ออมสินสนองนโยบายรัฐเสริมสภาพคล่องระดับรากหญ้าผ่อนปรนเกณฑ์ปล่อยสินเชื่อ เว้นหลักทรัพย์ค้ำประกันสินเชื่อพัฒนาชีวิตข้าราชการ ยืดหยุ่นปล่อยกองทุนหมู่บ้านหวังเพิ่มยอดสินเชื่ออีก 1 หมื่นล้านบาท พร้อมออกโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้าน 2.5% ปีแรกฟรีค่าธรรมเนียมทำสัญญา
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเสริมสภาพคล่องให้ประชาชนโดยเฉพาะในระดับรากหญ้า ธนาคารออมสินจึงได้หารือร่วมกับผู้บริหารเพื่อพิจารณาผ่อนคลายเกณฑ์ในโครงการปล่อยสินเชื่อต่างๆ ดังนี้ โครงการขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคล เช่น สินเชื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการ จะผ่อนปรนการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยให้กับบางรายซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายๆ ผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยกู้โครงการกองทุนหมู่บ้าน เช่น ปกติผู้ขอกู้จะต้องเป็นนิติบุคคลและมีกำไรต่อเนื่อง 3 ปี ก็ไม่ต้องเป็นนิติบุคคลและไม่จำเป็นต้องกำไรต่อเนื่อง 3 ปี แต่ยังคงดอกเบี้ย 5% เท่าเดิม
ทั้งนี้ ธนาคารคาดหวังว่าจากเดิมที่ปล่อยกู้ให้กองทุนหมู่บ้านไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท เมื่อปรับเกณฑ์ใหม่จะมีกองทุนเข้ามาขอกู้เพิ่มอีก 1 หมื่นกองทุน ก็จะเพิ่มยอดสินเชื่อให้แก่ธนาคารเพิ่มขึ้นได้ 1 หมื่นล้านบาท ได้ประโยชน์ทั้งธนาคารและกองทุนหมู่บ้านเอง แต่ทั้งนี้การจะผ่อนปรนเงื่อนไขนี้นอกจากธนาคารแล้วต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการระดับอำเภอด้วยว่าจะพิจารณาให้เงินหรือไม่
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้พิจารณาโครงการปล่อยกู้ใหม่เพื่อนำไปใช้หนี้เก่า (รีไฟแนนซ์) สำหรับสินเชื่อเคหะ ซึ่งลูกค้าสามารถนำเงินจากออมสินไปรีไฟแนนซ์ได้ทุกธนาคาร วงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อราย โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการทำสัญญา ซึ่งปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ย 2.5% ปีที่ 2 คิดอัตราดอกเบี้ย 5% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่มีระยะเวลา(MLR)ลบ 0.5% ซึ่งปัจจุบันMLRอยู่ที่7.25%
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของธนาคาร มีกำไรทั้งสิ้น 8 พันล้านบาท สามารถระดมเงินฝากได้เกินเป้า 2 หมื่นล้านบาท และปล่อยสินเชื่อได้ 4 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 3 หมื่นล้านบาท และคาดทั้งปีธนาคารจะสามารถระดมเงินฝากได้เกินเป้า 2.5 หมื่นล้านบาท
ส่วนในปี 52 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ได้ปรับเป้าเพิ่มจากการที่มีกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ที่คาดจะทำให้ประชาชนถอนเงินจากธนาคารพาณิชย์มาฝากที่ออมสินเพิ่มขึ้น ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลตั้งเป้าลดเหลือต่ำกว่า 3% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.76%.
นายเลอศักดิ์ จุลเทศ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเสริมสภาพคล่องให้ประชาชนโดยเฉพาะในระดับรากหญ้า ธนาคารออมสินจึงได้หารือร่วมกับผู้บริหารเพื่อพิจารณาผ่อนคลายเกณฑ์ในโครงการปล่อยสินเชื่อต่างๆ ดังนี้ โครงการขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคล เช่น สินเชื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตข้าราชการ จะผ่อนปรนการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน อัตราดอกเบี้ยให้กับบางรายซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายๆ ผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยกู้โครงการกองทุนหมู่บ้าน เช่น ปกติผู้ขอกู้จะต้องเป็นนิติบุคคลและมีกำไรต่อเนื่อง 3 ปี ก็ไม่ต้องเป็นนิติบุคคลและไม่จำเป็นต้องกำไรต่อเนื่อง 3 ปี แต่ยังคงดอกเบี้ย 5% เท่าเดิม
ทั้งนี้ ธนาคารคาดหวังว่าจากเดิมที่ปล่อยกู้ให้กองทุนหมู่บ้านไปแล้ว 1 หมื่นล้านบาท เมื่อปรับเกณฑ์ใหม่จะมีกองทุนเข้ามาขอกู้เพิ่มอีก 1 หมื่นกองทุน ก็จะเพิ่มยอดสินเชื่อให้แก่ธนาคารเพิ่มขึ้นได้ 1 หมื่นล้านบาท ได้ประโยชน์ทั้งธนาคารและกองทุนหมู่บ้านเอง แต่ทั้งนี้การจะผ่อนปรนเงื่อนไขนี้นอกจากธนาคารแล้วต้องขึ้นอยู่กับคณะกรรมการระดับอำเภอด้วยว่าจะพิจารณาให้เงินหรือไม่
นอกจากนี้ ธนาคารยังได้พิจารณาโครงการปล่อยกู้ใหม่เพื่อนำไปใช้หนี้เก่า (รีไฟแนนซ์) สำหรับสินเชื่อเคหะ ซึ่งลูกค้าสามารถนำเงินจากออมสินไปรีไฟแนนซ์ได้ทุกธนาคาร วงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาทต่อราย โดยไม่คิดค่าธรรมเนียมการทำสัญญา ซึ่งปีแรกคิดอัตราดอกเบี้ย 2.5% ปีที่ 2 คิดอัตราดอกเบี้ย 5% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่มีระยะเวลา(MLR)ลบ 0.5% ซึ่งปัจจุบันMLRอยู่ที่7.25%
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของธนาคาร มีกำไรทั้งสิ้น 8 พันล้านบาท สามารถระดมเงินฝากได้เกินเป้า 2 หมื่นล้านบาท และปล่อยสินเชื่อได้ 4 หมื่นล้านบาท สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ทั้งปีที่ 3 หมื่นล้านบาท และคาดทั้งปีธนาคารจะสามารถระดมเงินฝากได้เกินเป้า 2.5 หมื่นล้านบาท
ส่วนในปี 52 ธนาคารตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านบาท ได้ปรับเป้าเพิ่มจากการที่มีกฎหมายคุ้มครองเงินฝาก ที่คาดจะทำให้ประชาชนถอนเงินจากธนาคารพาณิชย์มาฝากที่ออมสินเพิ่มขึ้น ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลตั้งเป้าลดเหลือต่ำกว่า 3% จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.76%.