เฟดจับเข่ากระทรวงการคลังสหรัฐ ผ่าทางตันตลาดการเงิน โดยประกาศแผนอุ้ม "แฟนนี เม"-"เฟรดดี แมค" ซึ่งขาดทุนบักโกรกจากตลาดปล่อยกู้จำนอง ส่งผลให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
วันนี้ (14 ก.ค.) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และกระทรวงการคลังสหรัฐ ประกาศแผนพยุงกิจการบริษัทแฟนนี แม และ เฟรดดี แมค หลังจากทั้ง 2 บริษัทขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองจนเป็นเหตุให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก
แฟนนี เม และเฟรดดี แมค เป็นหน่วยงานซึ่งรัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) มีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้านและนักลงทุน
เฟดระบุว่า แผนการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะพยุงสถานะทางการเงินของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกว่า รัฐบาลสหรัฐพร้อมที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องตลาดสินเชื่อไม่ให้ประสบปัญหามากไปกว่าปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดการเงินสหรัฐผันผวนอย่างรุนแรงเนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่มีความน่าเชื่อถือต่ำ (ซับไพรม์)
"ภายใต้แผนการดังกล่าว คณะกรรมการเฟดได้อนุญาตให้เฟดสาขานิวยอร์กมีอำนาจในการปล่อยวงเงินกู้ให้กับแฟนนี เม และเฟรดดี แมค หากพบว่าบริษัททั้งสองจำเป็นต้องกู้เงิน ด้วยอัตราดอกเบี้ย 2.25% ซึ่งเท่ากับอัตราดอกเบี้ยที่เฟดเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์รายใหญ่และบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีท เฟดเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้เฟนนี เม และเฟรดดี แมค มีสภาพคล่องมากพอในยามที่ตลาดการเงินประสบภาวะตึงตัวเช่นนี้"
ด้านนายเฮนรี พอลสัน รมว.คลังสหรัฐ กล่าวว่า กระทรวงการคลังเตรียมยื่นขออนุมัตจากสภาคองเกรสเพื่อขยายวงเงินกู้ให้กับแฟนนี เม และเฟรดดี แมค หากทั้งสองบริษัทจำเป็นต้องระดมเงิน และอาจต้องเข้าซื้อหุ้นในสองบริษัท หากจำเป็นเช่นกัน
"แฟนนี เม และเฟรดดี แมค มีบทบาทสำคัญในระบบปล่อยกู้จำนองเพื่อการซื้อบ้านของสหรัฐ ดังนั้นรัฐบาลจึงจำเป็นต้องเข้าแทรกแซงเพื่อให้กิจการของทั้งสองบริษัทดำเนินต่อไปได้ ซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของผู้ถือหุ้น กระทรวงการคลังเชื่อว่าการสนับสนุนแฟนนี เม และเฟรดดี แมค เป็นยุทธศาสตร์สำคัญในยามที่ตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐอยู่ในช่วงขาลง" พอลสันกล่าว
ขณะที่ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้แนะนำให้รมว.พอลสันร่วมมือกับสภาคองเกรสอย่างเร่งด่วนเพื่อให้แผนการดังกล่าวสำเร็จ และเชื่อว่าแผนการนี้จะช่วยสร้างเสถียรภาพในระบบการเงินได้
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นทั่วโลกตกอยู่ในภาวะตื่นตระหนกนับตั้งแต่เลห์แมน บราเธอร์ส เปิดเผยเมื่อวันที่ 7 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า แฟนนี เม และเฟรดดี แมค อาจจำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม เนื่องจากตลาดสินเชื่อยังคงเผชิญกับวิกฤตการณ์ที่ย่ำแย่ โดยคาดว่าแฟนนี เม อาจต้องระดมทุนราว 4.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และเฟรดดี แมค อาจระดมทุนราว 2.9 หมื่นล้านดอลลาร์
ด้านวุฒิสมาชิก จอห์น แมคเคน ตัวแทนพรรครีพับลิกันที่เตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ แสดงความเห็นว่า "แฟนนี แม และ เฟรดดี แมค มีขนาดใหญ่และสำคัญเกินกว่าที่รัฐบาลสหรัฐจะปล่อยให้ล้มได้ ทั้งสองบริษัทเป็นเสมือน 'สายป่าน' ของรัฐบาลสหรัฐ และแหล่งเงินทุนที่ทำให้ชาวอเมริกันสามารถมีบ้านเป็นของตนเองได้" แมคเคนกล่าวทิ้งท้าย
