สทน. ถอดใจคนไทยหยุดเที่ยวกู่ไม่กลับ ระบุบรรยากาศการเมือง และเศรษฐกิจ เป็นต้นเหตุใหญ่ ล่าสุดห้างร้านเริ่มยกเลิกจัดเลี้ยงพวกดีลเลอร์ ถึงสิ้นปีคาดตัวเลขพลาดเป้า 20% จากที่ตั้งไว้ 83 ล้านคนครั้ง เงินสะพัด 4.2 แสนล้านบาท แถมมีสิทธิ์ซบยาวถึงเมษายนปีหน้า แต่ยังฮึดสู้ เข็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ นำเสนอขาย วอน ททท. และรัฐบาล อย่าหยุดโปรโมตท่องเที่ยว ด้านประธานบอร์ด ททท. เผย เร่ง 35 สำนักงานในประเทศ จัดกิจกรรมตลอดปี บูมท่องเที่ยวระดับภูมิภาค
นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์นักท่องเที่ยวคนไทยหดตัวมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้มีผลด้านจิตวิทยา ทำให้หมดอารมณ์ที่จะคิดเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งสถานการณ์ชะลอตัวเช่นนี้เริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น
ล่าสุดกลุ่มบริษัทห้างร้าน เริ่มงดจัดเลี้ยงตัวแทนจำหน่าย(ดีลเลอร์)แล้ว ทั้งที่จะต้องมีการจัดทุกช่วงปลายปี เพื่อเลี้ยงขอบคุณและเป็นรางวัล เนื่องจากทุกบริษัทห้างร้านเริ่มวิตกกังวลกับบรรยากาศทางการเมือง โดยเกรงว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นอีก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ยอดการสั่งซื้อลดลง และกำลังซื้อก็ลดลงด้วย ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าถึงสิ้นปี อาจลดลงกว่าที่การท่องเที่ยวเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ตั้งไว้ราว 20% เฉพาะไตรมาสสุดท้ายมีสิทธิ์หดตัวได้ถึง 40% คือจากตัวเลขเป้าหมายคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ 83 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้หมุนเวียนในประเทศ กว่า 4.2 แสนล้านบาท
“ทุกบริษัทต้องเซฟตัวเอง เพราะบรรยากาศในประเทศไม่ดีอาจกลับไปสู่ยุคปี 2540 ที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ขณะที่คนไทยเองก็เริ่มเหนื่อยกับบรรยากาศทางการเมืองและเศรษฐกิจ กระแสข่าวเรื่องการตกงาน การลดจำนวนพนักงาน ทำให้ผู้คนเกิดความห่อเหี่ยวใจและกังวล จึงเริ่มใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ความซบเซาเช่นนี้อาจยาวถึงเมษายนปีหน้า ซึ่งแม้ว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลงก็ช่วยได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ที่สำคัญสุด คือการเมืองภายในประเทศต้องนิ่ง”
แม้สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ แต่ สทน.ก็ต้องเดินหน้าสร้างสินค้าเพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว เช่น การปรับปรุงสินค้า ในโครงการ 48 เส้นทางส่งเสริมท่องเที่ยวไทย โดยจะอัพเดททุก 3 เดือน ส่วน ททท. ก็ต้องจัดกิจกรรมกระตุ้นต่อเนื่อง เพื่อให้มีข่าวสารด้านท่องเที่ยวออกมาอย่างสม่ำเสมอ ให้ประชาชนได้เลือกเดินทาง ในระดับมหภาค รัฐบาลควรหาวิธีช่วยเหลือผู้ประกอบการในกลุ่มเอสเอ็มอี
****ททท.อัดกิจกรรมลุ้นสุดตัว****
ทางด้านนายวันชัย ศารทูลทัต ประธานคณะกรรมการบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ 35 สำนักงานททท.ในประเทศ เร่งจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ในแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างบรรยากาศทางการท่องเที่ยว โดยหวังให้เกิดการท่องเที่ยวภายในภูมิภาค และจังหวัดใกล้เคียง
เพราะจากการสำรวจตลาดของ ททท. พบว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนเป็นเดินทางระยะใกล้ ในระยะทางไม่เกิน 200 กิโลเมตร จากที่พักอาศัย เช่น เส้นทางไหว้พระ 9 วัด หรือการดึงกิจกรรมเทศกาลงานประเพณีในช่วงต่างๆ ชูให้เป็นงานใหญ่ระดับจังหวัด หรือ ระดับภูมิภาค ด้วยการหาพันธมิตรร่วมจัดงาน และ เพิ่มการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เชื่อว่าจะกระตุ้นคนไทยให้เดินทางท่องเที่ยวได้ระดับหนึ่ง ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญใหญ่ประจำปีงบประมาณ 2552 “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” โดยจะมีกิจกรรมย่อยทยอยออกมาเฉลี่ยทุกเดือน กระตุ้นนักท่องเที่ยวตลาดคนไทยในปีหน้า และอย่างน้อยก็ช่วยให้ตัวเลขปีนี้ไม่ลดต่ำไปกว่าปี 2550
นางสาวมัยรัตน์ พีระญาณ์โกเศส นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์นักท่องเที่ยวคนไทยหดตัวมาก เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้มีผลด้านจิตวิทยา ทำให้หมดอารมณ์ที่จะคิดเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งสถานการณ์ชะลอตัวเช่นนี้เริ่มมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้น
ล่าสุดกลุ่มบริษัทห้างร้าน เริ่มงดจัดเลี้ยงตัวแทนจำหน่าย(ดีลเลอร์)แล้ว ทั้งที่จะต้องมีการจัดทุกช่วงปลายปี เพื่อเลี้ยงขอบคุณและเป็นรางวัล เนื่องจากทุกบริษัทห้างร้านเริ่มวิตกกังวลกับบรรยากาศทางการเมือง โดยเกรงว่าจะมีความรุนแรงเกิดขึ้นอีก ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ยอดการสั่งซื้อลดลง และกำลังซื้อก็ลดลงด้วย ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่าถึงสิ้นปี อาจลดลงกว่าที่การท่องเที่ยวเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ตั้งไว้ราว 20% เฉพาะไตรมาสสุดท้ายมีสิทธิ์หดตัวได้ถึง 40% คือจากตัวเลขเป้าหมายคนไทยเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ 83 ล้านคนครั้ง เกิดรายได้หมุนเวียนในประเทศ กว่า 4.2 แสนล้านบาท
“ทุกบริษัทต้องเซฟตัวเอง เพราะบรรยากาศในประเทศไม่ดีอาจกลับไปสู่ยุคปี 2540 ที่เกิดวิกฤตต้มยำกุ้ง ขณะที่คนไทยเองก็เริ่มเหนื่อยกับบรรยากาศทางการเมืองและเศรษฐกิจ กระแสข่าวเรื่องการตกงาน การลดจำนวนพนักงาน ทำให้ผู้คนเกิดความห่อเหี่ยวใจและกังวล จึงเริ่มใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง ความซบเซาเช่นนี้อาจยาวถึงเมษายนปีหน้า ซึ่งแม้ว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงจะลดลงก็ช่วยได้เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ที่สำคัญสุด คือการเมืองภายในประเทศต้องนิ่ง”
แม้สถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ แต่ สทน.ก็ต้องเดินหน้าสร้างสินค้าเพื่อกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยว เช่น การปรับปรุงสินค้า ในโครงการ 48 เส้นทางส่งเสริมท่องเที่ยวไทย โดยจะอัพเดททุก 3 เดือน ส่วน ททท. ก็ต้องจัดกิจกรรมกระตุ้นต่อเนื่อง เพื่อให้มีข่าวสารด้านท่องเที่ยวออกมาอย่างสม่ำเสมอ ให้ประชาชนได้เลือกเดินทาง ในระดับมหภาค รัฐบาลควรหาวิธีช่วยเหลือผู้ประกอบการในกลุ่มเอสเอ็มอี
****ททท.อัดกิจกรรมลุ้นสุดตัว****
ทางด้านนายวันชัย ศารทูลทัต ประธานคณะกรรมการบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ด) กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ 35 สำนักงานททท.ในประเทศ เร่งจัดทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ในแต่ละจังหวัด เพื่อสร้างบรรยากาศทางการท่องเที่ยว โดยหวังให้เกิดการท่องเที่ยวภายในภูมิภาค และจังหวัดใกล้เคียง
เพราะจากการสำรวจตลาดของ ททท. พบว่า พฤติกรรมนักท่องเที่ยวได้เปลี่ยนเป็นเดินทางระยะใกล้ ในระยะทางไม่เกิน 200 กิโลเมตร จากที่พักอาศัย เช่น เส้นทางไหว้พระ 9 วัด หรือการดึงกิจกรรมเทศกาลงานประเพณีในช่วงต่างๆ ชูให้เป็นงานใหญ่ระดับจังหวัด หรือ ระดับภูมิภาค ด้วยการหาพันธมิตรร่วมจัดงาน และ เพิ่มการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เชื่อว่าจะกระตุ้นคนไทยให้เดินทางท่องเที่ยวได้ระดับหนึ่ง ล่าสุดเปิดตัวแคมเปญใหญ่ประจำปีงบประมาณ 2552 “เที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก” โดยจะมีกิจกรรมย่อยทยอยออกมาเฉลี่ยทุกเดือน กระตุ้นนักท่องเที่ยวตลาดคนไทยในปีหน้า และอย่างน้อยก็ช่วยให้ตัวเลขปีนี้ไม่ลดต่ำไปกว่าปี 2550
