คลังลดเป้าเก็บรายได้ปีงบ 52 ลงอีก 10% คาด ยอดขายดุลเพิ่มเป็น 4.8 แสนล้านบาท มั่นใจรัฐบาลจัดการได้
วันนี้ (08 มกราคม 2552) นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ปรับลดเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐในปีงบประมาณ 2552 ลงประมาณ 10% หรือคิดเป็นวงเงิน 1.2-1.3 แสนล้านบาท เนื่องจากกรมสรรพากรจะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย รวมไปถึงกรมสรรพสามิต และ กรมศุลกากร ขณะที่การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่คาดว่าจะลดลงจากผลการดำเนินงานที่ออกมาไม่ดีนัก
ทั้งนี้ คาดว่า ปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลจะขาดดุลรวม 4.7-4.8 แสนล้านบาท เป็นผลจากการจัดทำงบประมาณขาดดุล รวมการจัดทำงบกลางปีเพิ่มเติมอีก 1 แสนล้านบาท และ การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่ต่ำกว่าเป้าหมาย
“ผมเคยชี้แจงในการแถลงนโยบายต่อสภาไปแล้ว ว่า รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 10% พร้อมเชื่อว่า รายได้ที่ลดลง 10% ไม่ได้สร้างปัญหา เพราะเป็นเทคนิคทางบัญชี”
รมว.คลัง ยอมรับว่า การที่ฐานะการคลังขาดดุลเพิ่มขึ้น อาจจะกระทบต่อความสามารถในการจัดทำงบประมาณปี 2553 ที่มีข้อจำกัดมากขึ้น แต่เชื่อว่ายังอยู่ในขอบเขตที่รัฐบาลจะบริหารจัดการได้
นอกจากนั้น นายกรณ์ ยังกล่าวว่า รัฐบาลยังมีความจำเป็นจะต้องใช้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งในวันนี้ได้หารือกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังแล้ว โดยจะเน้นการใช้มาตรการภาษีมาช่วยเหลือผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะประกาศได้ในเดือนมกราคม 2552 นี้ หลังจากเสนอให้คณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจและคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไป
วันนี้ (08 มกราคม 2552) นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ปรับลดเป้าหมายการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐในปีงบประมาณ 2552 ลงประมาณ 10% หรือคิดเป็นวงเงิน 1.2-1.3 แสนล้านบาท เนื่องจากกรมสรรพากรจะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย รวมไปถึงกรมสรรพสามิต และ กรมศุลกากร ขณะที่การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่คาดว่าจะลดลงจากผลการดำเนินงานที่ออกมาไม่ดีนัก
ทั้งนี้ คาดว่า ปีงบประมาณ 2552 รัฐบาลจะขาดดุลรวม 4.7-4.8 แสนล้านบาท เป็นผลจากการจัดทำงบประมาณขาดดุล รวมการจัดทำงบกลางปีเพิ่มเติมอีก 1 แสนล้านบาท และ การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลที่ต่ำกว่าเป้าหมาย
“ผมเคยชี้แจงในการแถลงนโยบายต่อสภาไปแล้ว ว่า รัฐบาลจะจัดเก็บรายได้ต่ำกว่าเป้าหมาย 10% พร้อมเชื่อว่า รายได้ที่ลดลง 10% ไม่ได้สร้างปัญหา เพราะเป็นเทคนิคทางบัญชี”
รมว.คลัง ยอมรับว่า การที่ฐานะการคลังขาดดุลเพิ่มขึ้น อาจจะกระทบต่อความสามารถในการจัดทำงบประมาณปี 2553 ที่มีข้อจำกัดมากขึ้น แต่เชื่อว่ายังอยู่ในขอบเขตที่รัฐบาลจะบริหารจัดการได้
นอกจากนั้น นายกรณ์ ยังกล่าวว่า รัฐบาลยังมีความจำเป็นจะต้องใช้มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งในวันนี้ได้หารือกับรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลังแล้ว โดยจะเน้นการใช้มาตรการภาษีมาช่วยเหลือผู้ประกอบการ และประชาชนทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะประกาศได้ในเดือนมกราคม 2552 นี้ หลังจากเสนอให้คณะรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจและคณะรัฐมนตรีอนุมัติต่อไป