วัตสัน ลุยโค้งสุดท้าย ชูการบริการโดนใจ ขนสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟอินเตอร์ร่วม 100 รายการ รับ 4 เดือนเศรษฐกิจเริ่มฟื้น กำลังซื้อคึกรับไฮซีซัน เร่งขยายสาขาอีก 8 แห่ง ระบุเศรษฐกิจชะลอตัวต้นปีไม่กระทบยอดขาย โชว์อัตราการซื้อต่อบิลโต 10% จากปีที่ผ่านมา
นายโทบี แอนเดอร์สัน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกเพื่อความงามและสุขภาพวัตสัน เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สถานการณ์ต่างๆน่าจะเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดี กำลังซื้อของผู้บริโภคน่าจะกลับมาดีขึ้น
สำหรับนโยบายการตลาดในช่วง 4 เดือน บริษัทมุ่งเน้นด้านการบริการ การแนะนำสินค้าใหม่โดยเฉพาะสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟทั้งจากประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ ออสเตรเลีย เกาหลี ร่วมกว่า 100 รายการลงสู่ตลาด เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การที่บริษัทเน้นสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ เนื่องจากการศึกษาผู้บริโภคกว่า 1,000 ราย พบว่า แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคซื้อสินค้าที่การซื้อสินค้ามุ่งเน้นคุณภาพและมีความคุ้มค่า อีกทั้งยังต้องการสินค้าที่เอ็กซ์คลูซีฟ ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา สินค้าเอ็กซ์คูลซีฟ สามารถสร้างรายได้ในสัดส่วนถึง 10% ของรายได้รวม จากการมีด้วยกันหลายรายการและหลากหลายแบรนด์ อาทิ เดอร์ม่า สกิน มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักมากที่สุดในกลุ่มสกินแคร์ ล่าสุด จึงได้จับมือร่วมกับเอลก้า ในการเป็นผู้จำหน่ายสินค้าไตร แอคทิลีนที่จะเป็นสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟอีกราย
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายสาขาเพิ่ม 8 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเน้นทำเลที่มีศักยภาพและมีความต้องการของผู้บริโภค จากในช่วงต้นปีขยายไปแล้ว 4 สาขา ส่งผลให้ปัจจุบันมีร้านวัตสันทั้งหมด 145 สาขา โดยปีนี้บริษัทได้เตรียมงบทั้งการขยายสาขาและการปรับปรุง 100 ล้านบาท ส่วนงบจัดกิจกรรมหรือแคมเปญซึ่งยังไม่รวมกับงบการตลาดอีก 100 ล้านบาท ซึ่งปีนี้บริษัทใช้งบการตลาดเพิ่ม 20% เนื่องจากมีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ และจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจบริษัทไม่ได้รับผลกระทบต่อยอดขาย โดยพบว่าอัตราการซื้อสินค้าเติบโตมากกว่า 10% ต่อบิล เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
นายโทบี แอนเดอร์สัน ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เซ็นทรัล วัตสัน จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกเพื่อความงามและสุขภาพวัตสัน เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังมีแนวโน้มที่ดีขึ้น สถานการณ์ต่างๆน่าจะเริ่มคลี่คลายในทิศทางที่ดี กำลังซื้อของผู้บริโภคน่าจะกลับมาดีขึ้น
สำหรับนโยบายการตลาดในช่วง 4 เดือน บริษัทมุ่งเน้นด้านการบริการ การแนะนำสินค้าใหม่โดยเฉพาะสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟทั้งจากประเทศญี่ปุ่น อังกฤษ ออสเตรเลีย เกาหลี ร่วมกว่า 100 รายการลงสู่ตลาด เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การที่บริษัทเน้นสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟ เนื่องจากการศึกษาผู้บริโภคกว่า 1,000 ราย พบว่า แนวโน้มพฤติกรรมของผู้บริโภคซื้อสินค้าที่การซื้อสินค้ามุ่งเน้นคุณภาพและมีความคุ้มค่า อีกทั้งยังต้องการสินค้าที่เอ็กซ์คลูซีฟ ขณะเดียวกัน ที่ผ่านมา สินค้าเอ็กซ์คูลซีฟ สามารถสร้างรายได้ในสัดส่วนถึง 10% ของรายได้รวม จากการมีด้วยกันหลายรายการและหลากหลายแบรนด์ อาทิ เดอร์ม่า สกิน มีการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักมากที่สุดในกลุ่มสกินแคร์ ล่าสุด จึงได้จับมือร่วมกับเอลก้า ในการเป็นผู้จำหน่ายสินค้าไตร แอคทิลีนที่จะเป็นสินค้าเอ็กซ์คลูซีฟอีกราย
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายสาขาเพิ่ม 8 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยเน้นทำเลที่มีศักยภาพและมีความต้องการของผู้บริโภค จากในช่วงต้นปีขยายไปแล้ว 4 สาขา ส่งผลให้ปัจจุบันมีร้านวัตสันทั้งหมด 145 สาขา โดยปีนี้บริษัทได้เตรียมงบทั้งการขยายสาขาและการปรับปรุง 100 ล้านบาท ส่วนงบจัดกิจกรรมหรือแคมเปญซึ่งยังไม่รวมกับงบการตลาดอีก 100 ล้านบาท ซึ่งปีนี้บริษัทใช้งบการตลาดเพิ่ม 20% เนื่องจากมีการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ และจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจบริษัทไม่ได้รับผลกระทบต่อยอดขาย โดยพบว่าอัตราการซื้อสินค้าเติบโตมากกว่า 10% ต่อบิล เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
