ปุ้มปุ้ย หวั่นวิกฤตเศรษฐกิจกระทบตลาดปลากระป๋องสะดุด ชี้ยุคต้มยำกุ้งอาหารสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีวิตยอดขายยังวูบ 2 เดือนสุดท้ายรัดเข็มขัด เลี่ยงเดินเกมอัดงบดันยอดขายไฮซีซัน หวั่นวัตถุดิบปลาขาดแคลน โชว์ 9 เดือน ยอดขายโตตามเป้าหมาย สิ้นปีโต 10% จากรายได้ปีที่ผ่านมา 900 ล้านบาท
นายสลิล โตทับเที่ยง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด(มหาชน) หรือผู้ผลิตอาหารกระป๋อง ยี่ห้อ ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้าย โดยจะไม่มีความเคลื่อนไหวทางการตลาดแต่อย่างใด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยและของโลกที่ถดถอยลง เสถียรภาพทางการเมืองที่ไม่มั่นคง ซึ่งแม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลงเหลือเป็นกว่า 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แล้วก็ตาม แต่ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย
“ช่วงนี้แม้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ปลากระป๋องซึ่งเป็นอาหารที่มีความคุ้มค่าด้านราคาจะกลายเป็นสินค้าทางเลือกหนึ่งในช่วงเวลานี้ แต่ก็ต้องรัดเข็มขัดไว้ก่อน อีกทั้งในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 จำได้เป็นอย่างดีว่า แม้กระทั่งอาหารซึ่งเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ยอดขายยังสะดุด ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจไม่ดีในปีนี้ ผมก็ไม่มองว่าเป็นโอกาสสินค้าของบริษัท”
นายสลิล กล่าวว่า ปกติการทำตลาดสินค้ามักจะรุกทำตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้าย เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่สำหรับปลากระป๋อง บริษัทมองว่าไม่ได้เป็นสินค้าที่สามารถโหนกระแสในช่วงไฮซีซันในช่วงเทศกาลส่งท้ายปลายปีได้ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง อย่างไรก็ตามปัจจัยที่บริษัทกังวลอยู่ในขณะนี้ คือ ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน โดยเฉพาะปลา
สำหรับผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตตามเป้าหมาย แม้ว่าต้นทุนการผลิตในช่วงที่ผ่านมาจะปรับเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก เป็นต้น แต่เนื่องจากบริษัทเน้นการบริหารจัดการ เพื่อลดต้นทุนต่างๆ โดยสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา มีรายได้ 900 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่งออก 20% หรือ 200 ล้านบาท และภายในประเทศ 80% หรือ 700 ล้านบาท
ภาพรวมของตลาดปลาในซอสมะเขือเทศ 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดบน 10% กลาง 40% ล่าง 50% ซึ่งปลากระป๋องปุ้มปุ้ยอยู่ในตลาดบนและกลาง ถือเป็นผู้นำด้านปลาปรุงรสโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 90% ของตลาดรวม ในส่วนของผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งเป็นปลาปรุงรส 80% ปลาในซอสมะเขือเทศ ปลาในซอสมะเขือเทศ
นายสลิล โตทับเที่ยง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด(มหาชน) หรือผู้ผลิตอาหารกระป๋อง ยี่ห้อ ปุ้มปุ้ย-ปลายิ้ม เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับแผนการตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้าย โดยจะไม่มีความเคลื่อนไหวทางการตลาดแต่อย่างใด เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยและของโลกที่ถดถอยลง เสถียรภาพทางการเมืองที่ไม่มั่นคง ซึ่งแม้ว่าราคาน้ำมันจะลดลงเหลือเป็นกว่า 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แล้วก็ตาม แต่ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย
“ช่วงนี้แม้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคจะมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ปลากระป๋องซึ่งเป็นอาหารที่มีความคุ้มค่าด้านราคาจะกลายเป็นสินค้าทางเลือกหนึ่งในช่วงเวลานี้ แต่ก็ต้องรัดเข็มขัดไว้ก่อน อีกทั้งในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 40 จำได้เป็นอย่างดีว่า แม้กระทั่งอาหารซึ่งเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ยอดขายยังสะดุด ซึ่งแม้ว่าเศรษฐกิจไม่ดีในปีนี้ ผมก็ไม่มองว่าเป็นโอกาสสินค้าของบริษัท”
นายสลิล กล่าวว่า ปกติการทำตลาดสินค้ามักจะรุกทำตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้าย เพื่อกระตุ้นยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่สำหรับปลากระป๋อง บริษัทมองว่าไม่ได้เป็นสินค้าที่สามารถโหนกระแสในช่วงไฮซีซันในช่วงเทศกาลส่งท้ายปลายปีได้ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีการแข่งขันค่อนข้างรุนแรง อย่างไรก็ตามปัจจัยที่บริษัทกังวลอยู่ในขณะนี้ คือ ปัญหาวัตถุดิบขาดแคลน โดยเฉพาะปลา
สำหรับผลประกอบการในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตตามเป้าหมาย แม้ว่าต้นทุนการผลิตในช่วงที่ผ่านมาจะปรับเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น เหล็ก เป็นต้น แต่เนื่องจากบริษัทเน้นการบริหารจัดการ เพื่อลดต้นทุนต่างๆ โดยสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 10% จากปีที่ผ่านมา มีรายได้ 900 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่งออก 20% หรือ 200 ล้านบาท และภายในประเทศ 80% หรือ 700 ล้านบาท
ภาพรวมของตลาดปลาในซอสมะเขือเทศ 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดบน 10% กลาง 40% ล่าง 50% ซึ่งปลากระป๋องปุ้มปุ้ยอยู่ในตลาดบนและกลาง ถือเป็นผู้นำด้านปลาปรุงรสโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ที่ 90% ของตลาดรวม ในส่วนของผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งเป็นปลาปรุงรส 80% ปลาในซอสมะเขือเทศ ปลาในซอสมะเขือเทศ
