สุชาติเสนอ ครม. ยืดค้ำประกันเงินฝากออกไปอีก 3 ปี 28 ต.ค.นี้ หวังสกัดคนถอนเงิน ระบุพบสัญญาณความไม่มั่นใจในสถาบันการเงินของผู้ฝากและผู้กู้ หลังแบงก์ส่งจดหมายเตือนถึงลูกค้า ปลื้มค่าบาทเริ่มอ่อน ด้านผู้ว่าแบงก์ชาติเสนอประเทศอาเซียนผ่อนคลายระบบอัตราแลกเปลี่ยนรับมือวิกฤติการเงินโลก พร้อมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันอย่างใกล้ชิด
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เห็นชอบแนวทางการแก้ไขกฎหมายค้ำประกันเงินฝาก ดังนั้นกระทรวงการคลังจะเสนอพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาการคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน ออกไปเป็น 3 ปี จากเดิม 1 ปี ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 28 ต.ค.นี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับระบบสถาบันการเงิน ในช่วงเกิดวิกฤติสถาบันการเงินในต่างประเทศและเศรษฐกิจโลกมีความผันผวน
" ขณะนี้มีปัญหาวิกฤติ สถาบันการเงินทั่วโลกในระยะสั้น จึงต้องการดูแลผู้ฝากเงินเหมือนกับต่างประเทศที่ได้คุ้มครองเงินฝากไปแล้ว เพื่อให้ผู้ฝากเงินมีความมั่นใจไม่ถอนเงินฝากจากสถาบันการเงินต่างๆ" นายสุชาติกล่าวและว่า ได้พบสัญญาณความไม่มั่นใจในระบบสถาบันการเงิน โดยมีลูกค้าสถาบันการเงินบางแห่งได้รับจดหมายทั้งในส่วนของผู้ฝากเงินและลูกค้าเงินกู้ และโดยในส่วนของผู้ฝากเงินรายใหญ่ได้รับจดหมายว่าหากต้องการจะถอนเงินฝากจะต้องมีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้ลูกค้ามีความกังวลเรื่องสภาพคล่องในระบบ ขณะที่ลูกค้าเงินกู้มีสถาบันการเงินบางแห่งทำหนังสือเตือนเรื่องการปล่อยสินเชื่อว่าจะมีการติดตามอย่างเคร่งครัด ทำให้มีความกังวลเรื่องสภาพคล่องว่ามีเพียงพอที่จะปล่อยสินเชื่อหรือไม่ "
รมว.คลัง ยังกล่าวถึงค่าเงินบาทในขณะนี้ว่าอยู่ในอัตราที่เหมาะสมแล้ว และเป็นระดับที่ทางการต้องการให้เป็น ตามที่ได้ส่งสัญญาณมาตลอด เพราะทำให้ผู้ส่งออกสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ โดยเงินบาทที่อ่อนค่าลง 1 บาท/ดอลลาร์ จะเป็นผลดีต่อการส่งออก 90 สตางค์ แม้จะต้องจ่ายเงินซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศแพงขึ้น 10 สตางค์ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. ) ที่จะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนตามทิศทางที่รัฐบาลต้องการดูแลเศรษฐกิจภาพรวม
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวในการประชุมวิชาการระดับชาติของนักเศรษฐศาสตร์ ครั้งที่ 4 ที่เชียงใหม่ ว่า แม้วิกฤติการเงินโลกในครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียเพียงเล็กน้อย แต่เพื่อความไม่ประมาท ประเทศในภูมิภาคอาเซียนต้องมีการเพิ่มความระมัดระวังและป้องกันวิกฤติที่มีการคาดการณ์ความเสียหายว่าจะสูงถึง 1.44 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยการใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบยืดหยุ่นแบบกว้างขวางมากขึ้น รวมทั้งการศึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันอย่างใกล้ชิดทั้งนี้ อาเซียนจำเป็นต้องมีวงเงินสภาพคล่องของตนเอง
นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี เห็นชอบแนวทางการแก้ไขกฎหมายค้ำประกันเงินฝาก ดังนั้นกระทรวงการคลังจะเสนอพระราชกฤษฎีกาขยายเวลาการคุ้มครองเงินฝากเต็มจำนวน ออกไปเป็น 3 ปี จากเดิม 1 ปี ต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 28 ต.ค.นี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับระบบสถาบันการเงิน ในช่วงเกิดวิกฤติสถาบันการเงินในต่างประเทศและเศรษฐกิจโลกมีความผันผวน
" ขณะนี้มีปัญหาวิกฤติ สถาบันการเงินทั่วโลกในระยะสั้น จึงต้องการดูแลผู้ฝากเงินเหมือนกับต่างประเทศที่ได้คุ้มครองเงินฝากไปแล้ว เพื่อให้ผู้ฝากเงินมีความมั่นใจไม่ถอนเงินฝากจากสถาบันการเงินต่างๆ" นายสุชาติกล่าวและว่า ได้พบสัญญาณความไม่มั่นใจในระบบสถาบันการเงิน โดยมีลูกค้าสถาบันการเงินบางแห่งได้รับจดหมายทั้งในส่วนของผู้ฝากเงินและลูกค้าเงินกู้ และโดยในส่วนของผู้ฝากเงินรายใหญ่ได้รับจดหมายว่าหากต้องการจะถอนเงินฝากจะต้องมีการแจ้งล่วงหน้า ทำให้ลูกค้ามีความกังวลเรื่องสภาพคล่องในระบบ ขณะที่ลูกค้าเงินกู้มีสถาบันการเงินบางแห่งทำหนังสือเตือนเรื่องการปล่อยสินเชื่อว่าจะมีการติดตามอย่างเคร่งครัด ทำให้มีความกังวลเรื่องสภาพคล่องว่ามีเพียงพอที่จะปล่อยสินเชื่อหรือไม่ "
รมว.คลัง ยังกล่าวถึงค่าเงินบาทในขณะนี้ว่าอยู่ในอัตราที่เหมาะสมแล้ว และเป็นระดับที่ทางการต้องการให้เป็น ตามที่ได้ส่งสัญญาณมาตลอด เพราะทำให้ผู้ส่งออกสามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้ โดยเงินบาทที่อ่อนค่าลง 1 บาท/ดอลลาร์ จะเป็นผลดีต่อการส่งออก 90 สตางค์ แม้จะต้องจ่ายเงินซื้อสินค้านำเข้าจากต่างประเทศแพงขึ้น 10 สตางค์ ก็ต้องขึ้นอยู่กับการดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. ) ที่จะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนตามทิศทางที่รัฐบาลต้องการดูแลเศรษฐกิจภาพรวม
นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าฯ ธปท. กล่าวในการประชุมวิชาการระดับชาติของนักเศรษฐศาสตร์ ครั้งที่ 4 ที่เชียงใหม่ ว่า แม้วิกฤติการเงินโลกในครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียเพียงเล็กน้อย แต่เพื่อความไม่ประมาท ประเทศในภูมิภาคอาเซียนต้องมีการเพิ่มความระมัดระวังและป้องกันวิกฤติที่มีการคาดการณ์ความเสียหายว่าจะสูงถึง 1.44 ล้านเหรียญสหรัฐ ด้วยการใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบยืดหยุ่นแบบกว้างขวางมากขึ้น รวมทั้งการศึกษาและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างกันอย่างใกล้ชิดทั้งนี้ อาเซียนจำเป็นต้องมีวงเงินสภาพคล่องของตนเอง