ผู้จัดการรายวัน - นายกสมาคมการขายตรงไทย ชี้ ธุรกิจขายตรงครึ่งปีหลัง ต้องออกแรงเหนื่อย หลังพบตลาดโตแค่ 7% ผู้ประกอบการปรับกลยุทธ์ ลดคอสต์เอื้อนักธุรกิจขายตรง พิษเศรษฐกิจพ่นตลาดถึงขนาดต้องประคองภาพรวมทั้งปีโต 7- 10 % ด้านสถาบันลดน้ำหนักตลาดไม่คึกคัก ศึกใช้พรีเซ็นเตอร์ชิงลูกค้าแผ่ว ผุดวิธีลดงบการตลาดลง ทั้งปีตลาดโต 20% ถือว่าเจ๋งแล้ว
แพทย์หญิง นลินี ไพบูลย์ นายกสมาคมการขายตรงไทย และประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงกิฟฟารีน เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 7% เท่านั้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว และผลพวงจากราคาน้ำมัน ราคาสินค้าที่แพงขึ้น ทำให้ค่าครองชีพของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จึงมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย
ดังนั้นคาดว่าแนวโน้มธุรกิจขายตรงในช่วงครึ่งปีหลัง ผู้ประกอบการคงต้องออกแรงในการดำเนินการตลาดในเชิงรุกให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเอื้อให้นักธุรกิจขายตรงทำงานได้ง่ายมากขึ้น เช่น ผู้ประกอบการออกพบกับนักธุรกิจขายตรงแทนการเรียกประชุม เพื่อลดค่าใช้จ่ายเดินทาง โดยคาดว่าทั้งปีภาพรวมธุรกิจขายตรงเติบโต 7-10% ซึ่งว่าเป็นการเติบโตไม่มาก เมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจปกติธุรกิจขายตรงเติบโต 10-15%
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาผลประกอบการกิฟฟารีน มีอัตราการเติบโต 10.88% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งหากเศรษฐกิจดี ธุรกิจขายตรงก็จะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุก ทั้งจากการกระตุ้นนักธุรกิจขายตรง และการมีสินค้าใหม่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง จะช่วยกระตุ้นให้ผลประกอบการทั้งปีของบริษัทมีอัตราการเติบโต 10%
**มารีฟรานซ์ชี้ธุรกิจลดน้ำหนักวูบ**
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไป สถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วนมารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มสถาบันลดน้ำหนักมูลค่า 3,000 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10 % หรือไม่เกิน 15% เท่านั้น ขณะที่ครึ่งปีแรกตลาดมีอัตราการเติบโต 18% เนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ และมาจากผู้ประกอบการธุรกิจสถาบันลดน้ำหนักไม่ค่อยดำเนินกิจกรรมกระตุ้นตลาดมากนัก โดยเฉพาะกลยุทธ์การนำพรีเซ็นเตอร์ขึ้นมาใช้เป็นจุดขาย เพราะต้องการประหยัดงบในการทำตลาด
ทั้งนี้คาดว่าปีนี้ตลาดสถาบันลดน้ำหนักจะมีอัตราการเติบโต 20% ก็ถือว่าดีแล้ว ขณะนี้สถาบันลดน้ำหนักรายเล็กถึงกลาง ค่อนข้างได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอย่างน้อย ส่วนภาพรวมตลาดก็ชะลอตัวตามไปด้วย ซึ่งปกติในช่วงไตรมาสสี่ จะมีการแข่งขันที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ โปรโมชัน การจัดกิจกรรม เป็นต้น แต่ปีนี้คาดว่าจะแผ่วลง สำหรับมารีฟรานซ์ผลประกอบการทั้งปีคาดว่ามีอัตราการเติบโต 30% โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโต 15%
แพทย์หญิง นลินี ไพบูลย์ นายกสมาคมการขายตรงไทย และประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงกิฟฟารีน เปิดเผยกับ "ผู้จัดการรายวัน" ว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 7% เท่านั้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว และผลพวงจากราคาน้ำมัน ราคาสินค้าที่แพงขึ้น ทำให้ค่าครองชีพของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จึงมีความระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย
ดังนั้นคาดว่าแนวโน้มธุรกิจขายตรงในช่วงครึ่งปีหลัง ผู้ประกอบการคงต้องออกแรงในการดำเนินการตลาดในเชิงรุกให้มากขึ้น โดยเฉพาะการเอื้อให้นักธุรกิจขายตรงทำงานได้ง่ายมากขึ้น เช่น ผู้ประกอบการออกพบกับนักธุรกิจขายตรงแทนการเรียกประชุม เพื่อลดค่าใช้จ่ายเดินทาง โดยคาดว่าทั้งปีภาพรวมธุรกิจขายตรงเติบโต 7-10% ซึ่งว่าเป็นการเติบโตไม่มาก เมื่อเทียบกับภาวะเศรษฐกิจปกติธุรกิจขายตรงเติบโต 10-15%
สำหรับในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาผลประกอบการกิฟฟารีน มีอัตราการเติบโต 10.88% ซึ่งถือว่าเป็นอัตราการเติบโตตามสภาพเศรษฐกิจ ซึ่งหากเศรษฐกิจดี ธุรกิจขายตรงก็จะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้น และจากการดำเนินการตลาดเชิงรุก ทั้งจากการกระตุ้นนักธุรกิจขายตรง และการมีสินค้าใหม่เปิดตัวอย่างต่อเนื่อง จะช่วยกระตุ้นให้ผลประกอบการทั้งปีของบริษัทมีอัตราการเติบโต 10%
**มารีฟรานซ์ชี้ธุรกิจลดน้ำหนักวูบ**
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไป สถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วนมารีฟรานซ์ บอดี้ไลน์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มสถาบันลดน้ำหนักมูลค่า 3,000 ล้านบาท ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะมีอัตราการเติบโต 10 % หรือไม่เกิน 15% เท่านั้น ขณะที่ครึ่งปีแรกตลาดมีอัตราการเติบโต 18% เนื่องจากผลพวงจากภาวะเศรษฐกิจ และมาจากผู้ประกอบการธุรกิจสถาบันลดน้ำหนักไม่ค่อยดำเนินกิจกรรมกระตุ้นตลาดมากนัก โดยเฉพาะกลยุทธ์การนำพรีเซ็นเตอร์ขึ้นมาใช้เป็นจุดขาย เพราะต้องการประหยัดงบในการทำตลาด
ทั้งนี้คาดว่าปีนี้ตลาดสถาบันลดน้ำหนักจะมีอัตราการเติบโต 20% ก็ถือว่าดีแล้ว ขณะนี้สถาบันลดน้ำหนักรายเล็กถึงกลาง ค่อนข้างได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจอย่างน้อย ส่วนภาพรวมตลาดก็ชะลอตัวตามไปด้วย ซึ่งปกติในช่วงไตรมาสสี่ จะมีการแข่งขันที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ โปรโมชัน การจัดกิจกรรม เป็นต้น แต่ปีนี้คาดว่าจะแผ่วลง สำหรับมารีฟรานซ์ผลประกอบการทั้งปีคาดว่ามีอัตราการเติบโต 30% โดยในช่วงครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโต 15%