พ่อมดการเงินชื่อกระฉ่อนโลก "จอร์จ โซรอส" คาดตลาดการเงินโลกจะเข้าสู่จุดเลวร้ายที่สุด หลังฟื้นตัวขึ้นชั่วคราวเมื่อวันที่ 17 มี.ค.จากแรงหนุน เจพีมอร์แกนฯ เข้าซื้อแบร์ สเติร์นส พร้อมเปิดตัวหนังสือ The New Paradigm for Financial Markets' ผ่านทางเว็บไซต์แล้ววันนี้ เผยปริศนาตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงในปี 1980
วันนี้(3 เม.ย.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นายจอร์จ โซรอส นักลงทุนและมหาเศรษฐีชื่อดังของโลก ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับวิกฤตการเงินโลกที่เกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้ ถือว่าเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในช่วง ค.ศ. 1930 (Great Depression) พร้อมกับเชื่อมั่นว่า ตลาดจะร่วงลงอีกในปีนี้หลังจากที่ดีดตัวขึ้นเป็นช่วงสั้นๆ
โซรอสกล่าวให้สัมภาษณ์ที่นิวยอร์กถึงตลาดหุ้นที่พุ่งขึ้นและเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นหลังจากที่เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้ซื้อกิจการแบร์ สเติร์นส์ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.นี้ว่า ตอนนี้ตลาดอยู่ในช่วงตกต่ำ และก็อาจยังไม่ใช่ช่วงตกต่ำที่สุด เขากล่าวว่า ตลาดอาจดีดตัวขึ้นแค่ 6 สัปดาห์จนถึง 3 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอยเต็มที
ทั้งนี้ หลังจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดอันมีต้นเหตุมาจากผลพวงของซับไพรม์สหรัฐเมื่อฤดูร้อนปีที่แล้ว โซรอส ได้กลับมามีบทบาทมากขึ้นในการบริหารกองทุนควอนตัม เอ็นโดว์เมนท์ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งกำไรจากกองทุนจะถูกนำไปใช้ในโครงการเพื่อการกุศล ควอนตัมมีผลตอบแทนโดยเฉลี่ย 30% ต่อปี ก่อนที่โซรอสจะเริ่มใช้ผู้จัดการคนนอกมาบริหารกองทุนของตนเองเมื่อปี 2543
พ่อมดการเงิน วัย 77 ปี ยังได้ตัดสินใจเขียนหนังสือ "The New Paradigm for Financial Markets'' และได้มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์แล้ววันนี้ โดยเนื้อหาในหนังสือได้อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้ตลาดร่วงและยังเป็นวิกฤตที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ ค.ศ.1980
โซรอส ยังคาดการณ์ว่า เงินดอลลาร์ หุ้นสหรัฐและยุโรปและพันธบัตรระยะเวลา 10 ปีของสหรัฐจะตกลง และคาดว่าสกุลเงินต่างประเทศจะแข็งค่าขึ้น รวมทั้งหุ้นจีนและอินเดีย ซึ่งหุ้นอินเดียช่วยให้กองทุนควอนตัมมีผลตอบแทนถึง 32% ในปีที่แล้ว ส่วนผลตอบแทนของควอนตัมปีนี้คาดว่า จะอยู่ในช่วงเพิ่มขึ้น 3% หรือปรับตัวลง 3%