ปุ้มปุ้ย ชี้ตลาดปลากระป๋องขยายตัวเพิ่มขึ้น รับอานิสงส์วิกฤตเศรษฐกิจ คนแห่ซื้ออาหารคุ้มค่าคุ้มราคา จ่อคิวแตกไลน์อาหารสำเร็จรูปต่อยอดธุรกิจ หวั่นปลายปีราคาน้ำมันขึ้น กระทบต้นทุนค่าขนส่ง เหล็ก ซ้ำรอยเดิมต้นทุนผลิตพุ่ง สิ้นปีโต 12% ตามเป้าหมาย
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลากระป๋องปุ้มปุ้ย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดปลากระป๋องสำเร็จรูปมูลค่า 4,000 ล้านบาท ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา อัตราการเติบโตมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย หันมาซื้อปลากระป๋องสำเร็จรูป ซึ่งเป็นอาหารที่คุ้มค่าคุ้มราคา และยังเป็นปัจจัยสี่ที่ผู้บริโภคต้องการในชีวิตประจำวัน เมื่อเทียบกับสินค้ากลุ่มอื่นๆ ได้รับผลกระทบมากกว่า
สำหรับแนวทางการตลาดบริษัทกำลังอยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาสินค้า เพื่อขยายโปรดักส์ไลน์อาหารสำเร็จรูปลงตลาด เพราะกลุ่มอาหารสำเร็จรูปเป็นตลาดที่มีศักยภาพ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย จากปัจจุบันบริษัทโฟกัสกลุ่มอาหารสำเร็จรูปปรุงรสสัดส่วน 70-80% อาทิ ปลาราดซอส ส่วนกลุ่มปลากระป๋องเหลือเพียง 20-30% อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัว เพราะขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มนิ่ง
ด้านแผนการตลาดในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บริษัทมุ่งคืนกำไรสู่สังคม ภายใต้การใช้งบการตลาดตามแผนที่วางไว้ เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นการรองรับกับภาวะตลาดกระป๋องที่ใช้กลยุทธ์ราคาขึ้นมาแข่งขันอย่างรุนแรง ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการทั้งปีบริษัทมีอัตราการเติบโต 12% ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากผลประกอบการในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 5-10% ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่ดีโดยเฉพาะในท่ามกลางที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
นายสลิล กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าในช่วงปลายปีมีแนวโน้มเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่กังวลราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มว่าจะปรับเพิ่มขึ้น จากการฟื้นของเศรษฐกิจโลก ทำให้ทุกประเทศต้องเร่งการผลิต และต้องการน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเกรงว่าปัจจัยดังกล่าว กระทบต่อต้นทุนค่าขนส่ง หรือกระทั่งเหล็กที่จะนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ผู้ประกอบการปลากระป๋องก็ไม่ได้ปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น แต่มุ่งการบริหารจัดการ เพื่อลดต้นทุนต่างๆ แทน
นายสลิล โตทับเที่ยง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายปลากระป๋องปุ้มปุ้ย เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดปลากระป๋องสำเร็จรูปมูลค่า 4,000 ล้านบาท ในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา อัตราการเติบโตมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากวิกฤตเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผู้บริโภคมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย หันมาซื้อปลากระป๋องสำเร็จรูป ซึ่งเป็นอาหารที่คุ้มค่าคุ้มราคา และยังเป็นปัจจัยสี่ที่ผู้บริโภคต้องการในชีวิตประจำวัน เมื่อเทียบกับสินค้ากลุ่มอื่นๆ ได้รับผลกระทบมากกว่า
สำหรับแนวทางการตลาดบริษัทกำลังอยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาสินค้า เพื่อขยายโปรดักส์ไลน์อาหารสำเร็จรูปลงตลาด เพราะกลุ่มอาหารสำเร็จรูปเป็นตลาดที่มีศักยภาพ สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย จากปัจจุบันบริษัทโฟกัสกลุ่มอาหารสำเร็จรูปปรุงรสสัดส่วน 70-80% อาทิ ปลาราดซอส ส่วนกลุ่มปลากระป๋องเหลือเพียง 20-30% อย่างไรก็ตามในช่วงปลายปีนี้ คาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะฟื้นตัว เพราะขณะนี้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มนิ่ง
ด้านแผนการตลาดในช่วง 4 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บริษัทมุ่งคืนกำไรสู่สังคม ภายใต้การใช้งบการตลาดตามแผนที่วางไว้ เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังเป็นการรองรับกับภาวะตลาดกระป๋องที่ใช้กลยุทธ์ราคาขึ้นมาแข่งขันอย่างรุนแรง ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการทั้งปีบริษัทมีอัตราการเติบโต 12% ตามเป้าหมายที่วางไว้ จากผลประกอบการในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 5-10% ซึ่งนับว่าเป็นการเติบโตที่ดีโดยเฉพาะในท่ามกลางที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
นายสลิล กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าในช่วงปลายปีมีแนวโน้มเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่กังวลราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มว่าจะปรับเพิ่มขึ้น จากการฟื้นของเศรษฐกิจโลก ทำให้ทุกประเทศต้องเร่งการผลิต และต้องการน้ำมันมากขึ้น ซึ่งเกรงว่าปัจจัยดังกล่าว กระทบต่อต้นทุนค่าขนส่ง หรือกระทั่งเหล็กที่จะนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ผู้ประกอบการปลากระป๋องก็ไม่ได้ปรับราคาสินค้าเพิ่มขึ้น แต่มุ่งการบริหารจัดการ เพื่อลดต้นทุนต่างๆ แทน
