ธอส.รอดูท่าทีแบงก์พาณิชย์ ก่อนปรับอัตราดอกเบี้ย แย้มต้องลดเงินฝากก่อนเงินกู้ เพราะจะขาดทุน “ขรรค์” ชี้ ปัญหาเงินตึง เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้ หากลดดอกเบี้ยเงินฝาก อาจเกิดปัญหาสภาพคล่อง ธนาคารจะต้องแย่งกันระดมเงิน ยิ่งทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ปรับลดลงได้ยาก “นริศ” อัดแบงก์ชาติ ส่งสัญญาณผิดๆ ให้ตลาดหลงทาง ล่าสุด แบงก์ทหารไทย หั่นดอกเบี้ยลงแล้ว
วันนี้ (09 ธันวาคม 2551) นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ จำกัด (ธอส.) เปิดเผยว่า มีแนวโน้มสูงที่ ธอส.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง โดยการตัดสินใจปรับลดดอกเบี้ย ธนาคารคงต้องดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ และประเมินว่า เขาจะปรับลงแรงหรือไม่ หากธนาคารปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงตามดอกเบี้ยเงินฝาก เชื่อว่าจะช่วยลดภาระการผ่อนชำระของผู้ซื้อบ้านในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวได้เป็นอย่างดี
“สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้ ได้แก่ หากลดดอกเบี้ยเงินฝากลงจะเกิดปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ธนาคารจะต้องแย่งกันระดมเงินฝาก เพราะตลาดเงินโดยรวมยังอยู่ในภาวะตึงตัว และจะยิ่งทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้ปรับลดลงได้ยาก”
นายขรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทิศทางดอกเบี้ยของสถาบันการเงินอยู่ในช่วงขาลง เนื่องจากมีแนวโน้มที่ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงอีก เพื่อป้องกันเงินทุนไหลเข้า เพราะมีแนวโน้มว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ยลงจนเหลือ 0.50% หรือ 0% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 1%
นายนริศ ชัยสูตร ประธานกรรมการ ธอส.กล่าวยืนยันว่า ธนาคารมีความพร้อมที่จะลดอัตราดอกเบี้ยลงเช่นเดียวกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ก็มีมติเห็นชอบแล้ว แต่ก็ต้องรอดูท่าทีของธนาคารอื่นๆ ด้วยเช่นกัน เพื่อประเมินว่า เขาจะมีการเปลี่ยนแปลงออกมาในรูปแบบใด โดยในลำดับแรกคาดว่าน่าจะเป็นการลดดอกเบี้ยเงินฝากก่อน เพราะหากไปลดดอกเบี้ยเงินกู้ก่อน ก็คงขาดทุน
“ก่อนหน้านี้ นายแบงก์ส่วนใหญ่มีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) น่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงในระดับที่ 0.50-0.75% เท่านั้น แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับมีการปรับลดมากถึง 1% ซึ่งการปรับลดครั้งดังกล่าว ก็ต้องถือว่าใช้ได้ผล แต่คงไม่ใช่กับทั้งระบบ” นายนริศ กล่าวสรุปทิ้งท้าย
ล่าสุด มีรายงานว่า ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TMB ได้ประกาศปรับลดดอกเบี้ยแล้ว โดยบัญชีเงินฝากประจำลดลงในอัตรา 0.75-1.00% และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25-0.50% โดยมีผลตั้งแต่วันนี้
สำหรับดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 3 เดือนปรับมาอยู่ที่ 1.50% จากเดิมที่ 2.375% เงินฝากประจำ 6 เดือน มาอยู่ที่ 1.75% จาก 2.50% เงินฝากประจำ 12 เดือน อยู่ที่ 1.75% จาก 2.75% เงินฝากประจำ 24 เดือน อยู่ที่ 2.50% จาก 3.50% และเงินฝากประจำ 36 เดือน อยู่ที่ 2.50% จาก 3.50%
ในส่วนอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ลดเหลือ 7.00% จาก 7.50% อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลดเหลือ 7.50% จาก 8.00% และอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) อยู่ที่ 7.75% จาก 8.00%
