2 พ่อมดการเงินชื่อกระฉ่อน "จิม โรเจอร์ส-จอร์จ โซรอส" ออกโรงอัดแผนใช้เงินงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐเข้าอุ้ม "แฟนนีเม-เฟรดดีแมค" ถือเป็นหายนะของผู้เสียภาษีอเมริกัน
วันนี้(15 ก.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายจิม โรเจอร์ส นักลงทุนชื่อดังที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นกูรูด้านเศรษฐกิจระดับแนวหน้าของโลก แสดงความเห็นว่า แผนการของกระทรวงการคลังสหรัฐที่พยุงกิจการบริษัทแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค ถือเป็นหายนะที่ไม่ได้ช่วยให้วิกฤตการณ์คลี่คลายลง
"ภายใต้แผนพิทักษ์กิจการ (conservatorship) แฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งร่างโดยนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐนั้น ราคาหุ้นของแฟนนี เม และเฟรดดี แมคแทบจะไม่มีมูลค่าหรือไม่เหลือมูลค่า และผลขาดทุนจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่บริษัทค้ำประกันไว้นั้นจะถูกชำระโดยผู้เสียภาษี หากสภาคองเกรสอนุมัติแผนการดังกล่าว ก็ถือเป็นเรื่องเศร้าของผู้เสียภาษีที่ต้องรับผิดชอบหนี้สินของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค"
นายโรเจอร์ส ยังกล่าวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก ซึ่งเขาคาดว่าราคาหุ้นของทั้งสองบริษัทจะทรุดตัวลงอีก พร้อมแสดงความเห็นว่า ตนเองไม่รู้ว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงเหล่านี้กล้าดีอย่างไรที่จะเอาเงินจากพวกเราซึ่งเป็นผู้เสียภาษีและเข้าซื้อหุ้นในแฟนนี เม และเฟรดดี แมค
นายโรเจอร์ส ชี้ว่าการดำเนินการดังกล่าวจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก และจะส่งผลกระทบต่องบดุลของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อีกทั้งจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงและทำให้เงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้นจนยากจะควบคุม
นอกจากนี้ จอร์จ โซรอส จอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน กล่าวว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค กำลังเผชิญวิกฤตการณ์ที่เสี่ยงต่อการล้มละลาย แผนการพยุงกิจการของ 2 บริษัทถือเป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นธรรมของผู้เสียภาษี ผมเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ยังไม่ใช่คลื่นลูกสุดท้ายที่จะถาโถมเข้ามากระทบเศรษฐกิจสหรัฐ
โดยวานนี้ เฟดและกระทรวงการคลังสหรัฐ ประกาศแผนพยุงกิจการแฟนนี แม และเฟรดดี แมค หลังจากทั้ง 2 บริษัทขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองจนเป็นเหตุให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก โดยแผนการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะพยุงสถานะทางการเงินของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกว่า รัฐบาลสหรัฐพร้อมที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องตลาดสินเชื่อไม่ให้ประสบปัญหามากไปกว่าปีที่แล้ว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน