ASTV ผู้จัดการรายวัน – โฟร์พัฒนาฯระบุครึ่งปีหลังตลาดรับสร้างบ้านกระเตื้อง เหตุน้ำมันพุ่งลูกค้าเร่งสั่งสร้างบ้านก่อนต้นทุนสร้างบ้านขึ้นตาม กอรปกับแนวโน้มเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้นตัว ดอกเบี้ยต่ำ การเมืองนิ่งความเชื่อมั่นลูกค้ากลับ
นายปราโมทย์ ธีรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด กล่าวว่า นับจากช่วงปลายปี 51 จนถึงไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดรับสร้างบ้านหดตัวลงไปค่อนข้างมาก เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาต้นทุนการก่อสร้างปรับตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว วิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาการเมืองภายในซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าทำให้ชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านออกไป
อย่างไรก็ตาม หลังไตรมาสแรกของปี 52 เป็นต้นมาราคาวัสดุก่อสร้างปรับเข้าสู่ภาวะปกติ ในขณะที่ปัญหาด้านการเมืองเริ่มนิ่ง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ลูกค้าเริ่มเข้ามาตรวจสอบราคา และแบบบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาลูกค้ามีการตัดสินใจทำสัญญาก่อสร้างบ้านกับบริษัทมากขึ้น โดยก่อนหน้านั้นบริษัทมียอดทำสัญญาก่อสร้างบ้านต่อเดือน 2-3 หลังเท่านั้น แต่ในช่วงเดือน พฤษภาคมถึงปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาทำสัญญาก่อสร้างแล้ว 12 รายหรือคิดเฉลี่ย 6 หลัง/เดือน ซึ่งถือเป็นสัญญาว่าลูกค้ามีการตัดสินใจซื้อที่เร็วขึ้น
ทั้งนี้ สาเหตุที่ลูกค้ามีการตัดสินใจก่อสร้างบ้านเร็วขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ลดลง การเมืองนิ่ง แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่สาเหตุหลักๆ แล้วคาดว่าการเร่งตัดสินใจทำสัญญาก่อสร้างบ้านนั้นเนื่องจากแนวโน้มการปรับตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่ทำให้ลูกค้ากังวลว่าราคาวัสดุก่อสร้างจะปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งจะทำให้ต้องสร้างบ้านแพงกว่าราคาที่สูงขึ้น
“บริษัทมองว่าช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ดีสำหรับลูกค้าที่ต้องการก่อสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง เพราะต้นทุนวัสดุก่อสร้างอยู่ในระดับต่ำ ผู้ประกอบการมีการจัดโปรโมชั่น และดอกเบี้ยถูก ทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด”
สำหรับปีนี้ กลุ่มบริษัทโฟร์พัฒนาฯตั้งเป้าว่าจะมีรายได้ร่วม 610 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายแล้ว 214 ล้านบาทต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย โดยเฉพาะกลุ่มบ้านราคา 4-6 ล้านบาทที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท และบ้านราคา 2-4 ล้านบาท แต่เชื่อว่ายังคงมีความต้องการอยู่หากเศรษฐกิจฟื้นตัว เพราะถือเป็นกลุ่มบ้านหลักแรก ส่วนกลุ่มลูกค้าบ้านระดับ 6-10 ล้านบาทยังมีความต้องการต่อเนื่องอยู่
ด้านนาย วิชัย คงศรีอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์ดีเวลลอปเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า ราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังที่มีการแก่วงตัวจากการเก็งกำไรของกองทุนต่างๆนั้นอาจจะส่งผลต่อกำลังซื้อและต้นทุนการก่อสร้างบ้าน แต่หากราคาน้ำมันปรับตัวไม่มากและราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวขึ้น 1-2% เชื่อว่าจะไม่ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านปรับราคาขายบ้านขึ้นเนื่องจากการปรับตัวของต้นทุนวัสดุก่อสร้างดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตามบริษัทได้ขอให้บริษัทวัสดุก่อสร้างแจ้งล่วงหน้าหากจะมีการปรับราคา ซึ่งจะทำให้สามารถบริหารวัสดุก่อสร้างไว้รองรับงานก่อสร้างที่ได้ทำสัญญาไว้ล่วงหน้าได้”
นายปราโมทย์ ธีรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์พัฒนา จำกัด กล่าวว่า นับจากช่วงปลายปี 51 จนถึงไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดรับสร้างบ้านหดตัวลงไปค่อนข้างมาก เนื่องจากผลกระทบจากปัญหาต้นทุนการก่อสร้างปรับตัวตามราคาน้ำมันในตลาดโลกช่วงไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว วิกฤตเศรษฐกิจ และปัญหาการเมืองภายในซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้าทำให้ชะลอการตัดสินใจสร้างบ้านออกไป
อย่างไรก็ตาม หลังไตรมาสแรกของปี 52 เป็นต้นมาราคาวัสดุก่อสร้างปรับเข้าสู่ภาวะปกติ ในขณะที่ปัญหาด้านการเมืองเริ่มนิ่ง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้ลูกค้าเริ่มเข้ามาตรวจสอบราคา และแบบบ้านมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาลูกค้ามีการตัดสินใจทำสัญญาก่อสร้างบ้านกับบริษัทมากขึ้น โดยก่อนหน้านั้นบริษัทมียอดทำสัญญาก่อสร้างบ้านต่อเดือน 2-3 หลังเท่านั้น แต่ในช่วงเดือน พฤษภาคมถึงปัจจุบันมีลูกค้าเข้ามาทำสัญญาก่อสร้างแล้ว 12 รายหรือคิดเฉลี่ย 6 หลัง/เดือน ซึ่งถือเป็นสัญญาว่าลูกค้ามีการตัดสินใจซื้อที่เร็วขึ้น
ทั้งนี้ สาเหตุที่ลูกค้ามีการตัดสินใจก่อสร้างบ้านเร็วขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งมาจากราคาวัสดุก่อสร้างที่ลดลง การเมืองนิ่ง แนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว แต่สาเหตุหลักๆ แล้วคาดว่าการเร่งตัดสินใจทำสัญญาก่อสร้างบ้านนั้นเนื่องจากแนวโน้มการปรับตัวของราคาน้ำมันในตลาดโลก ที่ทำให้ลูกค้ากังวลว่าราคาวัสดุก่อสร้างจะปรับตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งจะทำให้ต้องสร้างบ้านแพงกว่าราคาที่สูงขึ้น
“บริษัทมองว่าช่วงนี้ถือเป็นช่วงที่ดีสำหรับลูกค้าที่ต้องการก่อสร้างบ้านบนที่ดินของตัวเอง เพราะต้นทุนวัสดุก่อสร้างอยู่ในระดับต่ำ ผู้ประกอบการมีการจัดโปรโมชั่น และดอกเบี้ยถูก ทำให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด”
สำหรับปีนี้ กลุ่มบริษัทโฟร์พัฒนาฯตั้งเป้าว่าจะมีรายได้ร่วม 610 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายแล้ว 214 ล้านบาทต่ำกว่าเป้าเล็กน้อย โดยเฉพาะกลุ่มบ้านราคา 4-6 ล้านบาทที่เป็นกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท และบ้านราคา 2-4 ล้านบาท แต่เชื่อว่ายังคงมีความต้องการอยู่หากเศรษฐกิจฟื้นตัว เพราะถือเป็นกลุ่มบ้านหลักแรก ส่วนกลุ่มลูกค้าบ้านระดับ 6-10 ล้านบาทยังมีความต้องการต่อเนื่องอยู่
ด้านนาย วิชัย คงศรีอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฟร์ดีเวลลอปเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า ราคาน้ำมันในช่วงครึ่งปีหลังที่มีการแก่วงตัวจากการเก็งกำไรของกองทุนต่างๆนั้นอาจจะส่งผลต่อกำลังซื้อและต้นทุนการก่อสร้างบ้าน แต่หากราคาน้ำมันปรับตัวไม่มากและราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวขึ้น 1-2% เชื่อว่าจะไม่ทำให้บริษัทรับสร้างบ้านปรับราคาขายบ้านขึ้นเนื่องจากการปรับตัวของต้นทุนวัสดุก่อสร้างดังกล่าวถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตามบริษัทได้ขอให้บริษัทวัสดุก่อสร้างแจ้งล่วงหน้าหากจะมีการปรับราคา ซึ่งจะทำให้สามารถบริหารวัสดุก่อสร้างไว้รองรับงานก่อสร้างที่ได้ทำสัญญาไว้ล่วงหน้าได้”
