xs
xsm
sm
md
lg

ศาลยกคำร้อง “ไชยวัฒน์” ระบุ ตร.จับชอบด้วยกฎหมาย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
ศาลอาญาสั่งยกคำร้อง “ไชยวัฒน์” หลังยื่นขอปล่อยตัวถูกคุมขังโดยมิชอบ ชี้ตำรวจคุมขังโดยชอบด้วยกฎหมายตามหมายจับแล้ว ก่อนนำตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯต่อ

วันนี้ (6 ต.ค.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่ห้องพิจารณาคดี 701 ศาลออกนั่งบัลลังก์อ่านคำสั่งกรณีที่นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แนวร่วมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นคำร้องเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ขอให้ปล่อยตัว เนื่องจากถูกคุมขังโดยมิชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 90

โดยศาลพิเคราะห์แล้วคดีมีประเด็นต้องวินิจฉัยว่า นายไชยวัฒน์ ผู้ร้องถูกคุมขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งผู้ร้องนำสืบว่าถูกจับกุมโดยมิชอบ เนื่องจากคดีนี้ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ที่ขอเพิกถอนหมายจับผู้ร้องกับพวกไว้แล้ว และผู้ร้องได้ยื่นคำร้องขอให้ระงับการดำเนินการตามหมายจับไว้ก่อน คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ หมายจับย่อมถูกระงับใช้ไว้ชั่วคราว การที่ตำรวจนำหมายดังกล่าวไปจับผู้ร้องจึงเป็นการจับโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

เห็นว่า แม้ผู้ร้องกับพวกยื่นอุทธรณ์ขอให้เพิกถอนหมายจับ และศาลอุทธรณ์มีคำสั่งรับไว้พิจารณาแล้วก็ตาม แต่เมื่อศาลอุทธรณ์ยังมิได้มีคำสั่งเพิกถอนหมายจับ และกรณีที่ผู้ร้องยื่นคำขอให้ระงับการดำเนินการตามหมายจับไว้ก่อน แต่ศาลอุทธรณ์ก็ยังมิได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น จึงต้องถือว่าหมายจับของศาลอาญามีผลใช้บังคับได้ตามกฎหมาย เจ้าพนักงานตำรวจย่อมมีอำนาจจับกุมผู้ร้องตามหมายจับได้

ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่า เจ้าพนักงานตำรวจเข้าจับกุมผู้ร้องในบ้านพักโดยไม่มีหมายค้นนั้น ได้ความจากคำเบิกความของผู้ร้องว่า ขณะถูกจับกุมผู้ร้องเปิดประตูจะเข้าบ้าน ซึ่งเป็นร้านค้า เมื่อผู้ร้องเดินเข้าไปในบ้านแล้วเจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปจับกุมในบ้าน เห็นว่า ผู้ร้องเบิกความว่าถูกเจ้าพนักงานตำรวจจับกุมบริเวณหน้าบ้านพัก ข้อเท็จจริงน่าเชื่อว่า เจ้าพนักงานตำรวจแสดงตัวเพื่อเข้าจับกุมผู้ร้องในขณะที่ผู้ร้องยืนอยู่ด้านนอกของตัวบ้าน แม้ผู้ร้องจะเดินเข้าไปในตัวบ้านก็ต้องถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่ต่อเนื่องกับเหตุการณ์ตอนแรกที่เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมบริเวณหน้าบ้าน ซึ่งมิใช่ที่รโหฐานหรือที่ส่วนตัว ประกอบกับโดยสภาพหน้าบ้านของผู้ร้องเป็นร้านค้าจึงถือว่าเป็นสถานที่สาธารณะประชาชนทั่วไปมีความชอบธรรมจะเข้าไปได้ กรณีจึงไม่จำต้องมีหมายค้น

สำหรับที่ผู้ร้องนำสืบต่อไปว่า การนำตัวผู้ร้องไปคุมขังไว้ที่ บก.ตชด.ภาค 1 เป็นการคุมขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งการสอบสวนก็กระทำโดยไม่มีพนักงานสอบสวน สน.ประเวศ ท้องที่จับกุม จึงเป็นการสอบสวนโดยไม่ชอบ เห็นว่า ป.วิอาญามาตรา 83 วรรคหนึ่ง บัญญัติเกี่ยวกับวิธีการจับ ว่า ให้เจ้าพนักงานผู้จับสั่งให้ผู้จับไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับ เว้นแต่สามารถนำไปที่ทำการของพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบได้ในขณะนั้น ประกอบกับได้ความจากพนักงานสอบสวนในชั้นฝากขังว่า คดีนี้ บช.น.มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบไว้แล้ว เมื่อเจ้าพนักงานจับกุมผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ 7 ตามหมายจับ เจ้าพนักงานผู้จับย่อมนำตัวผู้ถูกจับไปยัง บก.ตชด.ภาค 1 ได้ โดยไม่จำเป็นต้องนำตัวไป สน.ประเวศ อันเป็นท้องที่ที่จับกุมผู้ต้องหา ข้อนำสืบของผู้ร้องจึงไม่มีน้ำหนักให้รับฟัง

เมื่อไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายกำหนดสถานที่คุมขังผู้ถูกจับไว้โดยเฉพาะ ประกอบกับได้ความจากผู้ร้องตอบคำถามค้านพนักงานสอบสวนว่า สน.นางเลิ้ง ซึ่งเป็นสถานที่ที่ผู้ร้องขอให้นำตัวไปควบคุมนั้นอยู่ใกล้กับบริเวณกลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุม จึงอาจเกิดการปิดล้อม สน.นางเลิ้งได้ผู้บังคับบัญชาจึงเปลี่ยนให้ควบคุมที่ บก.ตชด.ภาค 1 จ.ปทุมธานี ห่างไกลจากบริเวณชุมนุมโดยคำนึงถึงเหตุผลด้านความปลอดภัย และได้จัดชุดพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเดินทางไปสอบปากคำผู้ร้องทันที กรณีจึงไม่จำต้องมี พนักงานสอบสวน สน.ประเวศร่วมทำการสอบสวนแต่อย่างใด ฉะนั้น การคุมขังและการสอบสวนจึงไม่ปรากฏขั้นตอนใดที่ปฏิบัติโดยมิชอบด้วยกฎหมาย

ส่วนที่ผู้ร้องนำสืบการตั้งข้อหากบฏ หรือข้อหาอื่นตามหมายจับไม่ชอบ เห็นว่า กรณีดังกล่าวอยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ซึ่งศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง หรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นดังที่กล่าวมาในข้างต้น ในชั้นนี้จึงไม่จำต้องวินิจฉัยส่วนที่ผู้ร้องนำสืบในประเด็นอื่นเช่น การที่ผู้ร้องเข้าร่วมชุมนุมกับพันธมิตรฯ เป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 63,69, 70 ชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ มีความมุ่งหมายรักษาระบอบประชาธิปไตยและคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 237 และ 309 เพื่อเอื้อประโยชน์ให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และเอื้อประโยชน์ให้คดียุบพรรคไทยรักไทย ชาติไทยและมัชฌิมาธิปไตย ถือเป็นข้ออ้างในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ร้องในชั้นสืบพยานของศาล

แต่ชั้นนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวน และต้องรอผลสรุปเสนอความเห็นให้อัยการพิจารณาสั่งฟ้อง หรือสั่งไม่ฟ้องผู้ร้องกับพวกในความผิดฐานใดหรือไม่ หากเห็นว่าเรื่องใดจะเป็นประโยชน์แก่รูปคดีของตนผู้ร้องย่อมมีสิทธินำเสนอข้อเท็จจริงดังกล่าวเสนอต่อพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองได้ แต่ขั้นตอนดังกล่าวยังมิได้อยู่ในการพิจารณาของศาล ชั้นนี้จึงไม่จำต้องวินิจฉัย คำร้องของผู้ร้องไม่มีมูลที่ศาลจะดำเนินการตาม ป.วิอาญามาตรา 90 ให้ยกคำร้อง

ภายหลังศาลอาญายกคำร้อง นายไชยวัฒน์ ซึ่งถูกสวมกุญแจมือ อยู่ในชุดผู้ต้องขังถูกนำตัวสีน้ำตาล สวมรองเท้าแตะ ไปควบคุมไว้บริเวณใต้ถุนศาล เพื่อเตรียมนำตัวกลับไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯประมาณ 100 คน เดินทางมาให้กำลังใจ





กำลังโหลดความคิดเห็น