นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยปีหน้าขยายตัวต่ำกว่าปีนี้แน่นอน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ โดยสถานการณ์การเมืองในประเทศ การชุมนุมที่รุนแรงขึ้นจนเกิดความสูญเสียกระทบกับการท่องเที่ยวให้ชะลอตัวลง ขณะที่ปัจจัยภายนอกประเทศ ปัญหาวิกฤตสถาบันการเงินโลกมีผลกระทบรุนแรงกว่าที่คิด ซึ่งจะต้องมีการเยียวยา โดยขณะนี้นานาประเทศกำลังออกมาตรการและเร่งอัดฉีดเม็ดเงิน แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวและมีผลกระทบทางอ้อมมาถึงเศรษฐกิจไทย ทำให้การส่งออกขยายตัวลดลง
ส่วนการที่รัฐบาลออก 6 มาตรการกู้วิกฤตสถาบันการเงินโลกนั้นถือเป็นนโยบายที่ดี ซึ่งก็ให้กำลังใจรัฐบาลในการดำเนินการ แต่สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติจะต้องรวดเร็วและให้ได้ผล เพราะหากช้านโยบายดีก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากนี้ ยังเห็นว่าหากผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลกรุนแรงขึ้น และมีความเสียหายอีกก็อาจจำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่ม
สำหรับข้อเสนอลดอัตราดอกเบี้ยในประเทศตามตลาดต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจนั้น นายโฆสิต กล่าวว่า แต่ละประเทศมีสภาพเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน ดอกเบี้ยถือเป็นเครื่องมือทางการเงินชนิดหนึ่ง แต่ให้ผลทางปฏิบัติช้า และประเทศไทยก็ยังมีเวลาเพียงพอไตร่ตรอง แม้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่กว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลานาน ซึ่งขณะนี้สถาบันการเงินพร้อมดูแลสภาพคล่อง การแข่งขันระดมเงินฝากแต่ละธนาคารยังรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสะท้อนจากดอกเบี้ยเงินฝากที่ยังปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ภาครัฐทำได้รวดเร็วและควรเร่งดำเนินการ คือ การลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์และโครงสร้างพื้นฐานที่ล่าช้ามานาน เพื่อทดแทนผลกระทบจากการส่งออกที่จะขยายตัวลดลง
ส่วนการที่รัฐบาลออก 6 มาตรการกู้วิกฤตสถาบันการเงินโลกนั้นถือเป็นนโยบายที่ดี ซึ่งก็ให้กำลังใจรัฐบาลในการดำเนินการ แต่สิ่งสำคัญคือการปฏิบัติจะต้องรวดเร็วและให้ได้ผล เพราะหากช้านโยบายดีก็ไม่มีประโยชน์ นอกจากนี้ ยังเห็นว่าหากผลกระทบจากวิกฤติการเงินโลกรุนแรงขึ้น และมีความเสียหายอีกก็อาจจำเป็นต้องออกมาตรการเพิ่ม
สำหรับข้อเสนอลดอัตราดอกเบี้ยในประเทศตามตลาดต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจนั้น นายโฆสิต กล่าวว่า แต่ละประเทศมีสภาพเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน ดอกเบี้ยถือเป็นเครื่องมือทางการเงินชนิดหนึ่ง แต่ให้ผลทางปฏิบัติช้า และประเทศไทยก็ยังมีเวลาเพียงพอไตร่ตรอง แม้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่กว่าจะเห็นผลต้องใช้เวลานาน ซึ่งขณะนี้สถาบันการเงินพร้อมดูแลสภาพคล่อง การแข่งขันระดมเงินฝากแต่ละธนาคารยังรุนแรงมากขึ้น ซึ่งสะท้อนจากดอกเบี้ยเงินฝากที่ยังปรับขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ภาครัฐทำได้รวดเร็วและควรเร่งดำเนินการ คือ การลงทุนในโครงการเมกะโปรเจกต์และโครงสร้างพื้นฐานที่ล่าช้ามานาน เพื่อทดแทนผลกระทบจากการส่งออกที่จะขยายตัวลดลง
