รองผู้ว่าการ ธปท.ผวาแผนกู้วิกฤตสหรัฐฯ 7 แสนล้านดอลลาร์ อาจกระทบอัตราดอกเบี้ยตลาดโลก ส่งผลให้ต้นทุนภาคเอกชนสูงขึ้นและหันมาระดมทุนในประเทศ หวั่นกระทบสภาพคล่องตึงตัวหนักขึ้น ขณะที่แบงเกอร์ แนะคลังทบทวนการออกบาทบอนด์ ซ้ำเติมปัญหา
วันนี้ (29 ก.ย.) นายบัณฑิต นิจถาวร รองผู้ว่าราชการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การที่สภาคองเกรสอนุมัติงบประมาณ 700,000 ล้านดอลลาร์ ที่เบื้องต้นเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ตลาดการเงินสหรัฐฯ ถือเป็นเรื่องดีก็ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และตลาดการเงินสหรัฐฯจะมีเสถียรภาพเร็วขึ้น
ขณะนี้คงต้องจับตาภาวะดอกเบี้ยต่างประเทศที่มีการปรับเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนของการลงทุนสูงขึ้น และจะทำให้นักธุรกิจหันมาระดมทุนในประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบทำให้สภาพคล่องเกิดการตึงตัว
ทั้งนี้ นายบัณฑิต ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้แม้จะยังไม่มีสัญญาณบ่งบอกสภาพคล่องที่ตึงตัวอย่างชัดเจนแต่ธนาคารพาณิชย์ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือไว้แล้ว
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงผลการหารือกับนายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สมาคมได้เสนอให้กระทรวงการคลัง ทบทวนการออกบาทบอนด์ของต่างชาติในไทย เนื่องจากเกรงว่า จะกระทบต่อสภาพคล่องในประเทศในอนาคต
“อยากให้ช่วยดูแลการที่ต่างชาติมาระดมทุนในประเทศ ด้วยการออกบาทบอนด์ และการสวอป (swap) เป็นดอลลาร์ อย่าให้ทำได้ง่ายมากนัก เพราะวันนี้สภาคล่องหดหาย ไม่กี่ประเทศรวมทั้งประเทศไทย ที่มีสภาพคล่อง น่าจะเก็บไว้ แทนการปล่อยออกมา ถึงตอนนั้นเวลาจะลงทุน ก็ไม่มีเงิน”