พาวเวอร์มอลล์ เผย 11 เดือน วืดเป้าเล็กน้อย อ้างเหตุการเมืองวุ่น เศรษฐกิจแย่ เผยแผนปี 2552 ปรับดิสเพลย์ใหม่ เตรียมเจาะตรงเข้าโครงการบ้านจัดสรร และคอนโดมิเนียม โฟกัสตลาดระดับแมส
นายอภิชาติ อัศวโภคี ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้า พาวเวอร์มอลล์ เดอะมอลล์กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมของกลุ่มสินค้าพาวเวอร์มอลล์ ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ของปี 2551 มีอัตราการเติบโตเพียง 3% เท่านั้น หรือมีรายได้ประมาณ 7,350 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้เดิมที่ 5% หรือต้องมีรายได้ประมาณ 7,500 ล้านบาท เนื่องมาจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองที่มีผลกระทบต่อกำลังการซื้อและอารมณ์ของผู้บริโภค ขณะที่ตลาดรวมของเครื่องใช้ไฟฟ้ามีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 2-3%
ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าที่ขายดีในกลุ่มพาวเวอร์มอลล์ ได้แก่ แอลซีดี ทีวี ที่คิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขาย สินค้าไอที คิดเป็น 10% และในทางกลับกันสินค้ากลุ่มออดิโอมีอัตราการเติบโตที่น้อย เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นหันมาบริโภคเพลงที่เนื้อหาของเพลงมากขึ้น ดังนั้น กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงหันมาใช้ MP3, MP4 แทนการซื้อสินค้ากลุ่มออดิโอ
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดในปี 2552 ทาง พาวเวอร์มอลล์ จะมีการปรับรูปแบบดิสเพลย์ใหม่ โดยจะจัดดิสเพลย์ให้แตกต่าง เพื่อให้สอดคล้องและเข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ การร่วมกับบริษัท บุญถาวร โดยการนำเครื่องประดับและของแต่งบ้านผสมผสานกับเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จับมือกับเจ้าของโครงการหมู่บ้านและคอนโดระดับพรีเมียม เพื่อสร้างจุดเด่นและเพื่อเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้า
นอกจากนั้น จะมีการรีโนเวตสาขาที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และ เอ็มโพเรียม โดยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ การจัดพื้นที่ด้วยการเพิ่มสีสัน โดยการนำเครื่องประดับและของตกแต่งบ้านมาออกแบบเป็นห้องต่างๆ อาทิ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และนำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาผนวกเข้ากับบรรยากาศภายในห้องต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค และส่วนที่ 2 จะมีการจัดพื้นที่โปรโมชัน โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าของพาวเวอร์มอลล์ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก กลุ่มลูกค้าระดับเอ ที่มีกำลังซื้อ กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มลูกค้าระดับกลาง ที่ต้องเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อกระตุ้นอารมณ์การซื้อจากกลุ่มนี้ และกลุ่มที่สาม คือ ระดับล่างที่จะต้องการสินค้าในราคาถูก แต่คุณภาพเป็นที่ยอมรับ ซึ่งในปี 2552 ทางบริษัทจะจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางเป็นหลัก โดยจะเน้นการทำกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายและเพื่อเพิ่มอารมณ์ในการซื้อของผู้บริโภคระดับกลาง
ล่าสุด พาวเวอร์มอลล์ ได้เตรียมจัดงาน Bangkok Electronica 2009 ที่จัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2551-6 มกราคม 2552 เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของตลาดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้บริโภคนิยมซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามากเป็นพิเศษ และเลือกเฟ้นสินค้าเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ โดยร่วมกับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 30 แบรนด์ พร้อมด้วย 12 พันธมิตรบัตรเครดิต
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการฉลองการจัดงานครบ 10 ปี ทาง พาวเวอร์มอลล์ มีการจัดโปรโมชันพิเศษ เมื่อซื้อสินค้าครบ 3,000 บาท จะได้คูปองชิงหุ่นยนต์ไดโนเสาร์สาขาละ 10 ตัว โดยใช้งบในการจัดงานทั้งสิ้น 22 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ทั้งแมสมีเดีย และไดเรกเมล ตลอดจนสื่อ POP ณ จุดขาย และคาดว่า การจัดงานครั้งนี้จะสามารถทำยอดขายได้ถึง 400 ล้านบาท
นายอภิชาติ อัศวโภคี ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายบริหารสินค้า พาวเวอร์มอลล์ เดอะมอลล์กรุ๊ป เปิดเผยว่า ภาพรวมของกลุ่มสินค้าพาวเวอร์มอลล์ ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา ของปี 2551 มีอัตราการเติบโตเพียง 3% เท่านั้น หรือมีรายได้ประมาณ 7,350 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้เดิมที่ 5% หรือต้องมีรายได้ประมาณ 7,500 ล้านบาท เนื่องมาจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองที่มีผลกระทบต่อกำลังการซื้อและอารมณ์ของผู้บริโภค ขณะที่ตลาดรวมของเครื่องใช้ไฟฟ้ามีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 2-3%
ทั้งนี้ กลุ่มสินค้าที่ขายดีในกลุ่มพาวเวอร์มอลล์ ได้แก่ แอลซีดี ทีวี ที่คิดเป็นสัดส่วน 20% ของยอดขาย สินค้าไอที คิดเป็น 10% และในทางกลับกันสินค้ากลุ่มออดิโอมีอัตราการเติบโตที่น้อย เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจากเดิม ซึ่งกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหญ่เป็นกลุ่มวัยรุ่นหันมาบริโภคเพลงที่เนื้อหาของเพลงมากขึ้น ดังนั้น กลุ่มผู้บริโภคกลุ่มนี้จึงหันมาใช้ MP3, MP4 แทนการซื้อสินค้ากลุ่มออดิโอ
สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดในปี 2552 ทาง พาวเวอร์มอลล์ จะมีการปรับรูปแบบดิสเพลย์ใหม่ โดยจะจัดดิสเพลย์ให้แตกต่าง เพื่อให้สอดคล้องและเข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคมากขึ้น อาทิ การร่วมกับบริษัท บุญถาวร โดยการนำเครื่องประดับและของแต่งบ้านผสมผสานกับเครื่องใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จับมือกับเจ้าของโครงการหมู่บ้านและคอนโดระดับพรีเมียม เพื่อสร้างจุดเด่นและเพื่อเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้า
นอกจากนั้น จะมีการรีโนเวตสาขาที่เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน และ เอ็มโพเรียม โดยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน คือ การจัดพื้นที่ด้วยการเพิ่มสีสัน โดยการนำเครื่องประดับและของตกแต่งบ้านมาออกแบบเป็นห้องต่างๆ อาทิ ห้องนั่งเล่น ห้องนอน และนำเครื่องใช้ไฟฟ้ามาผนวกเข้ากับบรรยากาศภายในห้องต่างๆ เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภค และส่วนที่ 2 จะมีการจัดพื้นที่โปรโมชัน โดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าของพาวเวอร์มอลล์ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่มแรก กลุ่มลูกค้าระดับเอ ที่มีกำลังซื้อ กลุ่มที่สอง คือ กลุ่มลูกค้าระดับกลาง ที่ต้องเพิ่มกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อกระตุ้นอารมณ์การซื้อจากกลุ่มนี้ และกลุ่มที่สาม คือ ระดับล่างที่จะต้องการสินค้าในราคาถูก แต่คุณภาพเป็นที่ยอมรับ ซึ่งในปี 2552 ทางบริษัทจะจับกลุ่มลูกค้าระดับกลางเป็นหลัก โดยจะเน้นการทำกลยุทธ์ทางการตลาด เพื่อกระตุ้นยอดขายและเพื่อเพิ่มอารมณ์ในการซื้อของผู้บริโภคระดับกลาง
ล่าสุด พาวเวอร์มอลล์ ได้เตรียมจัดงาน Bangkok Electronica 2009 ที่จัดขึ้นในวันที่ 4 ธันวาคม 2551-6 มกราคม 2552 เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของตลาดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้บริโภคนิยมซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามากเป็นพิเศษ และเลือกเฟ้นสินค้าเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ โดยร่วมกับผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 30 แบรนด์ พร้อมด้วย 12 พันธมิตรบัตรเครดิต
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการฉลองการจัดงานครบ 10 ปี ทาง พาวเวอร์มอลล์ มีการจัดโปรโมชันพิเศษ เมื่อซื้อสินค้าครบ 3,000 บาท จะได้คูปองชิงหุ่นยนต์ไดโนเสาร์สาขาละ 10 ตัว โดยใช้งบในการจัดงานทั้งสิ้น 22 ล้านบาท ซึ่งรวมถึงการโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ทั้งแมสมีเดีย และไดเรกเมล ตลอดจนสื่อ POP ณ จุดขาย และคาดว่า การจัดงานครั้งนี้จะสามารถทำยอดขายได้ถึง 400 ล้านบาท
