การบินไทย เตรียมเสนอ รมต.ท่องเที่ยว และรัฐบาลไทยประสานรัฐบาลจีน สร้างความเชื่อมั่นดึงนักท่องเที่ยวจีนกลับมาใช้บริการ หลัง “ณรงค์ศักดิ์” เผย เตรียมหาทางเจรจาชะลอจ่ายค่าเครื่องบินที่จะรับมอบในปีหน้าออกไป เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มจำนวนเครื่องบินอายุมากที่จะปลดระวางเพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านซ่อมบำรุง ปรับแผนปี 52 ลดเป้าการเติบโตของรายได้เหลือ 0% ตามภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการบินโลกโดยรวม เสนอบอร์ด 14 ม.ค.52 เผย Cabin Factor ทั้งปี 51 ประมาณ 70% น่าพอใจ แม้ลดจากปีก่อน 10% ชี้เพราะมีปัญหามากกว่า
พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักเลขานุการ บริษัท ปฏิบัติหน้าที่ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดสำนักงานบัตรโดยสารที่สำนักงานใหญ่ หลังจากที่มีการปรับปรุงใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบานในการให้บริการด้านบัตรโดยสาร วานนี้ (22 ธ.ค.) ว่า ขณะนี้สถานการณ์จำนวนผู้โดยสารของบริษัท การบินไทย ในส่วนของยุโรปและสแกนดิเนเวีย เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ แต่ผู้โดยสารจากภูมิภาคเช่น จีน ไต้หวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ ยังไม่กลับมา ทั้งนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ภายในประเทศ ทำให้รัฐบาลจีนได้ประกาศให้คนจีนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ฝ่ายการพาณิชย์ของบริษัทได้ประสานกับการท่องเที่ยวของประเทศจีน และแจ้งต่อรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐบาลไทย เพื่อให้ช่วยดำเนินการในนามรัฐบาลไทยประสานกับรัฐบาลจีน ยืนยันถึงความพร้อมของการท่องเที่ยวไทย และเพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนใช้บริการการบินไทยในการเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวและต่อไปยังประเทศอื่นๆ เหมือนเดิม
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างปรับปรุงแผนกลยุทธ์ในปี 2552 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมการบิน โดยในปี 2552 บริษัทจะรับมอบเครื่องบิน แอร์บัส A330 จำนวน 6 ลำ และปี 2553 รับมอบ A330 จำนวน 2 ลำ รับมอบ A 380 จำนวน 6 ลำ เพื่อใช้แทนเครื่องบินที่จะปลดระวาง เช่น A300-600 เป็นต้น ซึ่งด้านการเงินกำลังพิจารณาเพื่อเจรจาขอชะลอการจ่ายเงินค่าเครื่องบินใหม่ส่วนหนึ่งออกไปได้หรือไม่ นอกจากนี้ อาจจะต้องมีการพิจารณาเพื่อปลดระวางเครื่องบินเก่าให้มากขึ้น เพื่อลดต้นทุน และค่าใช้จ่ายด้านซ่อมบำรุงและเพื่อให้มีจำนวนเครื่องบินใช้งานสอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารจริง
“ถ้าสถานการณ์ในประเทศเริ่มดีขึ้น และเป็นไปตามที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีประกาศ ว่า การบริหารโดยรัฐบาลนี้จะไม่มีการปิดสนามบินแน่นอน สิ่งเหล่านี้จะเรียกความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวได้มาก รวมถึงจะต้องมีการโปรโมตให้มาก ในขณะที่ฝ่ายบริหารบริษัทก็จะต้องพยายามทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทดีที่สุด แม้ว่า ในปี 2552 เศรษฐกิจโลกยังมีปัญหาอยู่ โดยจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุด ซึ่งตอนนี้ฝ่ายการตลาดได้มีการทำโปรโมชันทั้งลดแลกแจกแถมเพื่อดึงดูดลูกค้าอยู่แล้ว” พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ในส่วนผู้โดยสารในประเทศดีมาก เดือน ธ.ค.เฉลี่ยประมาณกว่าร้อยละ 80 สูงกว่าเดือน พ.ย.ที่มี Cabin Factor ประมาณร้อยละ 70 ส่วนเส้นทางยุโรป สแกนดิเนเวียอยู่ที่ประมาณร้อยละ 72-73 ขณะที่แผนคาดไว้ที่ร้อยละ 74 โดยเชื่อว่า จำนวน Cabin Factor โดยรวมเฉลี่ยทั้งปี 2551 น่าจะอยู่ในระดับที่ประมาณการไว้ตามแผนที่มีการปรับปรุงใหม่
นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า ภาพรวม Cabin Factor ปี 2551 ทั้งปีที่ร้อยละ 70 ถือว่าดีมากแล้ว เพราะช่วงไตรมาส 3 และ 4 บริษัทมีปัญหาจากภาวะราคาน้ำมันต่อมาความไม่สงบภายในประเทศ ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่น ลดลงประมาณร้อยละ 10 หาเปรียบเทียบกับ Cabin Factor ของ ปี 2550 เพราะปีนี้บริษัทประสบปัญหามาตั้งแต่ต้นปี ทั้งสถานการณ์ราคาน้ำมัน ความเชื่อมั่นของผู้โดยสารในการเดินทางมาประเทศไทย อย่างไรก็ตามในปี 2552 เชื่อว่า Cabin Factor จะมากกว่าปี 2551 เล็กน้อย และปรับลดประมาณการเติบโตของรายได้ปี 2552 ลงเหลือร้อยละ 0 จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตประมาณร้อยละ 3-5 แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจโลกมีปัญหาอุตสาหกรรมการบินโดยรวมคาดว่าจะไม่เติบโตเลยหรือโตร้อยละ 0
โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับแผนใหม่ทั้งหมด และจะเสนอคณะกรรมการบริษัทในการประชุมวันที่ 14 ม.ค.2552 ส่วนแผนวิสาหกิจ 10 ปีนั้น ยังคงแผนการจัดหาเครื่องบินไว้เหมือนเดิม แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนเรื่องการปลดระวางเครื่องบินเก่าให้มากขึ้น เพื่อลดภาวะค่าซ่อมบำรุง และสอดคล้องกับความต้องการใช้งานจริง ส่วนเครื่องบินที่จะมีการรับมอบในปี 2552 คือ A330 จำนวน 6 ลำ นั้น เป็นเครื่องบินพิสัยไกลที่จะนำมาบินในเส้นทางซิดนีย์อาจต้องปรับ เพื่อเกลี่ยให้สามารถใช้กับเส้นทางระยะกลางด้วยเช่น ญี่ป่น ดูไบ เป็นต้น นอกจากนี้มาตรการการปรับลดาธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Surcharge) ซึ่งบริษัทลดล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ลงเกือบร้อยละ 50 นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นการเดินทางของผู้โดยสารในภูมิภาค เช่น จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลีได้
พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักเลขานุการ บริษัท ปฏิบัติหน้าที่ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดสำนักงานบัตรโดยสารที่สำนักงานใหญ่ หลังจากที่มีการปรับปรุงใหม่ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบานในการให้บริการด้านบัตรโดยสาร วานนี้ (22 ธ.ค.) ว่า ขณะนี้สถานการณ์จำนวนผู้โดยสารของบริษัท การบินไทย ในส่วนของยุโรปและสแกนดิเนเวีย เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ แต่ผู้โดยสารจากภูมิภาคเช่น จีน ไต้หวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ ยังไม่กลับมา ทั้งนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ภายในประเทศ ทำให้รัฐบาลจีนได้ประกาศให้คนจีนเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ฝ่ายการพาณิชย์ของบริษัทได้ประสานกับการท่องเที่ยวของประเทศจีน และแจ้งต่อรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และรัฐบาลไทย เพื่อให้ช่วยดำเนินการในนามรัฐบาลไทยประสานกับรัฐบาลจีน ยืนยันถึงความพร้อมของการท่องเที่ยวไทย และเพื่อให้นักท่องเที่ยวจีนใช้บริการการบินไทยในการเดินทางเข้าประเทศไทยเพื่อท่องเที่ยวและต่อไปยังประเทศอื่นๆ เหมือนเดิม
ทั้งนี้ บริษัทอยู่ระหว่างปรับปรุงแผนกลยุทธ์ในปี 2552 เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและอุตสาหกรรมการบิน โดยในปี 2552 บริษัทจะรับมอบเครื่องบิน แอร์บัส A330 จำนวน 6 ลำ และปี 2553 รับมอบ A330 จำนวน 2 ลำ รับมอบ A 380 จำนวน 6 ลำ เพื่อใช้แทนเครื่องบินที่จะปลดระวาง เช่น A300-600 เป็นต้น ซึ่งด้านการเงินกำลังพิจารณาเพื่อเจรจาขอชะลอการจ่ายเงินค่าเครื่องบินใหม่ส่วนหนึ่งออกไปได้หรือไม่ นอกจากนี้ อาจจะต้องมีการพิจารณาเพื่อปลดระวางเครื่องบินเก่าให้มากขึ้น เพื่อลดต้นทุน และค่าใช้จ่ายด้านซ่อมบำรุงและเพื่อให้มีจำนวนเครื่องบินใช้งานสอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารจริง
“ถ้าสถานการณ์ในประเทศเริ่มดีขึ้น และเป็นไปตามที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีประกาศ ว่า การบริหารโดยรัฐบาลนี้จะไม่มีการปิดสนามบินแน่นอน สิ่งเหล่านี้จะเรียกความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวได้มาก รวมถึงจะต้องมีการโปรโมตให้มาก ในขณะที่ฝ่ายบริหารบริษัทก็จะต้องพยายามทำให้ภาพรวมผลการดำเนินงานของบริษัทดีที่สุด แม้ว่า ในปี 2552 เศรษฐกิจโลกยังมีปัญหาอยู่ โดยจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีจำนวนผู้โดยสารมากที่สุด ซึ่งตอนนี้ฝ่ายการตลาดได้มีการทำโปรโมชันทั้งลดแลกแจกแถมเพื่อดึงดูดลูกค้าอยู่แล้ว” พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า อัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ในส่วนผู้โดยสารในประเทศดีมาก เดือน ธ.ค.เฉลี่ยประมาณกว่าร้อยละ 80 สูงกว่าเดือน พ.ย.ที่มี Cabin Factor ประมาณร้อยละ 70 ส่วนเส้นทางยุโรป สแกนดิเนเวียอยู่ที่ประมาณร้อยละ 72-73 ขณะที่แผนคาดไว้ที่ร้อยละ 74 โดยเชื่อว่า จำนวน Cabin Factor โดยรวมเฉลี่ยทั้งปี 2551 น่าจะอยู่ในระดับที่ประมาณการไว้ตามแผนที่มีการปรับปรุงใหม่
นายปานฑิต ชนะภัย รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า ภาพรวม Cabin Factor ปี 2551 ทั้งปีที่ร้อยละ 70 ถือว่าดีมากแล้ว เพราะช่วงไตรมาส 3 และ 4 บริษัทมีปัญหาจากภาวะราคาน้ำมันต่อมาความไม่สงบภายในประเทศ ซึ่งกระทบต่อความเชื่อมั่น ลดลงประมาณร้อยละ 10 หาเปรียบเทียบกับ Cabin Factor ของ ปี 2550 เพราะปีนี้บริษัทประสบปัญหามาตั้งแต่ต้นปี ทั้งสถานการณ์ราคาน้ำมัน ความเชื่อมั่นของผู้โดยสารในการเดินทางมาประเทศไทย อย่างไรก็ตามในปี 2552 เชื่อว่า Cabin Factor จะมากกว่าปี 2551 เล็กน้อย และปรับลดประมาณการเติบโตของรายได้ปี 2552 ลงเหลือร้อยละ 0 จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโตประมาณร้อยละ 3-5 แต่เมื่อภาวะเศรษฐกิจโลกมีปัญหาอุตสาหกรรมการบินโดยรวมคาดว่าจะไม่เติบโตเลยหรือโตร้อยละ 0
โดยขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการปรับแผนใหม่ทั้งหมด และจะเสนอคณะกรรมการบริษัทในการประชุมวันที่ 14 ม.ค.2552 ส่วนแผนวิสาหกิจ 10 ปีนั้น ยังคงแผนการจัดหาเครื่องบินไว้เหมือนเดิม แต่อาจจะมีการปรับเปลี่ยนเรื่องการปลดระวางเครื่องบินเก่าให้มากขึ้น เพื่อลดภาวะค่าซ่อมบำรุง และสอดคล้องกับความต้องการใช้งานจริง ส่วนเครื่องบินที่จะมีการรับมอบในปี 2552 คือ A330 จำนวน 6 ลำ นั้น เป็นเครื่องบินพิสัยไกลที่จะนำมาบินในเส้นทางซิดนีย์อาจต้องปรับ เพื่อเกลี่ยให้สามารถใช้กับเส้นทางระยะกลางด้วยเช่น ญี่ป่น ดูไบ เป็นต้น นอกจากนี้มาตรการการปรับลดาธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง (Fuel Surcharge) ซึ่งบริษัทลดล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ลงเกือบร้อยละ 50 นั้นเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นการเดินทางของผู้โดยสารในภูมิภาค เช่น จีน ญี่ปุ่น และ เกาหลีได้