นายก ส.แสดงสินค้าไทย เผย งานฟู้ด แอนด์ โฮเทล ยอดผู้เข้าชมงานวูบ 20% เหตุวิตกเรื่อง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และยังไม่มั่นใจการเมืองไทย ระบุ ภาพรวมอุตสาหกรรมการแสดงสินค้านานาชาติ กระทบหนัก คนแห่ยกเลิก ผู้จัดลดไซส์ คาดเสียหายเฉียด 6,000 ล้านบาท วอนใช้หลักสันติวิธียุติปัญหาโดยเร็ว
นายพรรธระพี ชินะโชติ นายกสมาคมการแสดงสินค้าไทย และ ประธานกรรมการ บริษัท แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส ผู้จัดงานแสดงสินค้าด้านโรงแรม อาหาร เครื่องดื่ม ค้าปลีก และบริการต่างๆ ครั้งที่ 16 หรือ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า แม้รัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปแล้วก็ตาม แต่ธุรกิจการจัดแสดงสินค้า ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ โดยล่าสุด งานฟู้ด แอนด์ โฮเทล ไทยแลนด์ ครั้งที่ 16 ที่กำลังมีขึ้นขณะนี้ พบว่า มีผู้เข้าชมยกเลิกการเดินทางมาถึง 20% จากที่ประมาณการว่างานนี้จะมีต่างชาติเข้าร่วมชมงานถึง 20,000 คน และ มีบริษัทเข้าร่วมแสดงสินค้า 750 แห่งจากทั่วโลก
ทั้งนี้ ผู้ยกเลิกส่วนใหญ่ เป็นผู้ชมจากประเทศ จีน เกาหลี และ ญี่ปุ่น เนื่องจากเขายังไม่มั่นใจในสถานการณ์ของประเทศไทย และบางส่วนได้ยกเลิกการเดินทางก่อนที่รัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงแก้ไขไม่ทันแล้ว
สำหรับมูลค่าการซื้อขายภายในงานดังกล่าว ปีนี้คาดว่า จะอยู่ที่ 4,000-5,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน ที่มีการซื้อขายที่ 7,000 ล้านบาท เพราะปีก่อน มีกลุ่มเอเชีย แปซิฟิก อินไฟลต์ ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับบริการบนเครื่องบินมาร่วมงานด้วย ซึ่งกลุ่มนี้จะเข้าร่วมงาน 2-3 ปีครั้งเท่านั้น
ทั้งนี้ ภาพรวมของธุรกิจจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต่างชาติยกเลิกมาร่วมงานราว 10-20% ทั้งในช่วงประกาศ พ.ร.ก.และหลังการยกเลิกแล้วก็ตาม โดยจะมีผลต่อเนื่องอีกราว 15-30 วัน เป็นอย่างน้อย ส่วนงานใดที่ยังยืนยันการจัดงานอยู่ ก็มีการปรับลดขนาดงานลงประมาณ 20% เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากน้อยแค่ไหน จึงเป็นผลให้อุตสาหกรรมจัดแสดงสินค้านานาชาติต้องสูญเสียโอกาสที่จะทำรายได้เข้าประเทศไปมากถึง 5,000-6,000 ล้านบาท
“ความเสียหายที่กล่าวมานี้ แค่เฉพาะอุตสาหกรรมจัดแสดงสินค้าเท่านั้น แต่หากมองภาพรวมทั้งประเทศแล้วเกือบทุกธุรกิจ ได้รับผลกระทบและความเสียหายจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งสิ้น ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความวุ่นวายทางการเมือง มีผลบั่นทอนเศรษฐกิจของประเทศ จึงต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาคุยกัน และตกลงกันแบบสันติวิธี อย่าใช้วิธีทุบหม้อข้าวตัวเอง ไม่เช่นนั้น ประเทศและประชาชนคนไทยนั่นเองที่บอบช้ำที่สุด”
นายพรรธระพี ชินะโชติ นายกสมาคมการแสดงสินค้าไทย และ ประธานกรรมการ บริษัท แบงค็อค เอ็กซ์ซิบิชั่น เซอร์วิสเซส ผู้จัดงานแสดงสินค้าด้านโรงแรม อาหาร เครื่องดื่ม ค้าปลีก และบริการต่างๆ ครั้งที่ 16 หรือ ไทยแลนด์ เปิดเผยว่า แม้รัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไปแล้วก็ตาม แต่ธุรกิจการจัดแสดงสินค้า ก็ยังได้รับผลกระทบอยู่ โดยล่าสุด งานฟู้ด แอนด์ โฮเทล ไทยแลนด์ ครั้งที่ 16 ที่กำลังมีขึ้นขณะนี้ พบว่า มีผู้เข้าชมยกเลิกการเดินทางมาถึง 20% จากที่ประมาณการว่างานนี้จะมีต่างชาติเข้าร่วมชมงานถึง 20,000 คน และ มีบริษัทเข้าร่วมแสดงสินค้า 750 แห่งจากทั่วโลก
ทั้งนี้ ผู้ยกเลิกส่วนใหญ่ เป็นผู้ชมจากประเทศ จีน เกาหลี และ ญี่ปุ่น เนื่องจากเขายังไม่มั่นใจในสถานการณ์ของประเทศไทย และบางส่วนได้ยกเลิกการเดินทางก่อนที่รัฐบาลประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงแก้ไขไม่ทันแล้ว
สำหรับมูลค่าการซื้อขายภายในงานดังกล่าว ปีนี้คาดว่า จะอยู่ที่ 4,000-5,000 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน ที่มีการซื้อขายที่ 7,000 ล้านบาท เพราะปีก่อน มีกลุ่มเอเชีย แปซิฟิก อินไฟลต์ ซึ่งทำธุรกิจเกี่ยวกับบริการบนเครื่องบินมาร่วมงานด้วย ซึ่งกลุ่มนี้จะเข้าร่วมงาน 2-3 ปีครั้งเท่านั้น
ทั้งนี้ ภาพรวมของธุรกิจจัดงานแสดงสินค้านานาชาติ ได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ต่างชาติยกเลิกมาร่วมงานราว 10-20% ทั้งในช่วงประกาศ พ.ร.ก.และหลังการยกเลิกแล้วก็ตาม โดยจะมีผลต่อเนื่องอีกราว 15-30 วัน เป็นอย่างน้อย ส่วนงานใดที่ยังยืนยันการจัดงานอยู่ ก็มีการปรับลดขนาดงานลงประมาณ 20% เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานมากน้อยแค่ไหน จึงเป็นผลให้อุตสาหกรรมจัดแสดงสินค้านานาชาติต้องสูญเสียโอกาสที่จะทำรายได้เข้าประเทศไปมากถึง 5,000-6,000 ล้านบาท
“ความเสียหายที่กล่าวมานี้ แค่เฉพาะอุตสาหกรรมจัดแสดงสินค้าเท่านั้น แต่หากมองภาพรวมทั้งประเทศแล้วเกือบทุกธุรกิจ ได้รับผลกระทบและความเสียหายจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งสิ้น ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความวุ่นวายทางการเมือง มีผลบั่นทอนเศรษฐกิจของประเทศ จึงต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้ามาคุยกัน และตกลงกันแบบสันติวิธี อย่าใช้วิธีทุบหม้อข้าวตัวเอง ไม่เช่นนั้น ประเทศและประชาชนคนไทยนั่นเองที่บอบช้ำที่สุด”