แกมโบล อัดฉีด 30ล้านบาท ลุยตลาดปีหน้า ชูกลยุทธ์สร้างความต่างด้านดีไซน์ทะลวงกลุ่มวัยรุ่น รับมือวิกฤตเศรษฐกิจโลก ตลาดรองเท้าลำลองมูลค่า 6,000 ล้านบาท ปีหน้าเติบโตไม่เกิน 5% เดินเกมรักษาฐานลูกค้า ปรับตัวให้เร็ว ตั้งเป้ารายโต 20% จากรายได้สิ้นปีนี้ 1,500 ล้านบาท กวาดแชร์จาก 10% เป็น 14% รั้งอันดับ 2
นายธีรเดช สนองทวีพร ผู้อำนวยการฝ่าย สายงานการตลาดและการขาย บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด ผู้บริหารของรองเท้าแกมโบล เปิดเผยว่า แผนการตลาดรองเท้าแกมโบลในปีหน้านี้ บริษัทได้เตรียมทุ่มงบ 30 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยบริษัทยังคงเดินกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างทางด้านการดีไซน์เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอายุ 13-25 ปี โดยได้เตรียมเปิดตัวสินค้า 250-300 โมเดล ทั้งกลุ่มรองเท้าแตะลำลอง รองเท้าผ้าใบลำลอง และรองเท้านักเรียน ตลอดจนขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันจำหน่ายเน้นจำหน่ายผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรดสัดส่วน 70% และโมเดิร์นเทรด 30%
"ปีหน้านี้แกมโบลได้เตรียมแผนรองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย โดยเน้นรักษาฐานลูกค้า และพัฒนาสินค้าตอบสนองความต้องการ ตลอดจนการปรับตัวรองรับกับสถานการณ์ที่พร้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด"
สำหรับตลาดรองเท้าลำลองมูลค่า 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รองเท้าแตะลำลองมูลค่า 5,000 ล้านบาท รองเท้าผ้าใบลำลอง 1,000 ล้านบาท ในปีหน้านี้คาดว่าตลาดรวมมีอัตราการเติบโตไม่เกิน 5%โดยปัจจัยลบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และความไม่มั่นคงทางการเมืองส่งผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก ประมาณการณ์อัตราการซื้อรองเท้าแตะลำลองกลุ่มวัยรุ่นยังคงเฉลี่ย 1 คู่ในช่วง 2 เดือน ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่ 1 คู่ในช่วง 3 เดือน ส่วนแนวโน้มการแข่งขันในปีหน้านี้ ผู้ประกอบการจะเน้นการสร้างความแตกต่างสินค้าและด้านบริการ ตลอดจนการใช้กลยุทธ์ราคาจำหน่าย 49-59 บาท ขึ้นไป เมื่อเทียบกับแกมโบลราคา 100 บาทขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม นายธีรเดช กล่าวว่า ปีหน้านี้บริษัทจะรุกตลาดรองเท้าผ้าใบลำลองมากขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก 15% เป็น 20% จากปัจจุบันรองเท้าแตะลำลองสัดส่วน 80% รองเท้านักเรียน 5% ทั้งนี้จากการดำเนินการตลาดเชิงรุกในปีหน้านี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 20% จากสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้ 1,500 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 30% ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตสวนกระแส เพราะการทำตลาดที่สร้างความแตกต่าง และการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ซื้อสินค้าด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล สำหรับสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 10% รั้งอันดับ 2 ของตลาด โดยปีหน้านี้ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 12-14% ส่วนผู้นำกีโต้ 20-22% แอดด้า 8%
นายธีรเดช สนองทวีพร ผู้อำนวยการฝ่าย สายงานการตลาดและการขาย บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด ผู้บริหารของรองเท้าแกมโบล เปิดเผยว่า แผนการตลาดรองเท้าแกมโบลในปีหน้านี้ บริษัทได้เตรียมทุ่มงบ 30 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยบริษัทยังคงเดินกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างทางด้านการดีไซน์เจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นอายุ 13-25 ปี โดยได้เตรียมเปิดตัวสินค้า 250-300 โมเดล ทั้งกลุ่มรองเท้าแตะลำลอง รองเท้าผ้าใบลำลอง และรองเท้านักเรียน ตลอดจนขยายช่องทางจำหน่ายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันจำหน่ายเน้นจำหน่ายผ่านช่องทางเทรดิชันนัลเทรดสัดส่วน 70% และโมเดิร์นเทรด 30%
"ปีหน้านี้แกมโบลได้เตรียมแผนรองรับกับภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย โดยเน้นรักษาฐานลูกค้า และพัฒนาสินค้าตอบสนองความต้องการ ตลอดจนการปรับตัวรองรับกับสถานการณ์ที่พร้อมเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด"
สำหรับตลาดรองเท้าลำลองมูลค่า 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รองเท้าแตะลำลองมูลค่า 5,000 ล้านบาท รองเท้าผ้าใบลำลอง 1,000 ล้านบาท ในปีหน้านี้คาดว่าตลาดรวมมีอัตราการเติบโตไม่เกิน 5%โดยปัจจัยลบจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก และความไม่มั่นคงทางการเมืองส่งผลกระทบบ้างแต่ไม่มากนัก ประมาณการณ์อัตราการซื้อรองเท้าแตะลำลองกลุ่มวัยรุ่นยังคงเฉลี่ย 1 คู่ในช่วง 2 เดือน ส่วนกลุ่มผู้ใหญ่ 1 คู่ในช่วง 3 เดือน ส่วนแนวโน้มการแข่งขันในปีหน้านี้ ผู้ประกอบการจะเน้นการสร้างความแตกต่างสินค้าและด้านบริการ ตลอดจนการใช้กลยุทธ์ราคาจำหน่าย 49-59 บาท ขึ้นไป เมื่อเทียบกับแกมโบลราคา 100 บาทขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม นายธีรเดช กล่าวว่า ปีหน้านี้บริษัทจะรุกตลาดรองเท้าผ้าใบลำลองมากขึ้น โดยตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จาก 15% เป็น 20% จากปัจจุบันรองเท้าแตะลำลองสัดส่วน 80% รองเท้านักเรียน 5% ทั้งนี้จากการดำเนินการตลาดเชิงรุกในปีหน้านี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 20% จากสิ้นปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้ 1,500 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 30% ทั้งนี้ปัจจัยที่ทำให้บริษัทมีอัตราการเติบโตสวนกระแส เพราะการทำตลาดที่สร้างความแตกต่าง และการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่ซื้อสินค้าด้วยอารมณ์มากกว่าเหตุผล สำหรับสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 10% รั้งอันดับ 2 ของตลาด โดยปีหน้านี้ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 12-14% ส่วนผู้นำกีโต้ 20-22% แอดด้า 8%
