แบงก์ออมสินสนองนโยบายรัฐบาล ร่วมมือกรุงไทยปล่อยกู้ ธ.ก.ส.จำนำข้าวแห่งละกว่า 2 หมื่นล้าน จากวงเงินรวมแสนล้าน ชี้ความเสี่ยงต่ำเหตุรัฐบาลค้ำประกันแถมได้ผลตอบแทนดีกว่าปล่อยกู้ในตลาดอาร์พี เผย 2 แบงก์พาณิชย์ได้แก่ทหารไทยกับนครหลวงไทย
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนายการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าจากการหารือกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทยในเบื้องต้นถึงการเข้าร่วมปล่อยกู้ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิต 51/52 ธนาคารออมสินพร้อมปล่อยกู้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวงเงินเท่ากับกรุงไทย และมีอีก 2 ธนาคารที่พร้อมจะเข้าร่วมด้วยและน่าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยในระดับที่น่าพอใจซึ่งจะเท่ากันทุกธนาคาร คาดว่าจะสูงกว่าดอกเบี้ยที่ได้รับจากการปล่อยกู้ในตลาดอาร์พีที่ระดับ 3.75%
"การปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.ในโครงการรับจำนำข้าวมีความเสี่ยงต่ำมาก เพราะกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้ และยังได้รับผลตอบแทนสูงกว่าปล่อยกู้ระหว่างธนาคารในตลาดอาร์พีด้วยซ้ำ ซึ่งออมสินกับกรุงไทยจะให้วงเงินเท่ากันและน่าจะมากกว่า 2 หมื่นล้านบาทโดยออมสินพร้อมให้ได้ถึง 4-6 หมื่นล้านบาท ตามสภาพคล่องส่วนเกินที่ยังมีเพียงพอ" นายเลอศักดิ์กล่าวและว่า ธนาคารอีก 2 แห่ง ปล่อยกู้ได้ไม่มากนักเแต่เพื่อให้วงเงินเต็ม 1 แสนล้านบาท ซึ่งออมสินจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของบอร์ดต่อไป ส่วนการชำระคืนอาจนานกว่า 1 ปีขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบประมาณมาชำระคืนหรือการขายข้าวของรัฐบาลด้วย
รายงานข่าวระบุว่าธนาคารพาณิชย์ 2 แห่ง ที่เข้าร่วมปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.ด้วยคือธนาคารทหารไทยและนครหลวงไทย
นายเลอศักดิ์กล่าวว่า ถือเป็นหน้าที่ของออมสินซึ่งเป็นสถาบันการเงินของรัฐในการสนองนโยบายและในภาวะที่มีความจำเป็นสภาพคล่องใช้ในโครงการที่กิดประโยชน์กับระบบเศรษฐกิจ ขณะนี้ออมสินก็มีเงินฝากมีสภาพคล่องส่วนเกินที่พร้อมจะดำเนินการได้ทันที และจากเงินฝากที่ยังเข้ามาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันกว่า 2 หมื่นล้านบาทและไม่มีการถอนเงินฝากออกไปแม้ว่ารัฐบาลจะขยายเวลาคุ้มครองเงินฝากออกไปอีก 3 ปีก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การปล่อยกู้ในโครงการรับจำพืชผลทางการเกษตรนี้ จะไม่กระทบกับการปล่อยสินเชื่อปกติของธนาคารในปีนี้และปีหน้า ส่วนโครงการอื่น เช่น เมกะโปรเจกต์ต่างๆ นั้นรัฐบาลยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งคงต้องพิจารณาความเหมาะสมก่อน
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนายการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่าจากการหารือกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทยในเบื้องต้นถึงการเข้าร่วมปล่อยกู้ในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ฤดูกาลผลิต 51/52 ธนาคารออมสินพร้อมปล่อยกู้ให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในวงเงินเท่ากับกรุงไทย และมีอีก 2 ธนาคารที่พร้อมจะเข้าร่วมด้วยและน่าจะได้รับอัตราดอกเบี้ยในระดับที่น่าพอใจซึ่งจะเท่ากันทุกธนาคาร คาดว่าจะสูงกว่าดอกเบี้ยที่ได้รับจากการปล่อยกู้ในตลาดอาร์พีที่ระดับ 3.75%
"การปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.ในโครงการรับจำนำข้าวมีความเสี่ยงต่ำมาก เพราะกระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ให้ และยังได้รับผลตอบแทนสูงกว่าปล่อยกู้ระหว่างธนาคารในตลาดอาร์พีด้วยซ้ำ ซึ่งออมสินกับกรุงไทยจะให้วงเงินเท่ากันและน่าจะมากกว่า 2 หมื่นล้านบาทโดยออมสินพร้อมให้ได้ถึง 4-6 หมื่นล้านบาท ตามสภาพคล่องส่วนเกินที่ยังมีเพียงพอ" นายเลอศักดิ์กล่าวและว่า ธนาคารอีก 2 แห่ง ปล่อยกู้ได้ไม่มากนักเแต่เพื่อให้วงเงินเต็ม 1 แสนล้านบาท ซึ่งออมสินจะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาอนุมัติของบอร์ดต่อไป ส่วนการชำระคืนอาจนานกว่า 1 ปีขึ้นอยู่กับการจัดสรรงบประมาณมาชำระคืนหรือการขายข้าวของรัฐบาลด้วย
รายงานข่าวระบุว่าธนาคารพาณิชย์ 2 แห่ง ที่เข้าร่วมปล่อยกู้ให้ ธ.ก.ส.ด้วยคือธนาคารทหารไทยและนครหลวงไทย
นายเลอศักดิ์กล่าวว่า ถือเป็นหน้าที่ของออมสินซึ่งเป็นสถาบันการเงินของรัฐในการสนองนโยบายและในภาวะที่มีความจำเป็นสภาพคล่องใช้ในโครงการที่กิดประโยชน์กับระบบเศรษฐกิจ ขณะนี้ออมสินก็มีเงินฝากมีสภาพคล่องส่วนเกินที่พร้อมจะดำเนินการได้ทันที และจากเงินฝากที่ยังเข้ามาต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันกว่า 2 หมื่นล้านบาทและไม่มีการถอนเงินฝากออกไปแม้ว่ารัฐบาลจะขยายเวลาคุ้มครองเงินฝากออกไปอีก 3 ปีก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การปล่อยกู้ในโครงการรับจำพืชผลทางการเกษตรนี้ จะไม่กระทบกับการปล่อยสินเชื่อปกติของธนาคารในปีนี้และปีหน้า ส่วนโครงการอื่น เช่น เมกะโปรเจกต์ต่างๆ นั้นรัฐบาลยังไม่ได้ติดต่อเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งคงต้องพิจารณาความเหมาะสมก่อน