บลจ.นครหลวงไทย เชื่อ “กลุ่มสถาบันการเงินฟอร์ติส” ไม่ขายหน่วยลงทุน “สนามบินสมุย” ในช่วงปรับพอร์ตเทขายหุ้นไทย เพื่อรับมือวิกฤตการเงิน ด้านผู้จัดการกองทุนยืนยันผลตอบแทนดี ย้ำแม้โดนปล่อยขายก็ไม่กระทบ เพราะต่างชาติถือหน่วยไม่มาก
นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน ผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด กล่าวถึงการทยอยขายหุ้นของกลุ่ม ฟอร์ติส (FORTIS) เพื่อปรับพอร์ตการลงทุน ว่า ในส่วนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) นั้น ในขณะนี้ทางกลุ่มฟอร์ติสยังไม่มีการติดต่อเข้ามาเพื่อขอทำการขายหน่วยลงทุนคืน เนื่องจากผลตอบแทนที่ทางกลุ่มฟอร์ติสได้รับนั้นจากการลงทุนใน SPF ยังให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ ทำให้มั่นใจว่าทางกลุ่มยังไม่น่าที่จะขายหน่วยลงทุนในกลุ่มนี้ออกไปในช่วงที่มีการปรับพอร์ตการลงทุน
“ทาง บลจ.นครหลวงไทย ไม่ได้มีความกังวลในเรื่องนี้ เพราะสัดส่วนของการถือหน่วยลงทุนของชาวต่างชาตินั้นมีจำนวนที่ไม่มาก อีกทั้งเรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อทางกองทุนสนามบินสมุยแต่อย่างใด” นายวรนนท์ กล่าว
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีนโยบายการลงทุนในสนามบินเกาะสมุยของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มูลค่าโครงการ 10,500 ล้านบาท ในสัญญาเช่า 30 ปี และกองทุนจะให้บางกอกแอร์เวย์ส เช่ากลับไปเพื่อให้ใช้บริการลูกค้า(เป็นสัญญาเช่ารอง หรือ lease and leaseback) โดยมีการแบ่งปันผลประโยชน์ในรูปของค่าเช่าและการแบ่งปันผลกำไรในรูปของ Profit Sharing
ทั้งนี้ จะทำให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ SPF มีรายได้มาจากในส่วนของค่าเช่าสนามบินที่บางกอกแอร์เวย์ส จะต้องจ่ายขั้นต่ำให้แก่กองทุนเฉลี่ย 6% ของจำนวนเงินทุนในโครงการ หรือเทียบเท่ากับค่าเช่า และค่าบริการที่กองทุนดังกล่าวจะได้รับในระยะเวลา 12 เดือน ขณะเดียวกัน กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลถึง 4 ครั้งต่อปี โดยไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิ
ขณะที่ผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย 11 อันดับได้แก่ อันดับ 1.บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ซึ่งถือจำนวน 294,607,624 หน่วย หรือคิดเป็น 31.01% อันดับ 2.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ถือ 76,497,176 หน่วย คิดเป็น 8.05% อันดับที่ 3.SOMERS (U.K.) LIMITED จำนวน 73,786,400 หน่วย คิดเป็น 7.77% อันดับ 4.AYUDHYA ALLIANZ C.P.LIFE PUBLIC COMPANY จำนวน 67,800,000 หน่วย หรือคิดเป็น 7.14%
ส่วนอันดับที่ 5.ได้แก่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ถือจำนวน 30,000,000 หน่วย คิดเป็น 3.16% อันดับ 6.HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD จำนวน 27,798,300 หน่วย คิดเป็น 2.93% อันดับ 7. THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED ถืออยู่จำนวน 24,232,550 หน่วย คิดเป็น 2.55%
อันดับที่ 8.คือ DBS VICKERS SECURITIES (SINGAPORE) PTE LTD จำนวน 23,020,000 หน่วย คิดเป็น 2.42% อับดับที่ 9.NORTRUST NOMINEES LTD. จำนวน 17,060,000 หน่วย คิดเป็น 1.80% อันดับที่ 10.คือ GOVERNMENT OF SINGAPORE INVESTMENT CORPORATION C ถือจำนวน 15,537,801 หน่วย คิดเป็น 1.64 และอันดับสุดท้าย 11.FORTIS GLOBAL CUSTODY SERVICES N.V.ถือจำนวน 12,000,000 หน่วย หรือคิดเป็น 1.26%
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ บรรดาห้องค้าหลักทรัพย์ต่างมีข่าวลือ ว่า กลุ่มฟอร์ติส ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ ที่อยู่ระหว่างการปรับพอร์ตการลงทุนในประเทศไทย จะทำการเริ่มทยอยขายหุ้นที่มีอยู่ออกไป ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจาก กลุ่มฟอร์ติส ประสบปัญหาทางการเงินจนกระทั่งรัฐบาลประเทศเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และ ลักเซมเบิร์ก จำเป็นต้องอัดฉีดเงินจำนวน 1.12 หมื่นล้านยูโร เพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งกลุ่มฟอร์ติส ได้ลงทุนในอยู่ในหลักทรัพย์หลายตัวของตลาดหุ้นไทย รวมทั้งถือหุ้นของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) จำนวน 12 ล้านหน่วยหรือคิดเป็น 1.26% ผ่านทาง FORTIS GLOBAL CUSTODY SERVICES N.V.
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ นางสาวดาวดี ธีรอภิศักดิ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นักลงทุนที่ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) อยู่แล้วแนะนำให้ถือยาวเพื่อรอรับปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2551 ซึ่งเชื่อจะอยู่ในอัตราไม่ต่ำกว่าเงินปันผลตอบแทนในงวดครึ่งปีแรก 2551 ที่ประมาณ 0.46 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยแบ่งเป็นไตรมาส 1/2551 อยู่ที่ประมาณ 0.25 บาทต่อหน่วยลงทุนและไตรมาส 2/2551อยู่ที่ประมาณ 0.21 บาทต่อหน่วยลงทุนเนื่องจากกองทุนจะมีสัญญารับประกันรายได้กับ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้เช่าช่วงต่อทรัพย์สิน
ส่วนนักลงทุนจะเข้าลงทุนใหม่ในช่วงนี้แนะนำว่า ควรจะชะลอลงทุนออกไปก่อน เนื่องจากมีความกังวลรายได้ปลายปี ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และสภาพคล่องการเงินตึงตัว โดยจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับตัวลดลงได้
“ช่วงนี้สถานการณ์ยังไม่ค่อยดี อาจจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของต่างชาติลดลง แม้ว่ากองทุนจะมีการการันตีรายได้อยู่แล้ว แต่ยังน่าเป็นห่วงอยู่” นางสาวดาวดี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯได้ประมาณการรายได้ทั้งปีของ SPF อยู่ที่ 791 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากรายได้ทั้งหมดของปีก่อนเนื่องจากแนวโน้มระยะยาวเชื่อว่าสนามบินสมุยจะมีศักยภาพเติบโตของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารสูง โดยเฉพาะภายหลังเปิดให้สายการบินไทยลงจอดได้ ซึ่งเฉลี่ยเที่ยวบินสัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน ทั้งนี้ คาดว่า ทั้งปีนี้ SPF จะมีจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และปริมาณเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้น 9%
นายวรนนท์ อัศวกิตติเมธิน ผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นครหลวงไทย จำกัด กล่าวถึงการทยอยขายหุ้นของกลุ่ม ฟอร์ติส (FORTIS) เพื่อปรับพอร์ตการลงทุน ว่า ในส่วนของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) นั้น ในขณะนี้ทางกลุ่มฟอร์ติสยังไม่มีการติดต่อเข้ามาเพื่อขอทำการขายหน่วยลงทุนคืน เนื่องจากผลตอบแทนที่ทางกลุ่มฟอร์ติสได้รับนั้นจากการลงทุนใน SPF ยังให้ผลตอบแทนที่ดีอยู่ ทำให้มั่นใจว่าทางกลุ่มยังไม่น่าที่จะขายหน่วยลงทุนในกลุ่มนี้ออกไปในช่วงที่มีการปรับพอร์ตการลงทุน
“ทาง บลจ.นครหลวงไทย ไม่ได้มีความกังวลในเรื่องนี้ เพราะสัดส่วนของการถือหน่วยลงทุนของชาวต่างชาตินั้นมีจำนวนที่ไม่มาก อีกทั้งเรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อทางกองทุนสนามบินสมุยแต่อย่างใด” นายวรนนท์ กล่าว
สำหรับกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย เป็นกองทุนอสังหาริมทรัพย์ที่มีนโยบายการลงทุนในสนามบินเกาะสมุยของบริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส มูลค่าโครงการ 10,500 ล้านบาท ในสัญญาเช่า 30 ปี และกองทุนจะให้บางกอกแอร์เวย์ส เช่ากลับไปเพื่อให้ใช้บริการลูกค้า(เป็นสัญญาเช่ารอง หรือ lease and leaseback) โดยมีการแบ่งปันผลประโยชน์ในรูปของค่าเช่าและการแบ่งปันผลกำไรในรูปของ Profit Sharing
ทั้งนี้ จะทำให้กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ SPF มีรายได้มาจากในส่วนของค่าเช่าสนามบินที่บางกอกแอร์เวย์ส จะต้องจ่ายขั้นต่ำให้แก่กองทุนเฉลี่ย 6% ของจำนวนเงินทุนในโครงการ หรือเทียบเท่ากับค่าเช่า และค่าบริการที่กองทุนดังกล่าวจะได้รับในระยะเวลา 12 เดือน ขณะเดียวกัน กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลถึง 4 ครั้งต่อปี โดยไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิ
ขณะที่ผู้ถือหน่วยลงทุนรายใหญ่ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย 11 อันดับได้แก่ อันดับ 1.บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ซึ่งถือจำนวน 294,607,624 หน่วย หรือคิดเป็น 31.01% อันดับ 2.กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ถือ 76,497,176 หน่วย คิดเป็น 8.05% อันดับที่ 3.SOMERS (U.K.) LIMITED จำนวน 73,786,400 หน่วย คิดเป็น 7.77% อันดับ 4.AYUDHYA ALLIANZ C.P.LIFE PUBLIC COMPANY จำนวน 67,800,000 หน่วย หรือคิดเป็น 7.14%
ส่วนอันดับที่ 5.ได้แก่ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ถือจำนวน 30,000,000 หน่วย คิดเป็น 3.16% อันดับ 6.HSBC (SINGAPORE) NOMINEES PTE LTD จำนวน 27,798,300 หน่วย คิดเป็น 2.93% อันดับ 7. THE BANK OF NEW YORK (NOMINEES) LIMITED ถืออยู่จำนวน 24,232,550 หน่วย คิดเป็น 2.55%
อันดับที่ 8.คือ DBS VICKERS SECURITIES (SINGAPORE) PTE LTD จำนวน 23,020,000 หน่วย คิดเป็น 2.42% อับดับที่ 9.NORTRUST NOMINEES LTD. จำนวน 17,060,000 หน่วย คิดเป็น 1.80% อันดับที่ 10.คือ GOVERNMENT OF SINGAPORE INVESTMENT CORPORATION C ถือจำนวน 15,537,801 หน่วย คิดเป็น 1.64 และอันดับสุดท้าย 11.FORTIS GLOBAL CUSTODY SERVICES N.V.ถือจำนวน 12,000,000 หน่วย หรือคิดเป็น 1.26%
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ บรรดาห้องค้าหลักทรัพย์ต่างมีข่าวลือ ว่า กลุ่มฟอร์ติส ซึ่งเป็นสถาบันการเงินในกลุ่มประเทศเบเนลักซ์ ที่อยู่ระหว่างการปรับพอร์ตการลงทุนในประเทศไทย จะทำการเริ่มทยอยขายหุ้นที่มีอยู่ออกไป ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจาก กลุ่มฟอร์ติส ประสบปัญหาทางการเงินจนกระทั่งรัฐบาลประเทศเบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และ ลักเซมเบิร์ก จำเป็นต้องอัดฉีดเงินจำนวน 1.12 หมื่นล้านยูโร เพื่อให้ความช่วยเหลือ ซึ่งกลุ่มฟอร์ติส ได้ลงทุนในอยู่ในหลักทรัพย์หลายตัวของตลาดหุ้นไทย รวมทั้งถือหุ้นของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) จำนวน 12 ล้านหน่วยหรือคิดเป็น 1.26% ผ่านทาง FORTIS GLOBAL CUSTODY SERVICES N.V.
โดยเมื่อเร็วๆ นี้ นางสาวดาวดี ธีรอภิศักดิ์กุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า นักลงทุนที่ถือหน่วยลงทุนกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์สนามบินสมุย (SPF) อยู่แล้วแนะนำให้ถือยาวเพื่อรอรับปันผลงวดครึ่งปีหลัง 2551 ซึ่งเชื่อจะอยู่ในอัตราไม่ต่ำกว่าเงินปันผลตอบแทนในงวดครึ่งปีแรก 2551 ที่ประมาณ 0.46 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยแบ่งเป็นไตรมาส 1/2551 อยู่ที่ประมาณ 0.25 บาทต่อหน่วยลงทุนและไตรมาส 2/2551อยู่ที่ประมาณ 0.21 บาทต่อหน่วยลงทุนเนื่องจากกองทุนจะมีสัญญารับประกันรายได้กับ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้เช่าช่วงต่อทรัพย์สิน
ส่วนนักลงทุนจะเข้าลงทุนใหม่ในช่วงนี้แนะนำว่า ควรจะชะลอลงทุนออกไปก่อน เนื่องจากมีความกังวลรายได้ปลายปี ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากปัญหาสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และสภาพคล่องการเงินตึงตัว โดยจะส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติปรับตัวลดลงได้
“ช่วงนี้สถานการณ์ยังไม่ค่อยดี อาจจะกระทบต่อการท่องเที่ยวของต่างชาติลดลง แม้ว่ากองทุนจะมีการการันตีรายได้อยู่แล้ว แต่ยังน่าเป็นห่วงอยู่” นางสาวดาวดี กล่าว
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่จะเกิดวิกฤตสถาบันการเงินสหรัฐฯได้ประมาณการรายได้ทั้งปีของ SPF อยู่ที่ 791 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.9% จากรายได้ทั้งหมดของปีก่อนเนื่องจากแนวโน้มระยะยาวเชื่อว่าสนามบินสมุยจะมีศักยภาพเติบโตของจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารสูง โดยเฉพาะภายหลังเปิดให้สายการบินไทยลงจอดได้ ซึ่งเฉลี่ยเที่ยวบินสัปดาห์ละ 14 เที่ยวบิน ทั้งนี้ คาดว่า ทั้งปีนี้ SPF จะมีจำนวนผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานเพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และปริมาณเที่ยวบินจะเพิ่มขึ้น 9%
