xs
xsm
sm
md
lg

ขายตรงปรับตัวรับตลาดซา คอนซูเมอร์อ่วมลดโปรโมชัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกสมาคมธุรกิจขายตรง ชี้ ปีนี้เป็นปีแห่งความยากลำบาก ส่องกำลังการซื้อทั้งปีไม่กระเตื้อง ทัพธุรกิจขายตรงเร่งปรับกลยุทธ์อย่างหนักกระตุ้นยอดขาย อัดนวัตกรรมใหม่ทะลวงสาวไทย  ด้านสินค้าอุปโภคบริโภคอ่วม กำลังซื้อไม่ฟื้น แต่ยังได้รับอานิสงส์กำลังซื้อจากภูธรอุ้ม หลังเป็นปีทองสินค้าเกษตร  ส่วนคนเมืองกรุงยอดขายวูบ

แพทย์หญิง นลินี ไพบูลย์ นายกสมาคมการขายตรงไทย และประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงกิฟฟารีน เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า ภาพรวมธุรกิจขายตรงในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมานี้ มีอัตราการเติบโต 7% ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่น่าพอใจ ท่ามกลางกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ไม่ดี เนื่องจากราคาน้ำมัน และค่าครองชีพที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่วนผลประกอบการกิฟฟารีนในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโต 8-9% สูงกว่าตลาดรวมเพียงเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไตรมาสสอง ถือว่าเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่โลว์ซีซันของธุรกิจขายตรง เนื่องจากลูกค้านำเงินไปจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตามด้วยในช่วงเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเปิดเทอม พ่อแม่นำเงินไปใช้กับการจับจ่ายเสื้อผ้านักเรียนและอุปกรณ์การเรียน ผสมกับกำลังการซื้อของผู้บริโภคในช่วงไตรมาสสอง ซึ่งคาดว่าจะไม่ดีขึ้น

ดังนั้น ผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงต้องปรับกลยุทธ์การทำตลาดอย่างหนัก เพื่อรองรับกับภาวะดังกล่าวที่เกิดขึ้น ซึ่งปีนี้คาดว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคทั้งปีจะไม่ดีมากนัก และเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถือว่ากำลังการซื้อของผู้บริโภคดีกว่า จึงเปรียบได้ว่าปีนี้เป็นปีแห่งความยากยิ่งในการทำตลาดมากกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนกลยุทธ์ในการทำตลาดเชื่อว่าผู้ดำเนินธุรกิจขายตรงจะออกสินค้าและนวัตกรรมใหม่ๆ มาสร้างสีสันและความคึกคัก เพื่อกระตุ้นยอดขาย

**คอนซูเมอร์อ่วมเน้นลดต้นทุน**

ด้าน นายบุญฤทธิ์ มหามนตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลอ้อน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยกับ “ผู้จัดการรายวัน” ว่า กำลังการซื้อของผู้บริโภคในช่วงไตรมาสแรกไม่ค่อยดีมากนัก และคาดว่า ในช่วงไตรมาสสองกำลังการซื้อก็ยังไม่ฟื้น เนื่องจากปัจจัยลบจากราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และค่าครองชีพ ราคาอาหารต่างๆ ปรับเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ หากมองภาพรวมการตลาดทั้งปี แบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ กำลังการซื้อของผู้บริโภคในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ไม่ดี เนื่องจากราคาสินค้าที่แพงขึ้น ส่วนกำลังการซื้อในตลาดต่างจังหวัดจะเพิ่มขึ้น เพราะราคาสินค้าเกษตรแทบทุกอย่างปรับเพิ่มขึ้น อาทิ ข้าว และผลไม้ ตลอดจนการหันไปปลูกพืชพลังงาน เป็นต้น ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น

หลังจากผ่านพ้นไปในช่วงไตรมาสแรกไปแล้ว มองว่า การทำตลาดในเรื่องของโปรโมชันปีนี้จะลดลงน้อยลง เนื่องจากผู้ประกอบการมองว่าเป็นต้นทุนที่สูงขึ้น โดยเชื่อว่า ปีนี้เป็นปีแห่งการบริหารต้นทุนให้ได้มากที่สุด มากกว่าในเน้นในเรื่องของยอดขายแต่ไม่กำไร ขณะที่พฤติกรรมของผู้บริโภคเริ่มเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเปลี่ยนแปลงไป โดยหันไปซื้อสินค้าขนาดเล็กลง และมีความระมัดระวังการจับจ่าย อีกทั้งยังประหยัดกับการใช้สินค้า

สำหรับผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกบริษัทมีอัตราการเติบโตกว่า 10% เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่ทั้งปีบริษัทตั้งเป้ามีอัตราการเติบโต 14-15% หรือราวกว่า 8,800 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 7,700 ล้านบาท โดยคาดว่าปีนี้การเติบโตจะเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ และไม่มีแผนปรับเป้าการเติบโต  
กำลังโหลดความคิดเห็น