รักษาการ รมว.พลังงาน สั่งประชุมฯ กบง. เดินหน้าขึ้นราคาก๊าซ "แอลพีจี" เพื่อเตรียมเสนอนายกฯ คนที่ 27 พิจารณาเห็นชอบ เล็งปรับเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากเพดานปัจจุบันสุดที่ 4 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 7-8 บาทต่อลิตร เพื่อนำมารักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน และแก้ไขปัญหาค่าการตลาดที่อยู่ในอัตราสูงประมาณ 2-7 บาทต่อลิตร
วันนี้ (15 ธันวาคม 2551) คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะมีการประชุมเพื่อปรับราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) โดยมีนายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายแพทย์ (นพ.) วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้เป็นประธานที่ประชุมฯ
โดยวาระที่จะพิจารณาในวันนี้ คือ เห็นชอบตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เห็นชอบปรับโครงสร้างราคาก๊าซหุงต้มออกเป็น 2 ราคา โดยจะมีการปรับขึ้นราคาก๊าซภาคขนส่งและอุตสาหกรรมจำนวน 6 บาทต่อกิโลกรัม โดยแนวทางดังกล่าวจะต้องมีการเสนอให้นายกรัฐมนตรีลงนามเห็นชอบด้วย
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็นการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลบชุดใหม่ กบง.จะเห็นชอบเพียงกรอบหลักการเท่านั้น แต่จะมีการปรับขึ้นราคาหรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกรัฐมนตรีคนใหม่จะเป็นผู้ชี้ขาด ซึ่งจากราคาก๊าสหุงต้นในตลาดโลกที่ลดต่ำลงมาจากราคา 900 ดอลลาร์ต่อตัน มาอยู่ที่ 338 ดอลลาร์ต่อตัน ซึ่งเป็นราคาใกล้เคียงกับหน้าโรงกลั่นของไทยที่ 323 ดอลลาร์ต่อตัน ดังนั้น รัฐบาลชุดใหม่ก็อาจจะพิจารณาไม่เห็นชอบการปรับขึ้นราคาก็ได้
นอกจากนี้ ที่ประชุม กบง.เห็นชอบกรอบการปรับเงินเก็บเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากเพดานปัจจุบันสุดที่ 4 บาทต่อลิตร เพิ่มเป็น 7-8 บาทต่อลิตร เพื่อนำมารักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน และยังเป็นการแก้ไขปัญหาค่าการตลาดที่ขณะนี้อยู่ในอัตราสูงประมาณ 2-7 บาทต่อลิตร และที่ประชุมก็ยังพิจารณาว่าอำนาจความเห็นการปรับอัตราการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันอาจไม่จำเป็นต้องเรียกประชุม กบง.ทุกครั้ง เพื่อความรวดเร็ว อาจเป็นการเสนอให้ รมว.พลังงาน พิจารณาลงนามเหมือนในอดีต