ปุ้มปุ้ย เลี่ยงโหมใช้งบกระตุ้นยอดขายครึ่งปีหลัง หลังมีปัจจัยลบอื้อ ปรับแผนงดทำแคมเปญใหญ่ อัดโปรโมชัน ณ จุดขาย ครึ่งปีหลังดันยอดแทน ส่งสินค้าใหม่กลุ่มปลาปรุงรส ลงตลาดไตรมาส 4 หวังตอกย้ำบัลลังก์ผู้นำตลาดครองแชร์ 90% สิ้นปี
นายไกรเสริม โตทับเที่ยง รองประธานผู้อำนวยการ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตอาหารกระป๋อง ยี่ห้อ ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม เปิดเผยว่า แผนการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทลดการจัดแคมเปญใหญ่ๆ แต่จะหันมาเน้นการรายการส่งเสริมการขายแทน ณ จุดขาย เพื่อกระตุ้นยอดขาย ทั้งนี้ เป็นเพราะผลพวงจากต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ เหล็ก มีการปรับขึ้นราคาอีก 5-8% กล่องบรรจุภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น 15% และวัตถุดิบที่สำคัญ เช่น ปลาสด ที่เป็นส่วนที่นำมาทำปลากระป๋องก็มีการเพิ่มตัวสูงขึ้น
ดังนั้น บริษัทจึงต้องมีความระมัดระวังการใช้งบการตลาด โดยจะพิจารณาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแต่ละโมเดิร์นเทรด ภายใต้การใช้งบ 10 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มปลากระป๋องปรุงรสภายใต้แบรนด์ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม ในช่วงไตรมาสที่สี่ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นตลาดขนาดเล็กมีมูลค่าราว 700-800 ล้านบาท แต่เป็นตลาดที่มีศักยภาพโดยมีอัตราการเติบโตสูง เมื่อเทียบกับตลาดปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ มูลค่า 4,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตต่อปีราว 5% เพราะเป็นตลาดที่เริ่มอิ่มตัว อีกทั้งยังมีสินค้าสำเร็จรูปอื่นๆ เข้ามาทดแทน
“สถานการณ์ในครึ่งปีหลังนี้ ต้องพิจารณาปัจจัยลบของตลาดหลากหลายเรื่อง โดยเพราะต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทปรับการบริการจัดการ และลงทุนด้านการขนส่ง โดยสั่งซื้อรถที่ใช้พลังงานทดแทนเข้ามาใช้ เพื่อลดต้นทุนต่างๆที่ปรับเพิ่มขึ้น”
ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโต 5% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะมีอัตราการเติบโตเท่าไร เพราะมีปัจจัยลบหลายประการ โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 900 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่งออก 20% หรือ 200 ล้านบาท และภายในประเทศ 80% หรือ 700 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมของตลาดปลาในซอสมะเขือเทศ 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดบน 10% กลาง 40% ล่าง 50% ซึ่งปลากระป๋องปุ้มปุ้ยอยู่ในตลาดบนและกลาง ถือเป็นผู้นำด้านปลาปรุงรสโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 90% ของตลาดรวม ในส่วนของผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งเป็นปลาปรุงรส 80% ปลาในซอสมะเขือเทศ 20%
นายไกรเสริม โตทับเที่ยง รองประธานผู้อำนวยการ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตอาหารกระป๋อง ยี่ห้อ ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม เปิดเผยว่า แผนการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ บริษัทลดการจัดแคมเปญใหญ่ๆ แต่จะหันมาเน้นการรายการส่งเสริมการขายแทน ณ จุดขาย เพื่อกระตุ้นยอดขาย ทั้งนี้ เป็นเพราะผลพวงจากต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาทิ เหล็ก มีการปรับขึ้นราคาอีก 5-8% กล่องบรรจุภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น 15% และวัตถุดิบที่สำคัญ เช่น ปลาสด ที่เป็นส่วนที่นำมาทำปลากระป๋องก็มีการเพิ่มตัวสูงขึ้น
ดังนั้น บริษัทจึงต้องมีความระมัดระวังการใช้งบการตลาด โดยจะพิจารณาจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายแต่ละโมเดิร์นเทรด ภายใต้การใช้งบ 10 ล้านบาท พร้อมกันนี้ ยังเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในกลุ่มปลากระป๋องปรุงรสภายใต้แบรนด์ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม ในช่วงไตรมาสที่สี่ ซึ่งแม้ว่าจะเป็นตลาดขนาดเล็กมีมูลค่าราว 700-800 ล้านบาท แต่เป็นตลาดที่มีศักยภาพโดยมีอัตราการเติบโตสูง เมื่อเทียบกับตลาดปลากระป๋องในซอสมะเขือเทศ มูลค่า 4,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโตต่อปีราว 5% เพราะเป็นตลาดที่เริ่มอิ่มตัว อีกทั้งยังมีสินค้าสำเร็จรูปอื่นๆ เข้ามาทดแทน
“สถานการณ์ในครึ่งปีหลังนี้ ต้องพิจารณาปัจจัยลบของตลาดหลากหลายเรื่อง โดยเพราะต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทปรับการบริการจัดการ และลงทุนด้านการขนส่ง โดยสั่งซื้อรถที่ใช้พลังงานทดแทนเข้ามาใช้ เพื่อลดต้นทุนต่างๆที่ปรับเพิ่มขึ้น”
ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา บริษัทมีอัตราการเติบโต 5% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ สำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังขณะนี้ยังไม่ได้ตั้งเป้าว่าจะมีอัตราการเติบโตเท่าไร เพราะมีปัจจัยลบหลายประการ โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้ 900 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่งออก 20% หรือ 200 ล้านบาท และภายในประเทศ 80% หรือ 700 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมของตลาดปลาในซอสมะเขือเทศ 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดบน 10% กลาง 40% ล่าง 50% ซึ่งปลากระป๋องปุ้มปุ้ยอยู่ในตลาดบนและกลาง ถือเป็นผู้นำด้านปลาปรุงรสโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 90% ของตลาดรวม ในส่วนของผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งเป็นปลาปรุงรส 80% ปลาในซอสมะเขือเทศ 20%
