มารีฟรานซ์ รุกตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ สวนภาวะเศรษฐกิจ-ค่าครองชีพพุ่ง เมินตัดงบการตลาดชูความเป็นแบรนด์อินเตอร์ มั่นใจสิ้นปีครองมาร์เก็ตแชร์อันดับ 1 ที่ 60%
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไป สถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วน มารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาพรวมของเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่าค่อนข้างชะลอตัว โดยเห็นได้ชัดจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับขึ้นของราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ซึ่งสวนทางกับรายได้ของประชาชน ที่ยังไม่ขยับ ส่งผลให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดในการใช้จ่ายแต่ละครั้ง
ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินธุรกิจของมารีฟรานซ์ ในสภาวะเศรษฐกิจขาลงได้มีการปรับแผนงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมของเศรษฐกิจในยามที่มีปัจจัยลบเข้ามา ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง การชุมนุม ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่างๆ แต่ในภาคการดำเนินงานของมารีฟรานซ์ ยังคงเดินหน้าพัฒนาความเป็นมืออาชีพในการให้บริการดูแลบุคลิกรูปร่าง โดยในปีนี้ มารีฟรานซ์ ได้ทุ่มงบการตลาดไว้ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่มีการใช้งบการตลาด 200 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าตลาดสลิมมิ่งยังเป็นที่ต้องการของผู้รักสวยรักงาม
“ตลาดของธุรกิจสลิมมิ่งในปีนี้น่าจะแข่งขันไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากมีปัจจัยของภาวะเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ตลาดสลิมมิ่งหลายๆ ที่ต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะบริษัทที่อยู่ในประเทศจะหันมาเล่นกลยุทธ์ด้านราคาเข้ามาต่อสู้ รวมถึงนำพรีเซ็นเตอร์ที่มีชื่อเสียงลงมาเล่นตลาด แต่ในส่วนของมารีฟรานซ์ฯ งบการตลาดต่างๆ เรายังคงไว้เหมือนเดิมไม่มีการตัดงบแม้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม” นางสาวศศิวีณ์ กล่าว
สำหรับครึ่งปีหลัง มารีฟรานซ์ เน้นทำบีโลว์เดอะไลน์มากขึ้น ล่าสุด ใช้งบ 5 ล้านบาท เปิดสาขา MRT พหลโยธิน จับกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน ต้องการความรวดเร็วในการทำทรีทเมนต์ หลังจากประสบความสำเร็จเปิดสาขา MRT สุขุมวิทไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และใช้งบ 10 ล้านบาท ร่วมมือกับเครื่องใช้ไฟฟ้าฮิตาชิ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในเดือน มิ.ย.ถึง ก.ค.ด้วยการจัดแคมเปญมอบเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 500 ชิ้น
นอกจากนี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมร่วมกับทรูแฟนเทเชีย “AF Power Active Tour” (เอเอฟ พาวเวอร์ แอคทีฟ ทัวร์) ด้วยการนำศิลปิน AF มาแสดงคอนเสิร์ตให้กับลูกค้ามารีฟรานซ์ได้ร่วมสัมผัสนำร่องจัดแสดงที่ จ.เชียงใหม่ จะเดินสายจัดอย่างต่อเนื่องทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม ภายในสิ้นปี มารีฟรานซ์ จะครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 60% และขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน มารีฟรานซ์ มีสาขา 19 สาขา โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมาเปิด 2 สาขา คือ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ทาวเวอร์ และ MRT พหลโยธิน และสิ้นปีมีแผนที่จะเปิดที่พัทยาอีก 1 สาขา และจะทำการย้ายสาขาจากศรีราชามาที่ชลบุรีอีก 1 สาขา เพื่อขยายพื้นที่รองรับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สิ้นปีนี้มารีฟรานซ์จะมีสาขาทั้งสิ้น 21 สาขา
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไป สถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วน มารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงภาพรวมของเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้ว่าค่อนข้างชะลอตัว โดยเห็นได้ชัดจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับขึ้นของราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ซึ่งสวนทางกับรายได้ของประชาชน ที่ยังไม่ขยับ ส่งผลให้ประชาชนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น เพื่อให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุดในการใช้จ่ายแต่ละครั้ง
ทั้งนี้ ในส่วนของการดำเนินธุรกิจของมารีฟรานซ์ ในสภาวะเศรษฐกิจขาลงได้มีการปรับแผนงานอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้สอดคล้องกับภาพรวมของเศรษฐกิจในยามที่มีปัจจัยลบเข้ามา ทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง การชุมนุม ซึ่งปัจจัยดังกล่าวยอมรับว่าส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่างๆ แต่ในภาคการดำเนินงานของมารีฟรานซ์ ยังคงเดินหน้าพัฒนาความเป็นมืออาชีพในการให้บริการดูแลบุคลิกรูปร่าง โดยในปีนี้ มารีฟรานซ์ ได้ทุ่มงบการตลาดไว้ที่ 300 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาที่มีการใช้งบการตลาด 200 ล้านบาท เนื่องจากมองว่าตลาดสลิมมิ่งยังเป็นที่ต้องการของผู้รักสวยรักงาม
“ตลาดของธุรกิจสลิมมิ่งในปีนี้น่าจะแข่งขันไม่รุนแรงมากนัก เนื่องจากมีปัจจัยของภาวะเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ตลาดสลิมมิ่งหลายๆ ที่ต้องมีการปรับตัว โดยเฉพาะบริษัทที่อยู่ในประเทศจะหันมาเล่นกลยุทธ์ด้านราคาเข้ามาต่อสู้ รวมถึงนำพรีเซ็นเตอร์ที่มีชื่อเสียงลงมาเล่นตลาด แต่ในส่วนของมารีฟรานซ์ฯ งบการตลาดต่างๆ เรายังคงไว้เหมือนเดิมไม่มีการตัดงบแม้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรก็ตาม” นางสาวศศิวีณ์ กล่าว
สำหรับครึ่งปีหลัง มารีฟรานซ์ เน้นทำบีโลว์เดอะไลน์มากขึ้น ล่าสุด ใช้งบ 5 ล้านบาท เปิดสาขา MRT พหลโยธิน จับกลุ่มลูกค้าวัยทำงาน ต้องการความรวดเร็วในการทำทรีทเมนต์ หลังจากประสบความสำเร็จเปิดสาขา MRT สุขุมวิทไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และใช้งบ 10 ล้านบาท ร่วมมือกับเครื่องใช้ไฟฟ้าฮิตาชิ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในเดือน มิ.ย.ถึง ก.ค.ด้วยการจัดแคมเปญมอบเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 500 ชิ้น
นอกจากนี้ บริษัทได้จัดกิจกรรมร่วมกับทรูแฟนเทเชีย “AF Power Active Tour” (เอเอฟ พาวเวอร์ แอคทีฟ ทัวร์) ด้วยการนำศิลปิน AF มาแสดงคอนเสิร์ตให้กับลูกค้ามารีฟรานซ์ได้ร่วมสัมผัสนำร่องจัดแสดงที่ จ.เชียงใหม่ จะเดินสายจัดอย่างต่อเนื่องทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตาม ภายในสิ้นปี มารีฟรานซ์ จะครองส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 60% และขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบัน มารีฟรานซ์ มีสาขา 19 สาขา โดยช่วงต้นปีที่ผ่านมาเปิด 2 สาขา คือ เซ็นทรัลปิ่นเกล้า ทาวเวอร์ และ MRT พหลโยธิน และสิ้นปีมีแผนที่จะเปิดที่พัทยาอีก 1 สาขา และจะทำการย้ายสาขาจากศรีราชามาที่ชลบุรีอีก 1 สาขา เพื่อขยายพื้นที่รองรับลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สิ้นปีนี้มารีฟรานซ์จะมีสาขาทั้งสิ้น 21 สาขา
