บอร์ด กบง.มีมติให้ปรับขึ้นราคาน้ำมันทุกชนิด 1.55 บาท/ลิตร มีผล 1 ก.พ.นี้ ยกเว้น อี85 โดยหาจังหวะทยอยปรับขึ้น และเต็มเพดานภายใน 2 เดือน ซึ่งกำหนดเพดานเบนซินไว้ที่ 5 บาท และดีเซล 4 บาท พร้อมกำหนดให้มีส่วนต่างราคาเบนซิน-แก๊สโซฮอล์ เพื่อให้ผู้บริโภคหันมาใช้น้ำมันของ ปตท.เพิ่มขึ้น
นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติให้ปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกชนิดอีกลิตรละ 1.55 บาทต่อลิตร ยกเว้น แก๊สโซฮอล์ อี85 โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นต้นไป หลังมาตรการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันตามโครงการ 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อคนไทยทุกคน สิ้นสุดลงในวันที่ 31 มกราคม 2552 นี้ และจะมีการจัดเก็บภาษีในอัตราเดิม
ทั้งนี้ กบง.เป็นผู้กำหนดว่าจะปรับขึ้นเมื่อไร ในอัตราเท่าใด โดยใช้กลไกจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามากำหนดราคา ซึ่งเป็นการปรับลดการจัดเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลงแทน โดยคาดว่า จะใช้วงเงิน 3,500-4,000 ล้านบาท ในการเข้ามาพยุงราคาขายปลีกเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน
นพ.วรรณรัตน์ ยังคาดการณ์ว่า หลังจากนี้ ราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ น่าจะทยอยปรับเพิ่มอีกครั้งละไม่เกินลิตรละ 1.50 บาท ซึ่งจะปรับมากกว่า 1 ครั้ง เพื่อให้อัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ กลับไปอยู่ในอัตราเดิม โดยจะพิจารณาปรับในช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งคาดว่า จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 เดือน ซึ่งต้องใช้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ เพื่อชดเชยประมาณ 4,311 ล้านบาท
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบให้ปรับเพิ่มอัตราเงินเข้ากองทุนจากเบนซิน 91 เพิ่มขึ้นเป็นลิตรละ 4 บาท เพื่อรักษาส่วนต่างราคาขายปลีกระหว่างน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ และยังได้เห็นชอบในการกำหนดหลักเกณฑ์ราคาน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 ใน 3 หลักการ คือ 1.ราคา ณ โรงกลั่น 15% ของราคาเบนซิน 95 + 85% ของราคาเอทานอล 2.ให้ค่าการตลาดของ อี85 สูงกว่า อี10 ประมาณลิตรละ 1.20 บาท 3.ราคาขายปลีก อี85 ต้องต่ำกว่าราคาขายปลีก อี10 ในระดับ 30% เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนใช้พลังงานทดแทน ตามนโยบายของประเทศ และเป็นไปตามที่ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เคยเรียกร้องเอาไว้
สำหรับราคาขายปลีกน้ำมันที่จะปรับขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2552 เป็นดังนี้ น้ำมันเบนซิน 91 อยู่ที่ 25.14 บาทต่อลิตร เบนซิน 95 อยู่ที่ 33.74 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 20.44 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 19.64 บาทต่อลิตร น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี20 อยู่ที่ 19.14 บาทต่อลิตร ดีเซล บี2 อยู่ที่ 19.89 บาทต่อลิตร และน้ำมันไบโอดีเซล บี 5 อยู่ที่ 18.39 บาทต่อลิตร
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลา 24.00 น.ของคืนวันที่ 31 มกราคม 2552 นี้ กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะส่งเจ้าหน้าที่สายตรวจจำนวน 2,359 สาย ออกตรวจเช็กสต๊อกน้ำมัน 11,888 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งคาดว่า จะใช้ระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง จึงจะแล้วเสร็จ และเมื่อทราบจำนวนสต๊อกทั้งหมดแล้ว กระทรวงพลังงานจะมีการคำนวณเงินส่วนต่าง เพื่อส่งคืนให้กับกรมสรรพสามิต ต่อไป
โดยวานนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบปรับเพิ่มอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมัน หลังสิ้นสุด 6 มาตรการ 6 เดือน และปรับลดตำแหน่งทศนิยมของอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดังกล่าวให้เป็นทศนิยม 3 ตำแหน่ง เพื่อให้สอดคล้องกับระบบ e-paperless ของกรมศุลกากร ดังนี้
น้ำมันเบนซินทุกประเภท จากอัตราปกติเดิม เบนซิน 91 อยู่ที่ 3.685 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 5 บาทต่อลิตร เบนซิน 95 อยู่ที่ 4.685 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 5 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ อี10 และ อี20 ปรับขึ้นจาก 0.0165 บาทต่อลิตร เป็น 3.317 บาทต่อลิตร (อัตราปกติเดิมอยู่ที่ 3.3165 บาทต่อลิตร) ส่วนแก๊สโซฮอล์ อี85 ปรับจาก 0.0165 บาทต่อลิตร มาเป็น 0.750 บาทต่อลิตร (อัตราปกติเดิมที่ 2.5795 บาทต่อลิตร)
น้ำมันดีเซล กำมะถัน น้อยกว่า หรือเท่ากับ 0.035 ปรับขึ้นภาษี จาก 0.005 บาทต่อลิตร เป็น 3.305 บาทต่อลิตร (อัตราปกติเดิม 2.305 บาทต่อลิตร) ดีเซล กำมะถัน มากกว่า 0.035 ปรับจาก 2.405 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 4 บาทตอลิตร (อัตราปกติที่ 2.405 บาทต่อลิตร) ไบโอดีเซล B5 จาก 0.0898 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 2.190 บาทต่อลิตร (อัตราปกติเดิม 2.1898 บาทต่อลิตร)
ปัจจุบัน ราคาขายปลีกน้ำมันตามสถานีบริการในเขตกรุงกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นดังนี้ เบนซิน 91 อยู่ที่ลิตรละ 23.59 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ลิตรละ 18.89 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ลิตรละ 18.09 บาท แก๊สโซฮอล์ อี20 อยู่ที่ลิตรละ 17.59 บาท แก๊สโซฮอล์ อี85 อยู่ที่ลิตรละ 18.29 บาท ดีเซล บี2 อยู่ที่ลิตรละ 18.34 บาท และดีเซล B5 อยู่ที่ลิตรละ 16.84 บาท
