ศูนย์ข่าวศรีราชา – พิษเศรษฐกิจที่ลุกลามทั่วโลก รวมถึงปัญหาการเมืองไทย ทำนักท่องเที่ยวทั้งไทยและทัวร์ต่างชาติหาย จากสวนเสือศรีราชา เกือบ 100% ส่งผลรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย ทั้งเงินเดือนพนักงานและอาหารสัตว์ที่มีสูงเกือบ 15 ล้านบาทต่อเดือน จำต้องขอปรับลดเงินเดือนพนักงานลง 20% เพื่อรักษาความอยู่รอดแทนการปลดออก เชื่อแก้วิกฤตได้ในระยะ 3 เดือน ขณะที่สวนนงนุช พัทยา หนีไม่พ้นวิกฤตต้องปรับลดเงินเดือนพนักงานเช่นกัน
นายศุภดล โฉมมงคล ผู้จัดการ บริษัท ศรีราชาไทเกอร์ ซู จำกัด ซึ่งเปิดให้บริการแสดงสัตว์และโชว์การแสดงของเสือ ภายใต้ชื่อ สวนเสือศรีราชา จังหวัดชลบุรีมานานกว่า 10 ปี กล่าวยืนยันว่า สวนเสือศรีราชา ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แม้ปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวและกรุ๊ปทัวร์ต่างชาติ ซึ่งลูกค้าหลัก คือกลุ่มนักท่องเที่ยวแถบเอเชียจะหายไปเกือบ 100% ตามภาวะเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามไปทั่วโลก จนทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวภายในสวนเสือศรีราชา ดูเงียบเหงาไปถนัดตา เช่นเดียวกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบ
ปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากปัญหาการเมืองภายในประเทศ ที่ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทย และนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว ชะลอการเดินทางและการใช้จ่ายแม้จะอยู่ในช่วงไฮซีซันก็ตาม โดยช่วงไฮซีซันแต่ละปีสวนเสือศรีราชาจะมีนักท่องเที่ยวประมาณ 2,500-3,000 คน ต่อเดือน แต่ปัจจุบันกลับเหลือเพียง 50-100 คน ต่อเดือนเท่านั้น โดยแยกเป็นนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 35 % นักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 65%
“ล่าสุดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่เข้ามาเที่ยวเลย ทั้งๆที่ผ่านมาแม้เราจะเคยได้รับผลกระทบจากข่าวการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนก แต่ก็ยังคงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาไม่น้อยกว่า 30% แต่ในช่วงนี้เราได้รับผลกระทบ 100%”
ล่าสุดคณะผู้บริหารสวนเสือศรีราชา ได้กำหนดแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อประคองธุรกิจให้อยู่รอดด้วยการขอปรับลดเงินเดือนพนักงานลง 20% แทนการปลดพนักงาน ซึ่งนับจากเดือนธันวาคมเป็นต้นไปพนักงานทั้ง 400 คนของสวนเสือศรีราชาจะได้รับเงินเดือนเพียง 80% เท่านั้น โดยได้ขอร้องให้พนักงานช่วยกันแก้วิกฤตให้ผ่านพ้นช่วงนี้ไปก่อนและยังลดค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ และตั้งความหวังว่าในช่วง 3 เดือนนับจากนี้สถานการณ์การเงินของบริษัทจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
“เราต้องทำทุกวิธีทางเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและรักษาธุรกิจไม่ให้หยุดชะงัก หรือล้มเลิกไป เพราะผลกระทบในครั้งนี้ถือว่ารุนแรงมากที่สุดที่เคยประสบมา เนื่องจากปัจจุบันเรามีค่าใช้จ่าย ในการว่าจ้างพนักงานและดูแลเรื่องอาหารของสัตว์ เฉลี่ยเดือนละประมาณ 14-15 ล้านบาท” นายศุภดล กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากสวนเสือศรีราชาที่ขอปรับลดเงินเดือนพนักงานเพื่อความอยู่รอดแล้ว ยังพบว่า สวนนงนุช พัทยา ก็ได้รับผลกระทบจากปัญหานักท่องเที่ยวลดน้อยลงเช่นกัน และยังได้ขอปรับลดเงินเดือนพนักงานเพื่อแลกกับการปลดพนักงานที่ทำงานด้วยกันมานานหลายสิบปีเช่นกัน