การบินไทย ปรับตารางบินใหม่ถึง มี.ค. 52 ยังไม่มีการยกเลิก หรือลดเที่ยวบิน รอประเมินสถานการณ์ช่วง ม.ค.อีกครั้ง “ณรงค์ศักดิ์” ยอดจองตั๋วเฉลี่ยประมาณ 70% อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ ยอมรับผู้โดยสารจากจีน เกาหลี ยังไม่กระเตื้อง เหตุเพราะเป็นการเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์ เตรียมลดขนาดเครื่องบินเพื่อลดค่าใช้จ่ายแทน เปิดแผนสู้วิกฤตเศรษฐกิจปี 52 เข้มลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เงินบริจาค โอที เพิ่มรายได้จากากการขนส่งสินค้าและการทำโค้ดแชร์ริงกับสายการบินอื่น ประกาศไม่มีแผนลดเงินเดือนลดพนักงาน
วันนี้ (18 ธันวาคม 2551) พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักเลขานุการ บริษัท ปฏิบัติหน้าที่ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทบทวนตารางการบินใหม่ระหว่าง 15 ธันวาคม 2551-มีนาคม 2552 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับตารางบินเดิมที่เคยกำหนดไว้ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง เนื่องจากการจองตั๋ว (Booking) เฉลี่ยเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประมาณ 70% ส่วนเส้นทางที่ยังคงมีจำนวนผู้โดยสารลดลงอยู่เช่น จีน ญี่ปุ่น นั้น บริษัทใช้การปรับลดขนาดเครื่องบินให้เล็กลง เช่น เปลี่ยนจากเครื่องบิน โบอิง 747 ขนาด 400 ที่นั่ง เป็นแอร์บัส 330 ขนาด 300 ที่นั่ง เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารและประหยัดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงลงด้วย โดยภาพรวมของตารางบินดังกล่าวยังไม่มีการยกเลิกเส้นทางบินหรือปรับลดเที่ยวบินลง แต่ทั้งนี้จะต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงเดือน มกราคม 2552 ด้วยว่า มีการยกเลิกการเดินทางหรือไม่ โดยหากมีการเดินทางลดลง ก็อาจจะมีการทบทวนตารางบินในช่วงดังกล่าวอีกครั้ง
ทั้งนี้ แม้บริษัทจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและการปิดสนามบิน ซึ่งทำให้บริษัทต้องสูญเสียรายได้วันละกว่า 500 ล้านบาท นั้น แต่ขณะนี้บริษัทยังไม่มีนโยบายในการปรับลดพนักงานหรือปลดพนักงาน ไม่มีนโยบายลดเงินเดือน โดยฝ่ายบริหารของบริษัทได้หารือร่วมกันแล้วเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา และได้ประกาศให้พนักงานทราบแล้ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า สถานการณ์ของบริษัทจะดีขึ้นหรือไม่ ขึ้นกับหลายปัจจัย โดยนอกจากภาวะเศรษฐกิจโลกแล้ว ปัจจัยเรื่องการเมืองภายในประเทศก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งหากสถานการณ์ดีขึ้น เชื่อว่าผู้โดยสารจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นบริษัทก็จะได้รับผลกระทบ
“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าผลประกอบการในปี 2551 ของบริษัทจะเป็นอย่างไร ต้องรอจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค.ซึ่งหากผลประกอบการดี อย่างน้อยต้องจ่ายโบนัส 1 เดือน แต่หากไม่มีกำไร ก็คงจ่ายโบนัสไม่ได้ ซึ่งเป็นหลักการทั่วไป และพนักงานก็เข้าใจดี เพราะได้มีการชี้แจงแล้ว” พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ทิศทางในปี 2552 ซึ่งเศรษฐกิจทั่วโลกยังมีปัญหานั้น บริษัทมีแผนในการปรับลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อย เช่น การบริจาคต่างๆ การคำนวณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละเที่ยวบินที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการใช้งานจริง ค่าล่วงเวลาต่างๆ (โอที) ที่มากเกินความจำเป็น แต่ทั้งนี้ จะไม่ให้กระทบต่อสวัสดิการของพนักงานที่เคยได้รับ นอกจากนี้ จะต้องเร่งเพิ่มรายได้ เช่น จากการขนส่งสินค้าและการทำโค้ดแชร์ริงกับสายการบิน การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายตั๋วผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านเอเยนต์ลง เป็นต้น
***เพิ่มเที่ยวบินในประเทศช่วงปีใหม่ รวม 29 เที่ยวบิน
สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2551 - 4 มีนาคม 2552 บริษัทจะเพิ่มเที่ยวบินและปรับเปลี่ยนแบบเครื่องบินให้มีขนาดใหญ่ขึ้นในเส้นทางบินภายในประเทศ รวม 29 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 12,036 ที่นั่ง ทำให้มีที่นั่งในเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และกระบี่ รวม 121,692 ที่นั่ง เพื่อรองรับปริมาณของผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าว ตามรายละเอียดดังนี้ เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 6 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 3,114 ที่ กรุงเทพฯ-เชียงราย เพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 2 เที่ยวบิน และปรับเปลี่ยนขนาดของเครื่องบินให้ใหญ่ขึ้น 1 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 1,104 ที่ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต เพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 10 เที่ยวบิน และปรับเปลี่ยนขนาดของเครื่องบินให้ใหญ่ขึ้น 4 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 5,638 ที่ ดอนเมือง-ภูเก็ตเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 2 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 596 ที่กรุงเทพฯ-กระบี่ เพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 4 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 1,584 ที่นั่ง
วันนี้ (18 ธันวาคม 2551) พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ สังขพงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักเลขานุการ บริษัท ปฏิบัติหน้าที่ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ทบทวนตารางการบินใหม่ระหว่าง 15 ธันวาคม 2551-มีนาคม 2552 เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับตารางบินเดิมที่เคยกำหนดไว้ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง เนื่องจากการจองตั๋ว (Booking) เฉลี่ยเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ประมาณ 70% ส่วนเส้นทางที่ยังคงมีจำนวนผู้โดยสารลดลงอยู่เช่น จีน ญี่ปุ่น นั้น บริษัทใช้การปรับลดขนาดเครื่องบินให้เล็กลง เช่น เปลี่ยนจากเครื่องบิน โบอิง 747 ขนาด 400 ที่นั่ง เป็นแอร์บัส 330 ขนาด 300 ที่นั่ง เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารและประหยัดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงลงด้วย โดยภาพรวมของตารางบินดังกล่าวยังไม่มีการยกเลิกเส้นทางบินหรือปรับลดเที่ยวบินลง แต่ทั้งนี้จะต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงเดือน มกราคม 2552 ด้วยว่า มีการยกเลิกการเดินทางหรือไม่ โดยหากมีการเดินทางลดลง ก็อาจจะมีการทบทวนตารางบินในช่วงดังกล่าวอีกครั้ง
ทั้งนี้ แม้บริษัทจะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและการปิดสนามบิน ซึ่งทำให้บริษัทต้องสูญเสียรายได้วันละกว่า 500 ล้านบาท นั้น แต่ขณะนี้บริษัทยังไม่มีนโยบายในการปรับลดพนักงานหรือปลดพนักงาน ไม่มีนโยบายลดเงินเดือน โดยฝ่ายบริหารของบริษัทได้หารือร่วมกันแล้วเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมา และได้ประกาศให้พนักงานทราบแล้ว อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า สถานการณ์ของบริษัทจะดีขึ้นหรือไม่ ขึ้นกับหลายปัจจัย โดยนอกจากภาวะเศรษฐกิจโลกแล้ว ปัจจัยเรื่องการเมืองภายในประเทศก็มีส่วนสำคัญ ซึ่งหากสถานการณ์ดีขึ้น เชื่อว่าผู้โดยสารจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นบริษัทก็จะได้รับผลกระทบ
“ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ว่าผลประกอบการในปี 2551 ของบริษัทจะเป็นอย่างไร ต้องรอจนถึงสิ้นเดือน ธ.ค.ซึ่งหากผลประกอบการดี อย่างน้อยต้องจ่ายโบนัส 1 เดือน แต่หากไม่มีกำไร ก็คงจ่ายโบนัสไม่ได้ ซึ่งเป็นหลักการทั่วไป และพนักงานก็เข้าใจดี เพราะได้มีการชี้แจงแล้ว” พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ กล่าว
พลอากาศเอก ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า ทิศทางในปี 2552 ซึ่งเศรษฐกิจทั่วโลกยังมีปัญหานั้น บริษัทมีแผนในการปรับลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟื่อย เช่น การบริจาคต่างๆ การคำนวณการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในแต่ละเที่ยวบินที่ชัดเจน เพื่อให้เกิดความเหมาะสมในการใช้งานจริง ค่าล่วงเวลาต่างๆ (โอที) ที่มากเกินความจำเป็น แต่ทั้งนี้ จะไม่ให้กระทบต่อสวัสดิการของพนักงานที่เคยได้รับ นอกจากนี้ จะต้องเร่งเพิ่มรายได้ เช่น จากการขนส่งสินค้าและการทำโค้ดแชร์ริงกับสายการบิน การเพิ่มช่องทางการจำหน่ายตั๋วผ่านระบบอินเทอร์เน็ต เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านเอเยนต์ลง เป็นต้น
***เพิ่มเที่ยวบินในประเทศช่วงปีใหม่ รวม 29 เที่ยวบิน
สำหรับในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2552 ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2551 - 4 มีนาคม 2552 บริษัทจะเพิ่มเที่ยวบินและปรับเปลี่ยนแบบเครื่องบินให้มีขนาดใหญ่ขึ้นในเส้นทางบินภายในประเทศ รวม 29 เที่ยวบิน หรือเพิ่มขึ้นกว่า 12,036 ที่นั่ง ทำให้มีที่นั่งในเที่ยวบินไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เชียงราย ภูเก็ต และกระบี่ รวม 121,692 ที่นั่ง เพื่อรองรับปริมาณของผู้โดยสารที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าว ตามรายละเอียดดังนี้ เส้นทาง ไป-กลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 6 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 3,114 ที่ กรุงเทพฯ-เชียงราย เพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 2 เที่ยวบิน และปรับเปลี่ยนขนาดของเครื่องบินให้ใหญ่ขึ้น 1 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 1,104 ที่ กรุงเทพฯ-ภูเก็ต เพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 10 เที่ยวบิน และปรับเปลี่ยนขนาดของเครื่องบินให้ใหญ่ขึ้น 4 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 5,638 ที่ ดอนเมือง-ภูเก็ตเพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 2 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 596 ที่กรุงเทพฯ-กระบี่ เพิ่มเที่ยวบินพิเศษ 4 เที่ยวบิน จำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้น 1,584 ที่นั่ง
