กสิกรไทยประเมินภาพรวมสินเชื่อบ้านปีหน้าฝืด หลังมีการปรับราคาตามวัสดุก่อสร้างอีก 10-20% และค่าครองชีพที่สูงขึ้น พร้อมเตรียมอัดแคมเปญรักษายอดการปล่อยกู้ให้โตเท่ากับปีนี้ โดยในงาน NPA Grand Sale นำเอ็นพีเอร่วมงาน 739 รายการ มูลค่า 3.1 พันล้าน แถมให้ส่วนลด 10-50% ด้านสคิบนำเอ็นพีเอเด่นบนทำเลดีกว่า 2,000 รายการ มูลค่า 2,500 ล้าน และมอบส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 35%
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยถึงทิศทางการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีหน้า ว่า โดยภาพรวมแล้วการปล่อยสินเชื่อบ้านในปีหน้าน่าจะมีความยากลำบากมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ โดยพิจารณาจากราคาน้ำมันในช่วงปีนี้ที่ปรับตัวขึ้นถึง 40% ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 10-20% และจะส่งผลให้ราคาบ้านปรับเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของประชาชนเป็นลูกโซ่ต่อกันไป อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะพยายามรักษาการเติบโตของสินเชื่อในปีหน้าให้ได้ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยใช้กลยุทธด้านกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การออกบูธ มากขึ้น
“จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20% ราคาบ้านก็จะเพิ่มขึ้นตาม คิดง่ายๆ อย่างราคาบ้าน 2 ล้านบาทราคาก็จะเพิ่มขึ้น 2-4 แสนบาท ขณะที่ค่าครองชีพด้านอื่นๆก็เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ที่จะซื้อบ้านต้องคิดหนักขึ้น ซึ่งปัจจัยนี้มีผลมากกว่าอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะ หากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1% จะทำให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้น 2-4 หมื่นบาท จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ลูกค้าน่าจะตัดสินใจซื้อบ้านในปีนี้ มากกว่าที่รอให้ราคาขึ้นในปีหน้า" นายชาติชายกล่าว
สำหรับในงาน NPA Grand Sale ครั้งที่ 7 จัดขึ้นวันที่ 11-13 ก.ค.2551 นั้น ธนาคารได้นำสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) มาร่วมงาน 739 รายการ หรือคิดเป็นมูลค่า 3.1 พันล้านบาท โดยธนาคารได้มีการลดราคา 10-50% คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ใน 6 เดือนแรก ซึ่งคาดว่าจากการจัดกิจกรรมประเภทดังกล่าว จะทำให้ธนาคารสามารถขาย NPA ได้ปีละ 4,000 ล้านบาท แต่ธนาคารมีแผนที่จะซื้อ NPA ใหม่เข้ามาบริหาร จึงทำให้ในแต่ละปี NPA ลดลงสุทธิ 1-2 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธนาคารมีจำนวน NPA รวมที่ประมาณ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับที่ต่ำ
**SCIB จัดสินเชื่อที่อยู่อาศัยลด 35%**
รายงานข่าวจากธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ในงาน NPA Grand Sale ธนาคารนำบริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและจำหน่ายเอ็นพีเอคุณภาพดีในราคาพิเศษบนทำเลดีทั่วประเทศจำนวน 2,000 รายการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท พร้อมให้ส่วนลดจากราคาปกติสูงสุดถึง 35%ให้กับลูกค้า และเมื่อซื้อทรัพย์สินราคาพิเศษ 1 รายการ ยังได้สิทธิซื้อทรัพย์สินรายการที่ 2 ที่ร่วมรายการและส่วนลดเพิ่มอีก 5% ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบริการ “สินเชื่อทวีโชค” สำหรับซื้อเอ็นพีเอของธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.5% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.50% ต่อปี วงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 90% ของราคาขายระยะเวลากู้สูงสุด 20 ปี ส่วน บริการ “สินเชื่อทวีโชคแบบผ่อนชำระ” เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจซื้อเอ็นพีเอของธนาคารแต่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อสามารถผ่อนชำระราคาทรัพย์ตามเงื่อนไขของธนาคารติดต่อกัน 36 งวด โดยไม่ผิดนัด ธนาคารจะดำเนินการโอนค่าซื้อทรัพย์สินส่วนที่เหลือให้เป็นวงเงินสินเชื่อทวีโชค
และบริการ “สินเชื่อเคหะนครหลวงไทย” ปล่อยกู้ประเภทที่อยู่อาศัยและที่ดินเปล่า อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.25% ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.5% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 95% ระยะเวลากู้สูงสุด 30 ปี
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยถึงทิศทางการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยในปีหน้า ว่า โดยภาพรวมแล้วการปล่อยสินเชื่อบ้านในปีหน้าน่าจะมีความยากลำบากมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีนี้ โดยพิจารณาจากราคาน้ำมันในช่วงปีนี้ที่ปรับตัวขึ้นถึง 40% ส่งผลให้ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้น 10-20% และจะส่งผลให้ราคาบ้านปรับเพิ่มขึ้นตาม ซึ่งราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อบ้านของประชาชนเป็นลูกโซ่ต่อกันไป อย่างไรก็ตาม ธนาคารจะพยายามรักษาการเติบโตของสินเชื่อในปีหน้าให้ได้ใกล้เคียงกับปีนี้ โดยใช้กลยุทธด้านกิจกรรมส่งเสริมการขาย เช่น การออกบูธ มากขึ้น
“จากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาวัสดุก่อสร้างเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20% ราคาบ้านก็จะเพิ่มขึ้นตาม คิดง่ายๆ อย่างราคาบ้าน 2 ล้านบาทราคาก็จะเพิ่มขึ้น 2-4 แสนบาท ขณะที่ค่าครองชีพด้านอื่นๆก็เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ที่จะซื้อบ้านต้องคิดหนักขึ้น ซึ่งปัจจัยนี้มีผลมากกว่าอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะ หากดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 1% จะทำให้ราคาบ้านเพิ่มขึ้น 2-4 หมื่นบาท จากปัจจัยดังกล่าวทำให้ลูกค้าน่าจะตัดสินใจซื้อบ้านในปีนี้ มากกว่าที่รอให้ราคาขึ้นในปีหน้า" นายชาติชายกล่าว
สำหรับในงาน NPA Grand Sale ครั้งที่ 7 จัดขึ้นวันที่ 11-13 ก.ค.2551 นั้น ธนาคารได้นำสินทรัพย์รอการขาย (เอ็นพีเอ) มาร่วมงาน 739 รายการ หรือคิดเป็นมูลค่า 3.1 พันล้านบาท โดยธนาคารได้มีการลดราคา 10-50% คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ใน 6 เดือนแรก ซึ่งคาดว่าจากการจัดกิจกรรมประเภทดังกล่าว จะทำให้ธนาคารสามารถขาย NPA ได้ปีละ 4,000 ล้านบาท แต่ธนาคารมีแผนที่จะซื้อ NPA ใหม่เข้ามาบริหาร จึงทำให้ในแต่ละปี NPA ลดลงสุทธิ 1-2 พันล้านบาท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ธนาคารมีจำนวน NPA รวมที่ประมาณ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับที่ต่ำ
**SCIB จัดสินเชื่อที่อยู่อาศัยลด 35%**
รายงานข่าวจากธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ในงาน NPA Grand Sale ธนาคารนำบริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและจำหน่ายเอ็นพีเอคุณภาพดีในราคาพิเศษบนทำเลดีทั่วประเทศจำนวน 2,000 รายการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท พร้อมให้ส่วนลดจากราคาปกติสูงสุดถึง 35%ให้กับลูกค้า และเมื่อซื้อทรัพย์สินราคาพิเศษ 1 รายการ ยังได้สิทธิซื้อทรัพย์สินรายการที่ 2 ที่ร่วมรายการและส่วนลดเพิ่มอีก 5% ด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบริการ “สินเชื่อทวีโชค” สำหรับซื้อเอ็นพีเอของธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.00% ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.5% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 0.50% ต่อปี วงเงินสินเชื่อสูงสุดถึง 90% ของราคาขายระยะเวลากู้สูงสุด 20 ปี ส่วน บริการ “สินเชื่อทวีโชคแบบผ่อนชำระ” เพื่อให้ลูกค้าที่สนใจซื้อเอ็นพีเอของธนาคารแต่ไม่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาสินเชื่อสามารถผ่อนชำระราคาทรัพย์ตามเงื่อนไขของธนาคารติดต่อกัน 36 งวด โดยไม่ผิดนัด ธนาคารจะดำเนินการโอนค่าซื้อทรัพย์สินส่วนที่เหลือให้เป็นวงเงินสินเชื่อทวีโชค
และบริการ “สินเชื่อเคหะนครหลวงไทย” ปล่อยกู้ประเภทที่อยู่อาศัยและที่ดินเปล่า อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก ปีที่ 1 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.25% ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.5% ต่อปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ลบ 1.00% ต่อปี วงเงินกู้สูงสุด 95% ระยะเวลากู้สูงสุด 30 ปี