัน เพราะระเบียบรัฐวิสาหกิจระบุไว้ว่า หากรัฐวิสาหกิจใดมีผลประกอบการขาดทุนจะสามารถปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงานได้ไม่เกิน 6.5% ของเงินเดือนที่ได้รับแต่การพิจารณาเรื่องดังกล่าวทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ (บอร์ด) ที่จะมีการประชุมวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2552 นี้
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าบริษัทจะไม่นำเงินกู้มาจ่ายโบนัสหรือขึ้นเงินเดือนให้พนักงานเพราะผิดวัตถุประสงค์ในการขอกู้ที่สถาบันการเงินจะพิจารณาแผนการลงทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่ม มิใช่ให้กู้เพื่อนำมาจ่ายโบนัสพนักงาน
"ถามว่าเรายังจ่ายได้ไหม ก็ถือว่าพอไหว เพราะตอนนี้เรายังมีรายได้อยู่นี่ ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ซึ่งบริษัทอาจจ่ายให้พนักงานตามสภาพการณ์ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแค่ 1เดือนก็ได้ เพราะการปิดสนามบินที่ผ่านมาพนักงานทุกคนก็ร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหา บางคนถึงขั้นต้องพาผู้โดยสารไปพักที่บ้านก่อน โดยไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายอะไรเลย เพียงแต่เราอาจไม่ได้จ่ายโบนัสตอนนี้ แค่เป็นการสัญญาว่าจะจ่าย เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นเพราะยังไงซะเราคงไม่ฝืนสังขารตัวเอง ส่วนการขึ้นเงินเดือนก็เป็นไปได้เหมือนกัน เพราะระเบียบเปิดกว้างว่าไม่เกิน 6.5% เราอาจเพิ่มแค่ 1%ก็ได้ แต่ผมย้ำว่าสุดท้ายเรื่องทั้งหมดนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของบอร์ด"
นอกจากนี้นายรัช กล่าวยอมรับว่า ปัจจุบันผู้ถือหุ้นชาวต่างชาติของ THAI มีสัดส่วนลดลง แต่สาเหตุหลักคือวิกฤตเศรษฐกิจโลก ไม่ใช่เป็นเพราะ THAI ประสบปัญหาผลประกอบการ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสัดส่วนการถือหุ้นของต่างชาติลดลงเท่าใด เพราะต้องขอเวลาในการตรวจสอบก่อน
"เดิมเราจะมีต่างชาติถือหุ้นอยู่ประมาณ 19% ตอนนี้ยอมรับว่าลดลงจริง แต่เท่าไหร่ยังตอบไม่ได้ ซึ่งสาเหตุที่ลดลง ก็ไม่ใช่ว่ามาจากเราอย่างเดียว แต่เกิดจากการที่เศรษฐกิจโลกกำลังมีปัญหาด้วย"
พล.อ.อ. ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สำนักเลขานุการ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวยอมรับว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองเมื่อเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2551จำนวนผู้โดยสาร THAI ลดลงอย่างมากในหลายเส้นทาง จนต้องลดเที่ยวบินลงประมาณ 11% เมื่อเทียบกับก่อนปิดสนามบิน
อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคม 2552 นี้ พบว่าจำนวนผู้โดยสารหลายเส้นทางเพิ่มกลับมาอย่างเห็นได้ชัดถึงแม้จะน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่สูงกว่าที่ประมาณการไว้ จึงเป็นสัญญาณที่ดีว่านักธุรกิจและนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มมีความเชื่อมั่นต่อประเทศไทยมากขึ้น