นายสันติ วิลาสศักดานนท์ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า เหตุการณ์ความรุนแรงหน้ารัฐสภาและกองบัญชาการตำรวจนครบาล ภาคเอกชนไม่ต้องการเห็นความรุนแรงเกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะเกรงว่าเหตุการณ์จะลุกลามออกไปยืดเยื้อได้
นายสันติ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างประเทศติดตามอยู่แล้ว จึงย่อมมีผลต่อภาพลักษณ์ของไทย ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งหาทางยุติสถานการณ์โดยเร็ว ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง พร้อมทั้งดูแลผู้บาดเจ็บที่เป็นคนไทยด้วยกัน
ส่วนการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ประธาน ส.อ.ท.เชื่อว่าคงจะเบื่อหน่ายกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
สำหรับการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาวันนี้ (7 ต.ค.) นายสันติ กล่าวว่า ค่อนข้างครอบคลุมทั้งหมด ทั้งด้านการดูแลสภาพคล่องวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) การลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ พัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลครอบคลุมทั้งด้านการค้า เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม รวมทั้งการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องเร่งทำงานโดยเร็ว เพราะขณะนี้วิกฤตเศรษฐกิจโลกกำลังจ่อเข้ามากระทบไทยอยู่แล้ว เมื่อคลื่นวิกฤตเศรษฐกิจโลกเข้ามากระทบจะได้รับมือได้ไม่ลำบาก
นายสันติ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะกระทบต่อความเชื่อมั่น โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างประเทศติดตามอยู่แล้ว จึงย่อมมีผลต่อภาพลักษณ์ของไทย ดังนั้น รัฐบาลควรเร่งหาทางยุติสถานการณ์โดยเร็ว ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรง พร้อมทั้งดูแลผู้บาดเจ็บที่เป็นคนไทยด้วยกัน
ส่วนการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ประธาน ส.อ.ท.เชื่อว่าคงจะเบื่อหน่ายกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
สำหรับการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาวันนี้ (7 ต.ค.) นายสันติ กล่าวว่า ค่อนข้างครอบคลุมทั้งหมด ทั้งด้านการดูแลสภาพคล่องวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) การลงทุนโครงการเมกะโปรเจกต์ พัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ การสร้างสันติสุขในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนโยบายของรัฐบาลครอบคลุมทั้งด้านการค้า เศรษฐกิจ และอุตสาหกรรม รวมทั้งการท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องเร่งทำงานโดยเร็ว เพราะขณะนี้วิกฤตเศรษฐกิจโลกกำลังจ่อเข้ามากระทบไทยอยู่แล้ว เมื่อคลื่นวิกฤตเศรษฐกิจโลกเข้ามากระทบจะได้รับมือได้ไม่ลำบาก
