“หมัก” นำทีมแถลง 6 มาตรการ คุยฟุ้ง 6 เดือน ฝ่าวิกฤตได้ แม้จะเป็นรัฐบาลขี้เหร่ พร้อมอัดเงิน 4.6 หมื่น ล.ซื้อค่าครองชีพแบกแทนรากหญ้า โวยปัญหาเศรษฐกิจไทย ไม่ได้เกิดจากความโง่เง่าของรัฐบาล “เลี้ยบ” ยันลดภาษีน้ำมัน 3.2 หมื่น ล.ไม่ทำให้โครงสร้างตลาดพัง
เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.วันนี้ (14 ก.ค.) นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีมหาดไทย ร่วมแถลง 6 มาตรการ 6 เดือน ฝ่าวิกฤตเพื่อไทยทุกคน โดยประเด็นแรก เป็นการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน จะเป็นการลดในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 91 95 ลงลิตรละ 3 บาท 30 สตางค์ ซึ่งมาตรการนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม เป็นต้นไป ส่วนดีเซลจะลดภาษีสรรพสามิตลงประมาณ 2 บาท 19 สตางค์ ถึง 2 บาท 30 สตางค์ต่อลิตร
นายสมัคร กล่าวว่า สถานการณ์วิกฤตในขณะนี้ ไม่ได้เกิดจากความโง่เง่าของรัฐบาล แต่เป็นผลจากราคาน้ำมัน แต่รัฐบาลที่ขี้เหร่ก็มีสติปัญญา และจะขอแก้ไขปัญหาให้บ้านเมืองที่รุนแรงขึ้น
“ที่เกิดปัญหา และแก้กันไม่ค่อยได้ เพราะมีกลุ่มที่คอยขัดขวางการทำงาน มีกระบวนการพยายามทำลายประเทศ โดยได้ยกตัวอย่างกรณีที่จะเดินทางไปเซ็นสัญญาลงนามรับวาระเป็นประธานอาเซียน แต่ไม่มีใครกล้าเซ็นสัญญา เพราะเกรงว่าจะซ้ำรอย รมว.ต่างประเทศ ในการลงนามสัญญาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหาร”
นายสมัคร ระบุว่า รัฐบาลจะสูญรายได้ราว 4.6 หมื่นล้านบาท จากมาตรการบรรเทาค่าครองชีพประชาชน 6 มาตรการ โดยเป็นภาษีสรรพสามิตน้ำมันสูงถึง 3.2 หมื่นล้านบาท
ส่วนมาตรการอื่นๆ ที่รัฐบาลประกาศวันนี้ ได้แก่ การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน, การชะลอปรับขึ้นราคาก๊าซ LPG สำหรับภาคครัวเรือน, ผู้ใช้น้ำประปาไม่เกิน 50 หน่วย และใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 80 หน่วยไม่ต้องเสียค่าบริการ และให้ประชาชนขึ้นรถเมล์ฟรี 800 คัน
นอกจากนี้ จะมีการชะลอการขึ้นก๊าซหุงต้มในภาคครัวเรือน ระยะเวลา 6 เดือน ขณะเดียวกัน หากใครใช้น้ำประปาต่ำกว่า 50 หน่วยต่อเดือนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย และค่าไฟฟ้า ถ้าใช้ไม่เกิน 80 หน่วย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ถ้าใช้ 81-150 หน่วย รัฐบาลจะออกค่าไฟให้ครึ่งหนึ่ง
สำหรับในส่วนของค่าโดยสารรถประจำทาง ที่มีอยู่ปัจจุบัน 1,600 คันของ ขสมก.ในจำนวน 800 คัน จะติดป้ายว่า ไม่เสียค่าบริการ เป็นเวลา 6 เดือน เริ่มตั้งแต่ 1 สิงหาคม และมาตรการสุดท้าย คือ มาตรการการใช้รถไฟชั้น 3 ทั่วประเทศ ไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้นกว่า 46,000 ล้านบาท
**ครม.กู้หน้าหมัก ไฟเขียวน้ำมันคุณภาพต่ำรัสเซีย
นายสมัคร กล่าวเพิ่มเติมว่า ครม.วันนี้ ยังได้รับหลักการนำเข้าน้ำมันดีเซลราคาต่ำจากรัสเซียขายผ่านสหกรณ์ 200 แห่งทั่วประเทศ และขอยืนยันว่า จะไม่มีจำหน่ายในกรุงเทพมหานคร โดยจะนำเงินจากสหกรณ์ไปซื้อแบ่งขาย 1:5 ในราคาที่ถูกกว่า 8 บาทให้สหกรณ์การประมง และสหกรณ์การขนส่งในต่างจังหวัดเท่านั้น
ทั้งนี้ หลังจาก ครม.อนุมัติในหลักการแล้วภายใน 15 วัน จะมีการจัดทำเอกสารเพื่อจัดซื้อ หลังจากนั้น 45 วัน ทางรัสเซียจะส่งน้ำมันมาทางเรือ และส่งน้ำมันที่ได้ไปผ่านการตรวจสอบกับทางห้องตรวจสอบคุณภาพน้ำมัน เมื่อผ่านการตรวจสอบก็สามารถนำมาออกจำหน่ายตามหลักเกณฑ์ได้
**เลี้ยบ เชื่อลดภาษีดีเซล 0% ไม่ทำโครงสร้างตลาดพัง
นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันว่า จะไม่ทำให้โครงสร้างของราคาน้ำมันเสียไป ที่สำคัญไม่ทำให้ประเทศชาติเกิดภาวะเงินเฟ้อเกินกว่าร้อยละ 6-7 โดยจะใช้งบประมาณ 32,000 ล้านบาท ในการอุดหนุนครั้งนี้ ซึ่งรัฐบาลเล็งเห็นแล้วว่าจะเกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศชาติในภาพรวม สามารถพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตต่อไปได้ ช่วยให้แต่ละครัวเรือนประหยัดได้ประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน
**ดีเดย์ลดราคาน้ำมัน 25 ก.ค.นี้
พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า หลังจากที่ ครม.อนุมัติลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตอีกครั้ง กระทรวงพลังงานต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 7-9 วัน ในการระบายสตอกน้ำมันที่มีการจัดเก็บอัตราภาษีเดิมออกและจากนั้นจะใช้กลไกจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาบริหาร โดยคาดว่าจะพร้อมลดราคาขายหน้าสถานีบริการได้ในวันที่ 25 ก.ค.นี้
**ตรึงราคาก๊าซแอลพีจีหุงต้ม 6 เดือน ลอยแพก๊าซเติมรถยนต์
พล.ท.(หญิง) พูนภิรมย์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ครม.ยังได้มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนออกไปอีก 6 เดือน จากเดิมที่รัฐบาลกำหนดให้ตรึงราคาไว้ที่ 18.13 บาทต่อกิโลกรัม จะสิ้นสุดลงในต้นเดือน ส.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้สามารถยืดอายุการตรึงราคาก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนได้ไปถึงวันที่ 31 ม.ค. ปี 2552
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนส่วนการปรับขึ้นราคาก๊าซแอลพีจีค่าขนส่งนั้นยังคงให้เป็นไปตามแผนเดิม โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์นี้ซึ่งจะต้องมีการพิจารณาหามาตรการรองรับการปรับ 2 ราคา ให้สอดคล้องกันเพื่อป้องกันการถ่ายเทก๊าซจากภาคครัวเรือนไปสู่ภาคอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ รมว.พลังงาน ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติลดการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลที่ 2.30 บาทต่อลิตร ว่าจะส่งผลให้น้ำมันม่วงที่รัฐบาลให้การอุดหนุนอยู่ที่ 2 บาทต่อลิตร ลดลงได้อีก 2.75 บาทต่อลิตร ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันม่วงลดลงได้ทั้งหมด 4.75 บาทต่อลิตร
